หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 21

ตอนที่20

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

การซ้อมยังคงผ่านไปอย่างหนักหน่วง แทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่นที่นอกเหนือไปจากการว่ายน้ำเสียด้วยซ้ำ แต่การซ้อมหนักถึงแม้จะเหนื่อยมากแต่มันก็ทำให้พวกเขามั่นใจในฝีมือของตัวเองเมื่อเดินทางมาถึงเวลาแข่งจริง เหล่ากลุ่มเด็กชมรมว่ายน้ำกำลังนั่งทำสมาธิอยู่ภายในห้องพักนักกีฬา พวกเขายังคงอยู่ที่กระบี่เพราะสนามแข่งใหญ่อยู่ที่นี่ การแข่งครั้งนี้ค่อนข้างใหญ่เพราะถ้าเกิดชนะได้ทีมพวกเขาจะได้เป็นถึงตัวแทนของระดับภาคเพื่อไปแข่งชิงเป็นตัวแทนระดับประเทศต่อ

“กูเชื่อว่าพวกมึงทุกคนทำได้ อย่าตื่นเต้นก็พอ” การให้กำลังใจจากกัปตันทีมยังคงห้าวตามนิสัย ไม่มีคำปลอบโยนอย่างที่ควรเป็นแต่ถึงอย่างนั้นสมาชิกกลับยิ้มกลับไปให้ คินกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยาว นี่ถือเป็นการแข่งที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตตั้งแต่ที่ว่ายน้ำมา แต่ดูคนอื่นไมได้ตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะคงผ่านมาหลายสนาม คงมีเพียงเขาที่เหมือนเป็นน้องใหม่หัดแข่ง

“ออกไปเตรียมตัวข้างนอกได้แล้ว โค๊ชเรียก” ภูตะโกนบอกสมาชิกทีม ทางด้านของคินกำลังจะเดินตามคนอื่นออกจากห้อง

..หมับ..

“ส่วนมึงอ่ะอย่าเพิ่ง มานี้ก่อน” แต่กลับถูกภูเรียกพร้อมใช้แขนรั้งเอาไว้ คินหันหน้าไปมองคนที่กอดจากด้านหลัง

“มีอะไร ผมก็ต้องออกไปพบโค๊ชเหมือนคนอื่นนะ”

“ขอกำลังใจหน่อยสิ” โดนภูอ้อนอีกครั้งนั่นทำให้คินหน้าแดงอย่างเลี่ยงไม่ได้ สภาพตอนนี้ยืนกอดกันทั้งที่มีเพียงกางเกงว่ายน้ำที่ใส่อยู่ ด้านบนเปลือยกันทั้งคู่ยังจะมีหน้ามานัวเนียเขาอีก

..ฟอดด..! คินโดนภูขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่แถมภูยังทำท่าจะยื่นหน้ามาจูบอีก

“พอแล้วพี่ภู เดี๋ยวก็ไม่มีสมาธิแข่ง” พูดบอกไปเสียงอ้อมแอ้มซึ่งภูส่งยิ้มกลับมาให้ หอมแก้มของคินอีกครั้งก่อนจะเดินนำออกจากห้องไปทิ้งให้คินยืนหน้าแดงอยู่ตรงนี้นานสองนาน กว่าจะปรับตัวกลับเป็นปกติได้ใช้เวลาพอสมควร ต้องรีบวิ่งออกไปหาเพื่อนร่วมทีมที่ตอนนี้กำลังนั่งตั้งใจฟังในสิ่งที่โค๊ชบอก คินขยับเข้าไปนั่งข้างแบงค์เพราะไม่รู้จะคุยกับใครเนื่องเพราะภูไม่ได้นั่งรวมอยู่กับพวกเขาแต่อีกคนนั่งอยู่ข้างโค๊ช

“ตื่นเต้นเนอะพี่แบงค์” ทักทายไปก่อนแต่แบงค์เหมือนไม่ได้ฟังเขา คินเลยลองมองตามว่าแบงค์มองอะไรอยู่

จนได้เห็นว่าสิ่งที่แบงค์กำลังมองก็คือถ้าจำไม่ผิดคินว่าคนนั้นคือคนที่พวกเขามีเรื่องด้วยนะ

น่าจะที่ชื่อว่าเอิร์ธ

“แข่งจบก่อนค่อยไปต่อยก็ได้นะพี่” ประโยคนี้ของคินที่ทำให้แบงค์หันกลับมามอง

“หมายถึงอะไรวะ?”

“หมายถึงว่า ถ้าพี่มีเรื่องกับพี่เอิร์ธตอนนี้น่าจะไม่ดี รอแข่งจบก่อนค่อยมีเรื่องกันดีกว่า” แต่พูดจบปรากฏว่าแบงค์หัวเราะ

“ไม่ต่อยกันหรอกหน่า กูแค่มองเฉยๆ”

“โอเคครับ” จบการคุยกันลงแต่คินแอบสงสัย ปกติถ้าแบงค์เจอเอิร์ธต้องมีประเด็นตลอดสิ

แล้วทำไมรอบนี้ถึงบอกว่าจะไม่มีเรื่องกัน...

