ตอนที่ 4 ไม่กลับมา
ในหัวของรษิกาก็มีความคิดแบบเดียวกัน หรือเด็กหญิงคนนี้จะเป็นใบ้? ความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อเด็กหญิงคนนี้เพิ่มสูงขึ้น เธอถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ส่งมือมาให้ฉันได้ไหมจ๊ะ?” ขณะที่พูดเช่นนั้นเธอก็เอื้อมมือออกไปหาเด็กหญิง แม้จะยังต้องมองด้วยความเขินอาย แต่เด็กหญิงคนนั้นก็ดูเหมือนจะเกร็งน้อยลงเมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนั้น รษิกาอดทนรออย่างใจเย็นเพื่อให้เด็กหญิงคนนั้นยอมรับความช่วยเหลือจากเธอ หลังจากลังเลอยู่นาน เด็กน้อยก็เอื้อมมือออกมาคว้ามือของรษิกาไว้ด้วยความระมัดระวัง เมื่อเห็นเช่นนั้น รษิกาก็จับมือเด็กน้อยไว้อย่างอ่อนโยนและช่วยเธอให้ลุกขึ้น รษิกาไม่ลืมตรวจดูอีกครั้งว่าเด็กหญิงไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จริงหรือเปล่า เพราะการกระทำของรษิกา ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น เด็กน้อยตัวนุ่มนิ่ม เธอมีกลิ่นหอมเหมือนนมอุ่นๆ รษิกาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงลูกสาวตัวเองที่เสียไปตั้งแต่แรกเกิด หากเธอได้เติบโตมา เธอก็คงจะอายุไล่เลี่ยกับเด็กคนนี้ เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว รษิกาก็รู้สึกเจ็บปวดใจและเสียใจเป็นที่สุด เด็กน้อยหยุดนิ่งและจ้องหน้ารษิการาวกับว่าสัมผัสถึงความรู้สึกของรษิกาได้ ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรพูดกับคนแปลกหน้า แต่ผู้หญิงคนนี้ใจดีจริงๆ แปลกจังที่ฉันรู้สึกอยากเข้าใกล้เธอ ในเวลานั้น เมธินีก็พูดขึ้นมาว่า “โอ้โห เด็กน้อยน่ารักจังเลย หน้าตาน่ารักเหมือนลูกๆ เราเลยนะ!” รษิกาพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันว่าเธอคงหลงทาง พาเธอไปสถานีตำรวจกันก่อนดีกว่านะ แล้วค่อยดูว่าจะติดต่อครอบครัวเธอได้ไหม” หลังจากพูดจบแล้ว เด็กน้อยก็ดึงมือเธอเบาๆ รษิกามองลงมาด้วยความสับสน เด็กน้อยส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรุนแรง ขณะที่ดวงตาของเธอแดงก่ำ ดูเหมือนว่าเธอจะจมหายไปในทะเลน้ำตาได้ในทุกนาที ชัดเจนว่าเด็กน้อยไม่อยากให้เธอทำเช่นนั้น พอได้เห็นการแสดงออกที่ว้าวุ่นใจของเด็กน้อย มันก็ทำให้หัวใจของรษิกากระตุกขึ้นมาจริงๆ แม้เธอจะไม่มีทางเลือกอื่นใด แต่หากไม่ส่งเด็กหญิงไปที่สถานีตำรวจ เธออาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนลักพาตัวเด็กน้อยคนนี้มาก็ได้ รษิกาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือก “เอาล่ะ เราจะไม่ไปสถานีตำรวจกันก็ได้” เธอย่อตัวลงนั่งและพยายามเจรจากับเด็กหญิง “หนูมีเบอร์พ่อแม่ไหมจ๊ะ? ฉันจะได้โทรไปเรียกให้พวกเขามารับหนู” เด็กคนนั้นหยุดส่ายหน้า แต่เธอทรุดตัวลงนั่งด้วยความสลดใจแทน เมื่อเธอไม่ตอบ รษิกาจึงเดาว่าเธอคงไม่มีเบอร์โทรของพ่อแม่ เธอกำลังจะพาเด็กไปส่งที่สถานีตำรวจ แต่เด็กคนนั้นก็เคลื่อนไหว รษิกามองเธอดึงเอาดินสอและกระดาษโน้ตออกมา จากนั้นเด็กน้อยก็เขียนเบอร์โทรและคำว่า “คุณพ่อ” ลงไปก่อนจะส่งกระดาษโน้ตแผ่นนั้นให้กับรษิกา หลังจากรับกระดาษนั้นมาจากเด็กหญิงแล้ว รษิกาก็กดเบอร์โทรของพ่อเด็กคนนั้นทันที “อ้าว เธอเป็นใบ้จริงด้วย” อชิกับเบนนี่พึมพำออกมา รษิกาตัวแข็งทื่อก่อนจะหันไปส่งสายตาเตือนลูกชายทั้งสองคน “อย่าหยาบคายกับเธอสิ” เด็กชายทั้งสองยืดตัวขึ้นก่อนจะส่งยิ้มให้เด็กหญิงด้วยความรู้สึกผิด