วันรุ่งขึ้น กู้จิ่วฉือตื่นแต่เช้าตรู่ แต่กลับไม่ได้ไปโรงเรียน เธอโทรหาอาจารย์ใหญ่เพื่อขอลาหยุด
หลังจากนั้นเธอก็ตรงไปยังสถานที่หนึ่งนั่นก็คือที่อยู่ปัจจุบันของถังยู่
ในชาติที่แล้วถังยู่เป็นผู้จัดการส่วนตัวดีเด่นที่มีทักษะมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขา บริษัทหวงหยูก็คงจะไม่สามารถติดสิบอันดับแรกในแวดวงได้
เพียงเพราะว่าฟานซื่อ ซึ่งเป็นประธานของหวงหยูเป็นคนมองอะไรก็ตื้นเขิน ทันทีที่หวงหยูเพิ่งตั้งตัวได้ ฟานซื่อก็สั่งให้ไล่ถังยู่ออกจากหวงหยู
แน่นอนว่าผลลัพธ์สุดท้ายเป็นเพียงความฉลาดหลักแหลมในระยะสั้น ฟานซื่อไม่มีความสามารถเลย ศิลปินที่ผ่านมือของเขากระแสก็ค่อยๆตก และในที่สุดหวงหยูก็จบลงอย่างคาราคาซัง
หลังจากต่อสู้ดิ้นรนมาหลายปี ในที่สุดก็กลับมามีชื่อเสียง ศิลปินหลายๆคนได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวดีเด่นคนแรกในแวดวงอีกครั้ง ชื่อเสียงเกียรติยศของเขาเรียกได้ว่ามาถึงจุดสูงสุดแล้ว
ในเวลานั้น ในแวดวงก็ไม่มีใครจำได้แล้วว่าฟานซื่อคือใคร
“ลุง ช่วยขับเร็วกว่านี้ได้ไหม ฉันรีบ!”
กู้จิ่วฉือ นั่งอยู่เบาะหลังของรถแท็กซี่เร่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้เธอต้องการใช้ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดนี้ทำความรู้จักและร่วมมือกับถังยู่!
ในช่วงสุดท้ายของชีวิตชาติที่แล้วในคุก ความสุขเดียวของเธอ ก็คือยืนอยู่ตรงมุมห้องน้ำ และแอบดูทีวีอยู่ครู่หนึ่ง
ในเวลานั้น ผู้คุมในเรือนจำหญิงรู้สึกสงสารอาชญากรโทษหนักเหล่านี้ และทุกสุดสัปดาห์นอกจากวิทยาศาสตร์ทางกฎหมายแล้ว ยังจัดรายการวาไรตี้สำหรับพวกเธออีกด้วย
ยังไงเสียเธอก็เป็นนักโทษหญิง จะสนใจอะไรได้อีก?
ในเวลานั้นเองที่กู้จิ่วฉือได้รู้จักถังยู่ผ่านทีวี
เธอจำได้แม่นมาก ว่าถังยู่ที่กลับมามีชื่อเสียงครั้งนี้เขาได้เล่าถึงช่วงเวลาที่มืดมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเน้นยำเรื่องวันรุ่งขึ้นที่ถูกหวงหยูเขี่ยทิ้งออกจากบริษัท และยังบอกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุดในชีวิตของเขา……
“เอี๊ยด!”
คนขับแท็กซี่เบรกกะทันหัน กู้จิ่วฉือก็กลับมารู้สึกตัวทันที
“มาถึงแล้วสาวน้อย แต่ที่นี่เป็นหมู่บ้านในเมืองที่มีชื่อเสียงในตี้จิง ฉะนั้นจึงวุ่นวายมาก หนูแน่ใจเหรอว่าจะลงตรงนี้?”
คนขับหันกลับมามองกู้จิ่วฉือสาวน้อยร่างผอมบาง เขาอดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย และตักเตือน
“คุณลุง ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะอยู่สักประเดี๋ยว แล้วก็จะไปแล้วจ้ะ”
กู้จิ่วฉือยิ้มอย่างเป็นมิตร วางเงินไว้แล้วลุกขึ้นลงจากรถ
“หมายเลข 22 ถนนอูจง……”
กู้จิ่วฉือพึมพำอะไรบางอย่าง และเดินไปตามตรอกซอยสกปรกอย่างช้าๆ
ใครจะคิดล่ะ ว่าผู้จัดการตัวส่วนดีเด่นอย่างถังยู่จะอาศัยอยู่ในที่ยากลำบากเช่นนี้เป็นเวลาสิบปี?
และนั่นก็บังเอิญ ที่เธอดันมารู้เหตุผลเบื้องหลัง
*
ท้ายซอย บ้านสามชั้นทรุดโทรมที่สร้างเอง
ป้ารูปร่างอ้วนท้วนที่ใบหน้าแสนโหด โยนของลงจากชั้นบนไปด้วย พร้อมกับด่าทอไปด้วย
“ไอ้วิปริต! ไม่มีเงินแล้วยังจะหน้าด้านอยู่ต่ออีก! ไม่มีทาง! วันนี้แกจะต้องไสหัวออกไปจากที่นี่!”
ถังยู่ซึ่งสูง1.8เมตร ทรุดตัวลงและอ้อนวอนหลังป้าเจ้าของห้องพักราวกับสุนัขตัวหนึ่ง
“เจ๊หลี่ ผมจะได้จ่ายค่าเช่าเร็วๆนี้ คุณให้เวลาผมอีกสองสามวันได้ไหม?”
คำตอบที่ให้กับเขาคือเสียงกระแทกประตูไม้ดัง“ปัง” และเสียงคำด่าสบถดุของป้าเจ้าของห้อง
“ใครจะไม่รู้บ้างว่าไอ้วิปริตอย่างแกถูกเฉดหัวออกจากบริษัท อย่ามาง่อนแง่นทำให้ผู้เช่าหญิงของฉันกลัวเลย ถ้ายังไม่ไสหัวออกไปจากที่นี่ฉันจะแจ้งตำรวจแล้วนะ!”
ถังยู่ยิ้มอย่างขมขื่น แม้แต่ป้าเจ้าของบ้านที่อยู่กับเขามาหลายปี ก็ยังไม่ยอมเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์ ถึงขั้นไล่ให้เขาออกไปในวันที่สองที่เขาถูกไล่ออกจากหวงหยู
คิดๆดูผู้จัดการส่วนดีเด่นอย่างสง่าผ่าเผยที่ต้องมาอยู่ในจุดนี้ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะคนนอก แต่เป็นเพราะน้องชายที่สร้างตัวจากสองมือเปล่าด้วยกัน……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห่วงรักคุณปีศาจ