เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงอู๋วั่ง ซ่งหวานหว่านก็ชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นดวงตาก็เบิกกว้าง ไม่จริงใช่ไหม?
บุรุษสุนัขผู้นี้ ปกป้องกันขนาดนี้เชียว
ทว่าเพียงชั่วครู่ต่อมา เจียงอู๋วั่งกลับมองไปทางซูมู่เสวี่ยอย่างเย็นเยียบ "ไม่เคารพหวางเฟย ไม่มีสัมมาคารวะ ขออภัยหวางเฟยเสีย!"
ซ่งหวานหว่าน "???"
หืม? คนที่ถูกลงโทษคือซูมู่เสวี่ยหรอกหรือ
ซูมู่เสวี่ยกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาคลอหน่วย ก่อนจะย่อกายขอโทษซ่งหวานหว่านอย่างไม่ใคร่จะเต็มใจนัก
"พี่สาวหวางเฟย น้องสาวผิดไปแล้ว หวังว่าท่านจะให้อภัย"
ซ่งหวานหว่านพลันกระตือรือร้นขึ้นมา กล่าวอย่างเบิกบานใจว่า "ดูเหมือนว่าน้องสาวเช่อเฟยจะยังไม่ได้ทำความเคารพหวางเฟยอย่างข้าเลย"
"เจ้า!" ซูมู่เสวี่ยใช้ดวงตาแดงเรื่อจ้องถลึงใส่นาง แต่ยังคงกัดริมฝีปากย่อกายเอ่ยขึ้นว่า "น้องสาวมาพบพี่สาวหวางเฟย ถวายพระพรพี่สาวหวางเฟยเพคะ"
ซ่งหวานหว่านไม่เอ่ยอะไร แต่มองไปยังอนุภรรยากว่ายี่สิบคนที่อยู่ด้านหลังนางแทน
คนกลุ่มนั้นพลันตระหนกวาบ รีบทำความเคารพซ่งหวานหว่านทันที
"ถวายพระพรพี่สาวหวางเฟยเพคะ!"
ในที่สุดซ่งหวานหว่านก็พอใจ
การแสดงอำนาจของซูมู่เสวี่ยในครั้งนี้ไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการ กลับเป็นตนที่ต้องกล้ำกลืนความลำบากเสียเอง วันเวลาต่อจากนี้ คนที่แล่นเรือไปตามลมเหล่านั้นในจวนอ๋อง คงไม่กล้าสร้างความลำบากให้นางเกินไปหรอกนะ?
ซ่งหวานหว่านยังไม่ทันได้ดีใจ น้ำเสียงหนาวเหน็บทุ้มเย็นสายนั้นของเจียงอู๋วั่งก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
"ฉะนั้น ตอนนี้ก็ถึงตาเจ้าแล้ว พบเจอข้า เจ้าทำความเคารพหรือยัง"
ซ่งหวานหว่านคิดในใจ บ้าอะไรเนี่ย? ดังนั้นเบื้องหน้าที่ตาแก่อย่างเจ้าช่วยข้าพูด ก็เพื่อรอผลลัพธ์นี้งั้นหรือ
ใช้วิธีของนางมาเอาชนะนาง โหดร้ายชะมัด!
คนโบราณกล่าวได้ดี ลูกผู้หญิงยืดได้หดได้ ผู้เข้าใจสถานการณ์นั้นคือยอดสตรี! เคารพก็เคารพสิ เพิ่งมาเยือนที่นี่ นางจะทำอะไรผลีผลามไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ ซ่งหวานหว่านจึงแขวนป้ายรอยยิ้มการค้า ก่อนจะทำความเคารพแล้วกล่าวว่า "หม่อมฉันมาเข้าเฝ้าท่านอ๋อง ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ"
เจียงอู๋วั่งกวาดตามองนางแวบหนึ่งอย่างเย็นชา ก่อนจะยกมือขึ้นเล็กน้อย จากนั้นองครักษ์ก็เข็นเขาออกไป เขากล่าวโดยไม่หันศีรษะกลับมามองว่า "ต่อไปเจ้าก็อาศัยอยู่ที่เรือนฮ่วนซีแล้วกัน หากว่างไม่มีอันใดทำ ก็จงอยู่อย่างสงบเสงี่ยม"
"เพคะ ขอบพระทัยท่านอ๋อง"
ซ่งหวานหว่านตอบกลับด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง มองเงาหลังของเจียงอู๋วั่ง พลางกลอกตาใส่อย่างเงียบๆ เอ่ยคำวิจารณ์ที่อยู่ในใจออกมาว่า "ปกติบุรุษที่มีจิตใจคับแคบ ตรงนั้นมักจะเล็กจิ๋ว ท่านอ๋องผู้นี้ดูท่าคงจะใช้การไม่ได้ จุ๊ๆ"
เจียงอู๋วั่งที่ไปได้ไม่ไกล "..."
องครักษ์ "..." จ้องมองท้องฟ้าพลางส่งเสียงไอ
เจียงอู๋วั่งกัดฟันกล่าวว่า "จัดองครักษ์เงาเฝ้าดูนางทั้งกลางวันกลางคืน หากมีความผิดปกติใดๆ ฆ่าได้ไม่ละเว้น!"
"พ่ะย่ะค่ะ!"
ซ่งหวานหว่านมาถึงเรือนฮ่วนซี ภายใต้การนำทางของบ่าวรับใช้ในจวนอ๋อง
สภาพแวดล้อมที่นี่นับว่าไม่เลว ทั้งพ่อบ้านของจวนอ๋องยังจัดสาวใช้เล็กให้นางอีกคนหนึ่งด้วย
พอเห็นนาง สาวใช้ก็คุกเข่าคำนับนางทันที "บ่าวมีนามว่าเฉาเย่า ถวายบังคมหวางเฟยเพคะ!"
