ได้ยินประโยคของเหล่ากู้ สองโซวฝูหรงและโค้วยู่นเอ๋อแม่ลูกมองหน้ากันทันที เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมา
ตราบใดที่ตนกับกู้จิ่วฉือผูกมัดกันอยู่ ยังต้องกลัวไม่มีทุนก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงในอนาคตงั้นเหรอ?
โค้วยู่นเอ๋ออารมณ์ดีในทันที อีกทั้งยังเอื้อมมือไปจับมือกู้จิ่วฉือ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความดีใจ
“อาฉือ ต่อจากนี้ไปเราจะดูแลกันและกันนะ เราจะพลิกโฉมวงการบันเทิง และนำความรุ่งโรจน์มาให้กับครอบครัวของเราได้อย่างแน่นอน!”
“ใช่ ยู่นเอ๋อในฐานะที่เป็นพี่สาว จะต้องดูแลอาฉือให้ดี”
โซวฝูหรงรีบเปิดปากร่วมพูดกับลูกสาวในทันควัน
กู้จิ่วฉือขมวดคิ้วเล็กน้อย แกล้งเอื้อมมือไปหยิบนม และสะบัดมือโค้วยู่นเอ๋อออก
แหม่ นังตอแหลทั้งสองนี้ คิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลกู้จริงๆ
“ฉันไม่ได้คิดที่จะขอความช่วยเหลือจากที่บ้าน”
กู้จิ่วฉือปริปากพูดอย่างสงบ สีหน้าของสองแม่ลูกก็เปลี่ยนไปในทันใด เธอแกล้งทำเป็นไม่เห็นและพูดต่อ
“ตอนนี้ฉันแค่ลองเล่นตัวละครตัวประกอบ ยังไม่ทันได้เล่น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปฏิกิริยาจะเป็นอย่างไร มันไม่คุ้มที่จะใช้ทุนของที่บ้าน และไม่คุ้มที่จะเสียความโปรดปรานของพี่ชายคนโตและคุณพ่อ”
“แต่ว่า……”
ในใจของโค้วยู่นเอ๋อกำลังร้อนรุ่ม อยากจะค้านซึ่งๆหน้า แต่รอบนี้กู้จิ่วฉือดันไม่ให้โอกาสเธอ
“อีกทั้งฉันยังไม่ได้ตัดสินใจว่าตัวเองอยากเป็นนักแสดงหรือว่านักดนตรีกันแน่ ก็แค่อยากจะลองทำมันทั้งหมด ดังนั้นเรื่องที่จะเปิดบริษัทบริหารจัดการดูแลศิลปิน ก็ระงับไปก่อนละกัน”
กู้จิ่วฉือพูดจบ เหล่ากู้และพี่ใหญ่ก็ไม่ได้โน้มน้าวเธอต่อ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเอนเอียงความคิดไปทางเธอ
โซวฝูหรงเมื่อเห็นกู้ชิงหยวนเริ่มจะลังเล ก็รีบเปิดปากพูดอย่างระมัดระวัง
“อาฉือ เธอยังเป็นเด็กน้อย และไม่รู้ถึงความโหดร้ายในวงการบันเทิง ครั้งนี้เธอไม่มีอะไรหนุนหลัง ก็ได้แค่บทบาทตัวประกอบ ภายภาคหน้าเธอจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร หยุดเอาแต่ใจได้แล้ว ให้พี่ใหญ่ของเธอเปิดบริษัทบริหารจัดการดูแลศิลปินให้นั่นแหละ!”
ชีวิตก่อนหน้านี้ โซวฝูรงสามารถโน้มน้ามความคิดของกู้ชิงหยวนให้คล้อยตามไปด้วยโดยใช้คำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่คราวนี้โซวฟูหรงดันพลาด
“น้า ทำไมน้าถึงได้ดูถูกฉันตลอด ฉันจะเป็นเหมือนแม่ของฉัน ค่อยๆก้าวหน้าไป! ”
ตอนที่แม่เป็นสุดยอดนักแสดง พ่อยังจีบแม่ไม่สำเร็จเลยด้วย! เธอไม่ได้หาที่พึ่งใดๆ เพราะคิดว่าความพยายามของเธอคือที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”
กู้จิ่วฉือทำหน้ามุ่ย ท่าทีช่างน่ารักและไร้เดียงสา เวลาพูดถึงแม่ แววตาของเธอจะดูเปล่งประกาย
กู้ชิงหยวนมองดูลูกสาวแบบนั้น ก็รู้สึกฉงนเล็กน้อย ใบหน้าเด็กคนนี้ราวกับเขากำลังมองเห็นคนที่เขาคิดถึงอยู่ทั้งวันทั้งคืน
เธอในตอนนั้น ก็เหมือนกับอาฉือในตอนนี้ ทั้งกล้าหาญและเข้มแข็ง
“ไอ้หยา! อาฉือ แม่ของเธอสมัยไหน แล้วตอนนี้สมัยไหน ทั้งสองคนจะเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก…… “
“ทำไมจะเปรียบเทียบไม่ได้?”
โซวฝูหรงยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเหล่ากู้ขัดจังหวะอย่างเย็นชาเสียก่อน
“อาฉือสามารถเอาชนะใจผู้เขียนบทได้ด้วยคลิปวิดีโอสั้นๆ ทันทีที่คัดเลือกเธอก็ได้รับเลือกให้เล่นบทนี้
เธอได้พึ่งครอบครัวที่ไหน? เธอพึ่งความสามารถของตนเอง เหมือนแม่ของเธอ!
ฉันคิดว่าอาฉือพูดถูกมาก ตอนนี้เธอก็โตเป็นผู้ใหญ่เสียที!
แต่เป็นเธอสองคนที่ไม่คิดที่จะใช้ความพยายามของตัวเอง คิดแต่เรื่องให้คนมาหนุนหลัง แล้วแบบนี้จะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
มันก็เท่ากับเหยียบบนภูเขาของตระกูลกู้ นั่นเป็นความสำเร็จจอมปลอม!”
ขณะที่กู้ชิงหยวนกำลังพูด สีหน้าก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ ทันใดนั้นเองนึกย้อนไปถึงการเปลี่ยนไปต่างๆของแม่ลูกโซวฝูหรง ท้ายที่สุดก็ตบตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง!
“ตอนนี้ฉันกลับคิดว่า การตัดสินใจที่รับพวกเธอเข้ามาในตระกูลกู้ถูกหรือไม่…… “
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห่วงรักคุณปีศาจ