บทที่ 11 ตะลึงไปทั้งโรงเรียน
“กริ๊งๆๆๆ”
นาฬิกาปลุกของโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะดังขึ้น หากเธอยังไม่ออกเดินทางไปโรงเรียนในเวลานี้ เธอก็คงจะสายแล้วจริงๆ
กู้จิ่วฉือรีบกินเข้าไปอย่างตะกละตะกลาม
“พี่รอง ฉันไปโรงเรียนไม่ทันแล้วค่ะ พี่ไปส่งฉันหน่อยนะคะ!”
“ไม่มีปัญหา เธอค่อยๆกินเถอะ”
พี่รองกู้ฉียู่หยิบผ้าเช็ดปากที่อยู่บนโต๊ะส่งให้กับเธอ น้ำเสียงรู้สึกประหลาดใจ
หากเป็นเมื่อก่อนอาฉือไม่มีทางที่จะนับญาติกับเขาเป็นแน่ และไม่มีทางที่จะออกตัวขอให้เขาไปส่งเธอที่โรงเรียนด้วย ดูเหมือนของพวกเขาจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก
กู้เชียนก็เหลือบมองน้องสาวด้วยความประหลาดใจครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นประโยคหนึ่งว่า
“ระวังความปลอดภัยล่ะ”
กู้จิ่วฉือรีบกินให้เสร็จอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ไปโรงเรียนกับพี่รอง
รถโรสลอยด์จอดอยู่ด้านหน้าประตูของโรงเรียนมัธยมตระกูลสูงศักดิ์ S สายตาของนักเรียนที่ผ่านไปผ่านมาล้วนจับจ้องอยู่ที่รถคันนั้น เมื่อประตูรถเปิดออก หญิงสาวที่รูปร่างหน้าตาสะดุดตาอยู่บนรถก็ลงมา ดวงตาเป็นประกายดูโดดเด่นมากกว่าคนทั่วไป
ผู้คนเริ่มเกาะกลุ่ม และเสียงเซ็งแซ่ก็เริ่มดังขึ้น
“โอ้พระเจ้า!นี่คือแฟนสาวของตระกูลกู้คุณชายรองเหรอ?”
“จะเป็นไปได้ยังไง นั้นคือกู้จิ่วฉือ ปีศาจน้อยของโรงเรียนมัธยมตระกูลสูงศักดิ์ S ของพวกเราหนินา!”
สาวน้อยที่เมื่อคืนนี้เข้าร่วมงานเลี้ยงของตระกูลฮั่วพูดขึ้น
“จะเป็นไปได้ยังไง!กู้จิ่วฉือปีศาจน้อยคนนั้นรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดจะตาย!”
“ฉันไม่เชื่อหรอก!แต่ว่าเธอรูปร่างหน้าตาเหมือนกู้จิ่วฉือจริงๆนะ!”
กู้จิ่วฉือปฏิบัติต่อสายตาที่มองมาด้วยจิตใจเยือกเย็นไม่สะทกสะท้าน เพราะว่าภาพลักษณ์ของเธอเมื่อก่อนนี้ก็ฝังลึกอยู่ในจิตใจของผู้คนไม่น้อย ไม่ว่าใครก็ยากที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงของเธอในเวลานี้ได้
“อาฉือ ทำไมวันนี้มาเช้าจังเลยล่ะ?”
