หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 22

ตอนที่21

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

สถานการณ์ทุกอย่างในตอนนี้ถือว่าย่ำแย่ ทั้งเรื่องการจากไปของแม่ของภูรวมไปถึงเรื่องความสัมพันธ์ซับซ้อนของพวกเขาทั้งสอง สิ่งที่น่ากังวลไม่ใช่เพียงว่าจะวางตัวกันยังไงเพราะที่น่าหนักใจไปกว่านั้นก็คงจะหนีไม่พ้นว่าต่างคนต่างยังคงรู้สึกต่อกันเหมือนเดิมอยู่อีกหรือไม่ สำหรับคินแล้วเขายังคงรู้สึกกับภูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่สำหรับภู คินก็ไม่สามารถที่จะคาดเดาได้เหมือนกัน

มันแย่พอสมควรเลยหละ

เพราะจนตอนนี้ภูยังไม่คุยกับเขาแม้แต่คำเดียวเลยด้วยซ้ำ…

“แม่อยากให้ลูกสนิทกับพี่เขาไว้นะ อย่างน้อยจะได้รู้สึกดีที่มีพี่ชายเพิ่มเข้ามา” ประโยคที่ผู้เป็นแม่พูดด้วยคินทำได้เพียงยิ้มรับ นั่งฟังพระสวดโดยที่สายตายังคงเฝ้ามองภูด้วยความเป็นห่วง อยากจะเข้าไปกอด อยากจะให้กำลังใจแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะอยู่ต่อหน้าคนอื่น รวมไปถึงอยู่ต่อหน้าแม่ของเขาและพ่อของภูด้วย

“แม่คุยกับคุณลุงเขา ว่าหลังจากนี้จะให้ลูกย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของคุณลุง”

“อะไรนะครับ?” คินตกใจ ไม่ได้คิดว่าทุกอย่างจะต้องรวดเร็วขนาดนี้

“แม่เองก็จะย้ายเข้าไปอยู่ด้วยเหมือนกัน พี่ภูเองก็ด้วย”

“คือ….”

“นะคิน ได้เป็นครอบครัวอีกครั้งคงทดแทนทุกอย่างที่ลูกไม่เคยได้รับมัน” คินพอจะเข้าใจถึงความคิดของแม่ตัวเอง พ่อของภูรวมไปถึงแม่ของเขาคงจะอยากเยียวยาลูกของตัวเอง แต่คนโตทั้งสองไม่ได้รู้ด้วยเลยว่าสิ่งที่กำลังทำมันอาจจะไม่ได้ดีต่อตัวของลูกชายทั้งสองเสมอไป เขาจะหาทางบอกเรื่องนี้ได้อย่างไร ถ้ามีโอกาสได้คุยกับภูก็คงจะดี

ตอนนี้อึดอัด

มีแต่คำว่าอึดอัดอยู่เต็มไปหมด…

สุดท้ายแล้วคินเลือกที่จะขอตัวเดินออกมาโดยอ้างเหตุผลว่าจะขอออกมาเข้าห้องน้ำทั้งที่ในความจริงแล้วเขาเพียงแค่วางตัวไม่ถูกเท่านั้น เลี่ยงออกมาที่ด้านหลังของตัวศาลาที่เงียบสงัด บรรยากาศของความเศร้าสร้อยยังคงน่าใจหายเสมอ ตอนนี้เขานั่งลงยังเก้าอี้ตัวยาว ท้าวคางลงกับหลังมือพร้อมมองไปด้านหน้าอย่างไม่มีอะไรทำ หยิบโทรศัพท์ออกมาอีกครั้งพร้อมกดเข้าไปดูในไลน์อีกรอบก็พบว่ามันยังคงไร้การตอบกลับจากภู

“………” กระทั่งเหมือนได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลังคินรีบหันไปมอง

“พี่ภู!” พบว่าเป็นใครถึงขั้นรีบตะโกนเรียกทั้งที่อีกคนทำท่าชัดเจนว่าจะเดินหนี แต่เมื่อคินตะโกนเรียกเสียงดังภูถึงได้ยอมที่จะหยุดยืนนิ่งพร้อมหันมองตรงมายังคนอายุน้อยกว่า คินเม้มปาก รู้สึกแปลกนิดหน่อยเพราะไม่ชินกับท่าทางไม่สนใจของภู แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือ ในเวลาแบบนี้เขาควรจะปลอบภูสิไม่ใช่จะหาเรื่องอื่นมากังวลอีก