เด็กหญิงขยับตัวเข้าไปใกล้รษิกามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ขณะที่จ้องเด็กชายเหล่านั้นตาไม่กะพริบ ก่อนที่เด็กหญิงจะคว้ามุมชุดกระโปรงของรษิกาไว้ แต่ทว่ารษิกาก็ไม่ได้สังเกตเพราะเธอกำลังง่วนอยู่กับการตรวจสอบเบอร์โทรที่เด็กหญิงให้มา ก่อนจะกดโทรออกไป ที่บ้านฟ้าศิริสวัสดิ์ เลอศิลป์เดินเข้ามาในคฤหาสน์ด้วยความโมโห “ไอวี่กลับมาหรือยัง?” พ่อบ้านเข้ามาต้อนรับเขา สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความกังวลและพูดขึ้นมาว่า “ไม่นะครับ ผมไม่เห็นคุณหนูไอรดาเลย” เมื่อพูดจบแล้ว พ่อบ้านก็รู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวนั้นเย็นเยียบ เจ้านายของเขาแผ่รังสีเยือกเย็นออกมาจนน่ากลัวไปหมด เลอศิลป์เม้มปากแน่นขณะที่คิ้วขมวดเป็นปม ฉันค้นหาไปทุกที่เท่าที่จะทำได้แล้ว เธอไปอยู่ที่ไหนกันนะ? จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอหรือเปล่า? เมื่อการคาดเดาต่างๆ ผุดขึ้นมาในหัวเขา ความอาฆาตพยาบาทก็ส่องประกายอยู่ในดวงตาของเขา ดูราวกับว่าเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการทำลายโลกทั้งใบให้แหลกเป็นจุณ ทันใดนั้น หญิงสาวที่แต่งหน้าหนาเตอะก็เร่งรีบเข้ามาในคฤหาสน์พลางถามอย่างกระวนกระวายว่า “เลอศิลป์ ฉันได้ยินมาว่าไอวี่หายไปเหรอ? จริงหรือเปล่า? คุณหาเธอเจอไหม?” หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นอัญชสา คนที่เลอศิลป์อยากจะแต่งงานด้วยเมื่อก่อนหน้านี้ แต่กระนั้น เลอศิลป์ก็ยังคงแผ่รังสีทรงอำนาจต่อหน้าเธออยู่ “ยังหาไม่เจอ แต่ไหนๆ คุณก็มาแล้ว ผมอยากจะรู้ว่าคุณพูดอะไรกับไอวี่เมื่อช่วงบ่าย ทำไมเธอหนีออกจากบ้านไปอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้?” อัญชสาดูมีท่าทีแปลกใจที่ได้ยินเขาถามอย่างนั้น เธอจ้องหน้าเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เลอศิลป์ คุณพูดอะไรออกมา? นี่คุณจะบอกว่าฉันไปทำร้ายไอวี่เหรอ?” เธอทำท่าเหมือนเจ็บปวดใจก่อนจะเสริมว่า “ฉันไม่เคยทำอะไรไอวี่เลย! ถ้าคนอื่นเข้าใจฉันผิด ฉันจะไม่ว่าเลยนะ แต่คุณก็เห็นนี่ว่าฉันดูแลเอาใจใส่ไอวี่ดีแค่ไหนตลอดเวลาที่ผ่านมา! ถึงไอวี่จะเย็นชาใส่ฉันก็เถอะ แต่ฉันก็ไม่สนใจและดูแลเธออย่างดีต่อไป ฉันไม่เคยตะคอกไอวี่เลย ไม่มีทางหรอกที่ฉันจะทำร้ายเธอจนต้องหนีออกจากบ้านแบบนี้!” ด้วยดวงตาที่แดงก่ำและท่าทีใสซื่อไร้เดียงสา เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้เลอศิลป์เชื่อว่า เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของไอรดาเลย ลึกๆ แล้ว เธอไม่ต้องการอะไรเลยนอกเสียจากให้เด็กใบ้นั่นหายตัวไปตลอดกาล อันที่จริง เธอทำรุนแรงต่อไอรดาในบ่ายวันนั้น เธอบอกเด็กน้อยคนนั้นว่าเธอจะคลอดลูกที่น่ารักมากกว่าไอรดาหลังจากแต่งงานกับเลอศิลป์เรียบร้อยแล้ว จากนั้น เลอศิลป์ก็จะไม่รักไอรดาอีกต่อไป ในเมื่อไอรดาพูดไม่ได้ อัญชสาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าเด็กนั่นจะพูดถึงการกระทำที่ไม่ดีของเธอให้เลอศิลป์ฟังหรือเปล่า แต่ทว่า เธอเองก็ไม่คิดว่าไอรดาจะลงเอยด้วยการหนีออกจากบ้านไปเช่นนี้ งั้นก็ดี! แล้วจะยิ่งดีไปใหญ่ถ้าไม่กลับมา เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็จะไม่ต้องเจอเธออีกต่อไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้ายพ่ายรัก
เขียนต่อนะคะ สนุกมากเลย...