หลังจากที่กู้จิ่วฉือร่ำลากับพี่รองแล้ว ก็รับสายจากโทรศัพท์ใหม่ที่พี่รองได้ซื้อให้กับเธอ
ขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไป จู่ๆ ก็มีเสียงหวานเลี่ยนดังขึ้นข้างๆเธอ เมื่อเธอหันไปก็เห็นโค้วยู่นเอ๋อยิ้มกริ่มมองมาที่เธอ ทำทีเป็นสนิทสนมต้องการที่จะจับมือกับเธอ
“อาจารย์ที่ปรึกษาได้โทรศัพท์แจ้งกับพี่ชายฉันแล้วว่า หากยังสายอีกจะไล่ฉันออกจากโรงเรียน ฉันไม่มีหนทางอื่นก็ทำเพื่อเงินค่าขนมของตัวเองก็เท่านั้น”
กู้จิ่วฉือแสร้งทำทีไม่สนใจวางกระเป๋าไว้อีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงมือของโค้วยู่นเอ๋อที่ยื่นออกมาพอดี ทั้งแสร้งทำทีระทมทุกข์ อธิบายขึ้นอย่างราบเรียบ
เธอไม่ได้โกหก นักเรียนทั้งห้องมัธยมศึกษาปีที่หกที่เธอเรียนอยู่นี้ล้วนถูกโค้วยู่นเอ๋อผู้ยุยงส่งเสริมจนเละเทะไปหมด เพื่อจีบเจี้ยยู่ถัง ทำให้หลุดออกจากห้องคิงมายังห้องยังบ๊วย ขี้เกียจจนแทบจะเรียนไม่จบ เมื่อชาติที่แล้วในเวลานี้อาจารย์ที่ปรึกษาได้โทรศัพท์หาผู้ปกครองของเธอจริงๆ และทำให้กู้ชิงหยวนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพราะเรื่องนี้ และได้ตำหนิเธอต่อหน้าสาธารณะ ทั้งยังข่มขู่ว่าจะตัดทุกหนทางไม่ให้เงินเธอ
เพียงแต่ว่าในชาติที่แล้วคำพูดของกู้ชิงหยวนเป็นเพียงคำพูดที่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ในชาตินี้เธอวางแผนที่จะฮึกเหิมใฝ่หาความก้าวหน้า
โค้วยู่นเอ๋อไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย คิดว่ากู้จิ่วฉือคงจะเสแสร้งแกล้งทำได้เพียงวันสองวัน ในเมื่อเรื่องนี้เธอก็พอจะได้ยินมาบ้าง เธอพยายามกดความรู้สึกดีอกดีใจที่คนอื่นเกิดความโชคร้ายไว้ในใจ ยังคงปลอบใจกู้จิ่วฉือด้วยการแสดงสีหน้าอ่อนโยนมีเมตตา
“ไม่เป็นไรหรอก เธอเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลกู้ ไม่ว่าจะเป็นยังไงคุณป้าก็คงจะหาวิธีให้เธอเรียนจบให้ได้ ทำเรื่องที่เธออยากทำให้สบายใจเถอะ”
ในใจของกู้จิ่วฉือยิ้มอย่างเย็นชา คำพูดเช่นนี้ในชาติที่แล้วเธอได้ยินมานักต่อนักแล้ว พวกคำพูดที่บอกว่าเธออยากทำอะไรก็ทำเถอะ เพียงเพราะเพื่อต้องการให้ตัวเธอกลายเป็นเศษวะก็แค่นั้น
ชาติที่แล้วเธอขี้เกียจจนแม้สิทธิ์ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่มี เพื่อที่จะให้เธอเรียนจบกู้ชิงหยวนใช้เส้นสายมากมาย
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเลวร้ายลง
แต่โค้วยู่นเอ๋อกลับได้คะแนนดีติดอันดับหนึ่งในสิบของห้องและสอบติดสาขาภาพยนตร์และการแสดง จนสามารถเข้าสู่วงการบันเทิงได้จนมีชื่อเสียงมากมาย อีกทั้งยังทำให้กู้ชิงหยวนรับหล่อนเป็นลูกบุญธรรมอีกด้วยและได้ใช้ชีวิตเป็นดั่งทองพันชั่งของ
“อืม”
กู้จิ่วฉือรับคำอย่างราบเรียบ และเดินเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับโค้วยู่นเอ๋อพลางได้ยินเสียงหญิงสาวสองสามคนกำลังซุบซิบกันดังขึ้นในหู
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ากู้จิ่วฉือสวยกว่าโค้วยู่นเอ๋อเยอะเลยล่ะ!”
“ใช่!โค้วยู่นเอ๋อเป็นดาวโรงเรียนไม่ใช่เหรอ?แต่ทำไมเวลาที่หล่อนเดินอยู่เคียงข้างกู้จิ่วฉือ อย่างกับเป็นสาวใช้ของเธอเลยล่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห่วงรักคุณปีศาจ