“พี่ ทานข้าวหรือยัง…” เพราะไม่รู้จะเริ่มคุยยังไงคินเลยถามออกไปแบบนี้

“กินแล้ว”

“แล้วคืนนี้…พี่กลับไปนอนไหนหรอครับ” เพราะทางวัดมีการห้ามชัดเจนว่าจะไม่มีการให้ญาตินอนเฝ้าศพทั้งนั้น คินคิดว่าถ้าภูบอกว่าจะกลับไปนอนที่ห้องเขาก็คงจะบอกอีกคนว่าเดี๋ยวเขาจะไปนอนเป็นเพื่อนเอง

“คงจะกลับไปนอนห้อง” แล้วเหมือนเป็นอย่างที่คิดคินถึงยิ้มไปให้

“งั้นผมไปนอนเป็นเพื่อนนะ”

“ไม่ต้อง กูอยากนอนคนเดียว” แต่คำตอบที่ได้ทำเด็กหนุ่มหน้าเสียนิดหน่อย

“หรือว่าพี่จะไปนอนที่คอนโดผม อยู่ใกล้ที่นี่นะ”

“คำว่ากูอยากนอนคนเดียวมันไม่ชัดเจนหรอ”

“………………..”

“มึงมันก็เหมือนแม่มึง เห็นแก่เงิน”

“พี่พูดอะไรของพี่!” คินกำลังหงุดหงิด ภูไม่เคยหยาบคายแบบนี้ใส่เขามานานพอสมควรแต่ทำไมจู่ๆวันนี้ถึงได้แสดงท่าทีแบบนี้ใส่กันอีกครั้ง ทั้งสายตาและท่าทางเหมือนย้อนกลับไปในตอนแรกที่รู้จักกัน

“ที่มึงเข้าหากูก็ไม่ใช่เพราะรู้ทุกอย่างอยู่แล้วตั้งแต่แรกหรือไง”

“……….”

“คงดีใจมากเลยสิที่แม่กูตายแล้วแม่มึงจะได้เป็นเมียพ่อกูเต็มตัวสักที แต่เสียใจด้วยเพราะกูไม่ได้โง่เหมือนพ่อกูหรอกนะ กูไม่หลงกลมึงเหมือนที่พ่อกูหลงกลแม่มึงหรอก!ไอ้พวกเอาตัวเข้าแลก!” น้ำเสียงสุดท้ายที่ภูตะคอกใส่ก่อนที่คนตัวสูงจะเดินหนีออกไปโดยทิ้งให้คินยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ยังคงเรียบเรียงเรื่องราวได้ไม่ถูกนักแต่เหมือนว่าในสายตาของภูเขาจะไม่เคยเป็นคนดีเลย น้ำตาของคินไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง หัวใจดวงน้อยบีบรัดแน่นจนเจ็บเสียด

ทุกอย่างที่ผ่านมาภูทำเหมือนว่ามันเป็นเพียงเรื่องโกหก

แต่คินไม่ได้โกหก เขาไม่เคยโกหกภูเลย…

……………………………

ในคืนเดียวกันที่คินตัดสินใจขับรถกลับคอนโดของตัวเอง สมองของเขาว่างเปล่า ไม่มีเรื่องใดอื่นนอกจากความรู้สึกเจ็บที่หัวใจแล้วคำพูดของภูที่วนเวียนซ้ำไปมาอยู่ในหัว ภูตัดเขาออกจากชีวิตง่ายดายเหลือเกิน ทำเหมือนกับว่าทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ได้มีค่าอะไรต่ออีกคนเลย แต่ก็คงไม่แปลก เพราะถ้าภูมองเขาในแง่ลบแบบนั้นมันก็คงจะไม่มีเหตุผลอะไรที่อีกคนจะอยากจดจำเขาอีกต่อไป คงมีแค่คินคนเดียวที่ยังคงจมปลักอยู่กับภูคนเดิม

เพียงแค่วันเดียวเท่านั้น

ที่พวกเขากลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกัน

“หืม?” เผลอครางในลำคออย่างสงสัยนิดหน่อยเมื่อห้องฝั่งตรงข้ามที่เคยล็อคกุญแจปิดสนิทในวันนี้ไม่มีกุญแจอันใหญ่อีกแล้ว คินขมวดคิ้วเขาหันหน้าหาประตูห้องฝั่งตรงข้ามพลางยืนพิจารณา

แต่เสียงของผู้หญิงที่ครางลอดดังผ่านช่องประตูออกมา

รวมไปถึงเสียงกระแทกกระทั้นที่คินก็พอจะแยกออกว่าคนด้านในคงกำลังทำอะไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]