ครั้นเห็นว่าดวงตาของสาวใช้ผู้นี้บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่คล้ายกับเป็นคนเลว ซ่งหวานหว่านก็กล่าวด้วยความรู้สึกเอ็นดูว่า "ลุกขึ้นเถิด ต่อไปทุกคนก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้ว ภายในเรือนฮ่วนซีของข้า ไม่จำเป็นต้องยึดถือพิธีการ"
เฉาเย่าตกตะลึง ส่วนฝูหลิงก็ดวงตาเบิกกว้าง ทำไมนางถึงรู้สึกว่าหลังคุณหนูของนางฟื้นขึ้นมา นิสัยเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปมาก ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ที่ดุร้ายและหยิ่งผยองแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว
"ข้าหิวแล้ว พวกเจ้าไปเตรียมของกินให้ข้าเถอะ"
หลังจากสั่งให้ทั้งสองคนออกไปแล้ว ซ่งหวานหว่านก็กลับไปที่ห้องและปิดประตูทันที
นางเดินไปหยุดตรงหน้าโต๊ะอย่างรวดเร็ว ใช้น้ำจากถ้วยชารดไปที่นิ้วกลางข้างซ้าย จากนั้นก็จ้องไปที่มันเขม็ง
ในเวลาไม่นาน บนนิ้วมือก็ค่อยๆ มีแหวนสีม่วงปรากฏขึ้นมา
"ข้าต้องการหญ้าเจ็ดใบ ดอกมู่เหลียนสีดำ ยอดภูเขาน้ำแข็ง…" ซ่งหวานหว่านพูดถึงสมุนไพรหายากมากกว่าสิบชนิดออกมาในชั่วอึดใจ
"เจ้านาย หญ้าเจ็ดใบกับยอดภูเขาน้ำแข็งไม่มีแล้ว ท่านคิดหาวิธีเอาเองเถอะ ส่วนอย่างอื่นหนูเตรียมไว้ให้หมดแล้ว เอาล่ะ หนูขอไปมาสก์หน้าก่อนนะ บ้ายบาย"
"ถังถัง เจ้าเป็นเด็กผู้ชายน่ารักน่าชังคนหนึ่ง แล้วเจ้าจะมาสก์หน้าไปเพื่ออะไรทุกวัน
"หนูพอใจจะทำ! ผู้ชายก็ต้องดูแลตัวเองเหมือนกันนะ ชิ! หนูต้องหล่อกว่าท่านอ๋องจ้านคนนั้นให้ได้เลย!"
ซ่งหวานหว่านคิดในใจ...เอาเถอะ บุรุษจิตใจลึกดั่งก้นสมุทร นางไม่เข้าใจหรอก
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นทางด้านนอก จากนั้นเฉาเย่าก็ส่งเสียงออกมาว่า "หวางเฟย อาหารมาแล้วเจ้าค่ะ"
พอซ่งหวานหว่านได้ยินตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ตอนนี้ท้องนางร้องประท้วง หิวจะตายอยู่แล้ว
พอเดินออกมานั่งที่โต๊ะ กลับพบว่าบนโต๊ะมีเพียงข้าวสวยหนึ่งชามกับผัดผักเต้าหู้ที่ไม่มีน้ำมันอะไรเลยอีกหนึ่งจาน
"เฉาเย่า จวนอ๋องของพวกเจ้ายากจนถึงเพียงนี้เชียวหรือ ขนาดหวางเฟยยังได้กินแค่น้ำแกงเปล่า?"
"หวัง...หวางเฟยประทานอภัยด้วยเพคะ นี่...นี่เป็นอาหารที่โจวต้าเหนียงแม่ครัวของจวนส่งมา อาหารของท่านเหมือนกับของพวกบ่าว... นางบอกว่า ซูเช่อเฟยเป็นคนจัดเตรียมสิ่งนี้ให้ท่าน... "
ซ่งหวานหว่านพอได้ยินก็โกรธจัด
หนอยแน่ ซูมู่เสวี่ย ต่อหน้าพ่ายแพ้แล้ว ก็มาเล่นลับหลังกันแบบนี้
"หวางเฟย ท่านอ๋องงานราชกิจยุ่งมาก ไม่สนใจเรื่องในเรือนหลัง ตอนนี้เรือนหลังทั้งหมดของจวนอ๋องมีซูเช่อเฟยเป็นคนจัดการเพคะ ต่อไปวันข้างหน้า เกรงว่านางจะพุ่งเป้ามาที่เรา..." เฉาเย่ากล่าวอย่างเป็นห่วง
"พุ่งเป้า? ใครกลัวกัน เจ้าไม่ต้องห่วง ติดตามข้า พวกเจ้าไม่มีทางอดตาย" ซ่งหวานหว่านแค่นเสียงกล่าว "พวกเจ้าไปยกอาหารของพวกเจ้ามา อาเจ้จะจัดมื้อพิเศษให้พวกเจ้าเอง!"
"เพคะ หวางเฟย บ่าวจะไปยกมาเดี๋ยวนี้" เฉาเย่ากล่าวอย่างนอบน้อม
เมื่อนางเดินออกไป ซ่งหวานหว่านก็หยิบอาหารออกมาจากช่องมิติทันที มีขาหมูพร้อมทาน รวมถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำพริกยี่ห้อเหล่ากานมา
หลังหาน้ำเดือดที่อยู่บนโต๊ะเจอ ก็เทลงไป กลิ่นหอมเข้มข้นของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ลอยอบอวลขึ้นมาในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต
ไม่ต่อแล้วหรอออ...
5555555555...
ต่อไหมค่ะ...
สนุกมากกกค่ะ...