ณ เมืองหลวง หนึ่งชั่วยามต่อมาชูซานก็ได้เชิญทหารนายนั้นมา
“คารวะนายท่านกั๋วกงขอรับ” ทนายผู้นี้มีความลนลานอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นเฝิงกั๋วกงก็รีบทำความเคารพ
เฝิงกั๋วกงมองเขาด้วยแววตาอ่อนโยน พลางเอ่ยเสียงอ่อนนุ่มว่า “เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าแค่มีเรื่องจะถามเจ้าเฉย ๆ เจ้าชื่ออะไร?”
“เรียกนายท่านกั๋วกง ข้าน้อยชื่อหยางก่วงเฉวียนขอรับ”
เฝิงกั๋วกงพยักหน้าน้อย ๆ ใบหน้ายังคงความเป็นกันเองดังเดิม ทว่าแววตากลับเฉยชา “วันนี้เจ้าเฝ้าด่านหน้าประตูเมืองหรือ?”
หยางก่วงเฉวียนลังเลชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวว่า “คือ...คือว่าข้าน้อย...ข้าน้อยไม่เห็นอะไรเลยขอรับ”
“เจ้าพูดตรง ๆ ได้เลย ข้าไม่เอาผิดเจ้าหรอก” เฝิงกั๋วกงเชิญเขานั่งแล้วรินน้ำชาให้หนึ่งจอก
หยางก่วงเฉวียนไม่กล้าดื่มน้ำชาและไม่กล้านั่ง เก้ๆกังๆ ชั่วครู่แล้วเอ่ยว่า “นายท่านกั๋วกงโปรดอย่าเอาผิดข้าน้อยนะขอรับ ข้าน้อยเห็นคุณหนูสามกับบุรุษผู้หนึ่งออกนอกเมืองขอรับ ตอนนั้นคุณหนูสามอยู่ในอ้อมกอดของบุรุษผู้นั้นขอรับ”
นัยน์ตาเฝิงกั๋วกงเย็นเยียบ “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าหญิงสาวที่เจ้าเจอคือบุตรสาวของข้า?”
หยางก่วงเฉวียนเอ่ย “ก่อนหน้านี้ข้าน้อยติดตามแม่ทัพซั่งกวนไปที่จวนของท่านขอรับ จึงเคยเห็นหน้าคุณหนูสามครั้งหนึ่ง ดังนั้นข้าน้อยจึงรู้ขอรับ”
เฝิงกั๋วกงขานรับหนึ่งเสียง จากนั้นก็แย้มยิ้ม “ที่แท้ก็เคยเห็นหน้ามาก่อนนี่เอง เช่นนั้นหน้าตาก็คงเหมือนกันมาก แต่เจ้าจำผิดคนแล้ว ตอนนี้ลูกสาวของข้ายังอยู่ในจวน ไม่ได้ออกไปไหนเลย”
หยางก่วงเฉวียนชะงักงัน จากนั้นก็เข้าใจในเจตนารมณ์ของอีกฝ่าย “ขอรับ ข้าน้อยดูผิดไปแล้ว นายท่านกั๋วกงโปรดให้อภัยด้วยขอรับ”
“ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด” เฝิงกั๋วกงแย้มยิ้ม จากนั้นก็กวักมือ ชูซานจึงยัดตั๋วเงินใส่มือของหยางก่วงเฉวียนหนึ่งใบ
“อันนี้...” หยางก่วงเฉวียนลอบมองปราดหนึ่ง พบว่าเป็นตั๋วเงินตั้งหนึ่งร้อยตำลึง ทันใดนั้นก็ตกตะลึงจนตาค้าง
เฝิงกั๋วกงยิ้มเอ่ย “รับไว้เถอะ ข้าเลี้ยงเหล้า แต่ดื่มแล้วอย่าพูดจาเรื่อยเปื่อยละ อะไรที่ควรชี้แจงก็ชี้แจงซะ”
หยางก่วงเฉวียนรีบรับตั๋วเงินไว้ พลางพูดประจบว่า “นายท่านกั๋วกงโปรดวางใจ ข้าน้อยรู้ว่าควรพูดเช่นไรขอรับ”
“ไปเถอะ” เฝิงกั๋วกงยิ้มส่งเขา
หยางก่วงเฉวียนรีบคำนับแล้วเดินออกไป
หลังจากที่ชูซานปิดประตูเสร็จแล้วหันกลับไป ก็เห็นใบหน้าเฝิงกั๋วกงปกคลุมไปด้วยความเกรี้ยวกราด
“นายท่านกั๋วกง ทำแบบนี้ก็คงปิดปากไม่ได้ทุกคนขอรับ” ชูซานเอ่ยด้วยความร้อนรนใจ
เพราะข่าวลือได้แพร่สะพัดไปแล้ว ตอนนั้นมีคนเข้าออกเมืองเป็นจำนวนมาก จึงมีคนพบเห็นและได้ยินไม่น้อยแน่
เส้นโลหิตบนหน้าผากเฝิงกั๋วกงกระตุก “เจ้ารีบส่งคนไปตามหาเร็ว แม้ต้องพลิกแผ่นดินหาก็ต้องหาให้เจอ ต้องหาลูกสาวทรพีกลับมาให้ได้”
“ขอรับ” ชูซานน้อมรับคำสั่งแล้วออกไป
หลังจากที่ชูซานเดินออกไปแล้ว เฝิงกั๋วกงก็ค่อย ๆ หลับตาลง บดบังเพลิงโทสะในดวงตา ทว่าข้างหูยังคงมีถ้อยคำที่จื่อซูพูดด้วยความหนักแน่นลอยเข้ามา
นางจะหนีตามคนรักไปจริงหรือ? ไม่เคยมีวี่แววว่าจะเป็นเช่นนี้มาก่อนเลยสักนิด
บางทีนางแค่กลับไปยังชิงโจวก็เป็นได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวนเวลามาพบท่าน
รออ่านต่อค่ะ ขอบคุณมากค่ะ...
ยังรออ่านอยู่นะคะ...
คุณแอดมินมาเปิดเรื่องอ่อยคนอ่านแล้ว อย่าลืมมาอัพต่อน๊าาาาาาาาา...