ถึงอย่างนั้นแล้วก็เลิกให้ความสนใจ เอาเวลากลับมานั่งจดจ่อตั้งสมาธิกับตัวเอง การแข่งมีหลายประเภทซึ่งตัวเขาอยู่ในประเภทแข่งสี่คนแล้วคินเป็นผลัดสุดท้าย การได้รับหน้าที่ตรงนี้ค่อนข้างหนักใจเพราะเหมือนทุกคนให้ความเชื่อมั่นว่าตัวเขาว่ายเร็วที่สุดแล้วสามารถพลิกกลับชนะได้ถึงแม้ว่าทีมจะตามหลังอยู่ ส่วนแบงค์กับภูจะเป็นรายการแข่งเดี่ยว คินว่าสองคนนั้นน่าจะกังวลมากกว่าเขาเพราะเป็นการแข่งที่ต้องพึ่งตัวเองแบบล้วนๆ

แต่ทั้งแบงค์และภูกลับดูชิลมาก

แถมแข่งออกมาได้ที่หนึ่งทั้งสองคนเลยด้วย...

“เก่งอ่ะ” คินหลุดพึมพำ

“ใช่มะ ทีมเราอ่ะตัวเต็งเยอะ” แถมเพื่อนร่วมทีมยังพูดด้วยต่ออย่างเห็นด้วย ใกล้จะถึงเวลาแข่งของคินเข้ามาเรื่อยๆ นั่งรอจนเวลาเดินใกล้เข้ามา การแข่งขันรอบสุดท้ายที่ได้รับความสนใจจากคนในสนามเนื่องเพราะทีมที่ลงแข่งร่วมรายการเดียวกับคินคือตัวเต็งของการแข่งว่ายน้ำประเภททีม ถ้าเกิดว่าเขาพลาดแม้แต่นิดเดียว ถือว่าดับฝันเพื่อนร่วมทีมคนอื่นเลยนะ....

“มาใหม่หรอ แล้วว่ายผลัดสุดท้ายเลย?” ตอนนี้นั่งรอแข่งขัน ระหว่างเตรียมตัวมีหนึ่งเสียงทักจากคนแปลกหน้า

“อืม ว่ายผลัดสุดท้าย” เมื่อคินตอบไปแบบนี้อีกฝ่ายยิ้มเยาะกลับมาให้

“ชนะให้ได้แล้วกัน” ก่อนที่จะทิ้งคำนี้ไว้แล้วเดินหนีออกไปด้วยใบหน้าที่เหนือกว่า คินพ่นลมหายใจ ยังไม่ได้แข่งก็มาทำตัวกร่างใส่ทีมอื่นเขาเสียแล้วนะ ก่อนเดินไปขอบสระคินหันกลับไปหาภูอีกครั้ง

...สู้ๆนะ.... อีกคนพึมพำขยับปากมาและคินพยักหน้ากลับไปให้

ขนาดภูยังทำได้ เขาก็ต้องทำได้สิ

...ปี๊ดด!!... เสียงนกหวีดดังขึ้นบ่งบอกว่าเริ่มการแข่งขัน สมาชิกของทีมคนแรกลงน้ำไปแล้ว คินยืนมองอย่างตั้งใจตลอด ในหัวของเขากำลังประมวลเวลาว่าจะต้องว่ายให้เร็วแค่ไหนถึงจะสามารถตีตื้นขึ้นเป็นที่หนึ่งได้ สูดลมหายใจเข้าลึก เหลือเพียงรอให้เพื่อนแตะขอบสระเขาก็ต้องลงไปแข่งแล้ว

...ตู้มม... การกระโดดน้ำถือว่าสำคัญมาก คินทำมันออกมาได้ดีจนระยะห่างระหว่างเขากับทีมที่นำเหลืออยู่ไม่มาก

แต่เขาจะเอาแต่มองทีมคู่แข่งไม่ได้ การแข่งที่ดีที่สุดคือต้องแข่งกับความสามารถของตัวเอง

สุดท้ายแล้วเขาเบี่ยงสายตา มองจ่ออยู่เพียงกับเส้นชัยซึ่งคือขอบสระ

..หมับ... และเมื่อปลายนิ้วแตะสิ่งตรงหน้า

“แฮ่กๆๆ” คินโผล่ขึ้นจากน้ำพร้อมการหอบหายใจหนัก ยังไม่มีเสียงประกาศว่าใครแตะขอบสระเป็นคนแรก รั้งแว่นขึ้นคาดหัวเอาไว้พลางเงยมองจอที่ฉายภาพช้าเพื่อดูว่ามือของใครที่เร็วมากกว่า คินลุ้นจนแทบกลั้นหายใจ

แต่แล้วเมื่อผลที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]