ตอนที่24
#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม
หลายวันผ่านมานี้ภูเหมือนจะทำใจยอมรับความจริงได้มากขึ้นสำหรับการที่ต้องสูญเสียมารดาของตัวเอง กระทั่งถึงวันสุดท้ายของงานอันโศกเศร้าซึ่งนั่นก็คือวันที่จะต้องทำพิธีเผา แขกมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ภูกำลังนั่งอยู่ด้านข้างของเมรุท่ามกลางกลุ่มเพื่อนที่ก็ไม่ได้นั่งทิ้งห่างไปไหน ดวงตาคู่คมชำเลืองมองไปที่แม่ของคินที่ยืนคู่อยู่กับพ่อของเขา เหมือนว่าตั้งแต่วันนั้นคินไม่ได้มาให้เจอหน้าเลย จำได้แค่ว่าล่าสุดที่โทรไปเป็นเสียงของผู้ชายคนไหนก็ไม่รู้ที่รับสาย
“มึงยังทะเลาะกับไอ้คินอยู่หรอ” คำถามนี้ดังขึ้นซึ่งภูหันไปมอง
“เปล่า แค่ไมได้คุยกัน”
“อ๋อกูก็ว่าละว่าทำไมน้องมันไม่มาเลย” เมื่อแบงค์พูดต่อมาแบบนี้ภูไมได้พูดอะไรต่อ เขาเพียงแค่นั่งเงียบมองพิธีกรรมทางศาสนาที่ดำเนินอยู่ตรงหน้า ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีจนในตอนที่ภูจะเดินไปวางดอกไม้จันทน์หน้าโลงศพของแม่ สุดท้ายแล้วสายตาของเขาหันไปสบเข้ากับหนึ่งร่างที่เพิ่งจะเดินเข้ามา
พวกเขาสบตากัน
ก่อนจะเป็นคินที่เลือกจะเบือนหน้าหนีแล้วเดินไปหาแม่ของตัวเองเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“………….” ภูเองก็ไม่ได้พูดอะไร เขาถอยกลับมายืนข้างเพื่อนของตัวเองตามเดิม คนสองคนที่เลือกจะเงียบใส่กัน ทำเหมือนไม่สนใจแต่เอาเข้าจริงแล้วคินแอบมองเสี้ยวหน้าของภูอยู่หลายต่อหลายครั้ง สลับสายตามองไปยังด้านบนของเมรุที่ในตอนนี้ไฟในเตาถูกจุดขึ้นแล้ว ขนาดคินยังใจหาย สุดท้ายแล้วคนเราเกิดมาเพื่อจากกัน ไม่มีเวลาได้บอกด้วยซ้ำว่าจะอยู่ด้วยกันได้นานอีกแค่ไหน บางทีคำว่าพรุ่งนี้ก็ไม่ได้มีอยู่จริง
เราอาจจะได้กินข้าวด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย
หรือได้ยิ้มด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายในตอนไหนก็ไม่รู้ ถ้ายังมีชีวิตอยู่จงดีกับคนที่รักให้มากที่สุด
แม่ของคินสอนเสมอ แล้วคินก็เสียใจทุกครั้งที่เขาไม่สามารถทำตามได้ เพราะภูคงไม่ได้ต้องการมัน…
“…………..” น้ำตาของคินไหล หัวใจของเขาเจ็บปวดอีกครั้งเมื่อเห็นภาพของภูที่กำลังยืนร้องไห้อยู่ต่อหน้า ไม่มีสิทธิแม้แต่จะเดินเข้าไปปลอบเลยด้วยซ้ำ ต่อให้โกรธแค่ไหนแต่เมื่อเห็นอีกคนเสียใจ สุดท้ายเขาก็ยังอยากจะเดินเข้าไปกอดอยู่ดี
“ไม่ร้องนะ คุณน้าเขาไปสบายแล้ว” เสียงจากคนเป็นแม่ดังขึ้นพร้อมแรงกอด แต่สายตาของคินมองตามภูที่เดินแยกออกไปกับผู้เป็นพ่อ เช่นเดียวกับเพื่อนของอีกคนเช่นกันที่เดินตามภูเข้าไปในศาลาทั้งหมด เขาได้แต่ยืนมองอยู่ตรงนี้ กระทั่งหนึ่งภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือหญิงสาวหน้าตาดีที่จะเดินลงจากรถก่อนที่เธอจะรีบตรงเข้าไปหาภู
ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว…
“ผมขอตัวกลับเลยได้ไหมครับแม่”
“ทำไมหละ อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนสิจะรีบไปไหน”
“พอดีว่า….”
“แม่เข้าใจว่าการเรียนสำคัญ แต่เรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกันนะลูก เสร็จแล้วค่อยกลับไปอ่านหนังสือก็ได้” ได้ยินแบบนี้แล้วคินไม่สามารถหาข้อโต้แย้งอื่นมาได้ เขายอมจำนนแต่โดยดีพร้อมเดินตามแม่ของตัวเองเข้าไปยังด้านในของศาลา ต่อให้รู้สึกแย่แค่ไหนแต่คินก็พยายามบอกตัวเองว่าในตอนนี้เขากับภูเป็นแค่พี่น้องกันเท่านั้น แล้วเขาก็ไม่ควรที่จะเกลียดแฟนสาวของภูด้วย ทุกอย่างควรเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ตอนนี้ อะไรที่ผ่านมาแล้วให้มันเป็นแค่ความทรงจำก็พอ ส่วนในตอนนี้สิ่งที่ทำได้เป็นเพียงการยืนมองแฟนของภูนั่งปลอบอีกคน ทั้งที่ที่ตรงนั้นควรเป็นของเขาตากหาก...
“อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะ เดี๋ยวลุงเลี้ยง” พ่อของภูเดินเข้ามาคุยด้วยและคินยิ้มให้ ช้าเวลาถัดจากนี้พอสมควรกว่าที่ภูจะหยุดร้องไห้ กว่าจะเคลียทุกอย่างเรียบร้อยก็เย็นพอดี แล้วก็คงจะดีกว่านี้หากว่าแฟนสาวของภูไม่ได้มาด้วย
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่แสนอึดอัด
คินนั่งตรงข้ามกับแฟนของภู เธอสวยและดูเหมาะสมกับภูทุกอย่าง
“ทำไมช่วงก่อนหน้าไม่มาหาพ่อเลยหละ นี่ตอนแรกคิดว่าเราเลิกกันไปแล้ว”
“ไม่ได้เลิกค่ะ ช่วงนั้นแนทยุ่งๆกับงานที่คณะเลยไม่ได้ว่างไปเยี่ยมคุณพ่อเลย” เธอดูสนิทสนมกับพ่อของภู ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะตัวคินเองก็พอรู้มาบ้างว่าภูคบกับแนทมานานแล้ว แต่แอบคิดกับตัวเองในใจว่าเธอโกหกหน้าตาย ทั้งที่ตอนนั้นเธอเป็นคนทิ้งภูไปเพราะรู้ว่าภูตัดขาดกับพ่อของตัวเองแล้ว จนตอนนี้พอภูกลับมาอยู่กับพ่อ เธอก็กลับมาคบกับภูเหมือนเดิม
“อีกปีเดียวเจ้าภูก็เรียนจบ ถึงตอนนั้นให้แต่งงานกันแล้วมีหลานให้พ่อเลยได้ไหมนะ” ประโยคเชิงเล่นเชิงจริงที่ทำให้คินที่นั่งฟังอยู่ด้วยต้องเม้มปาก ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ควรจะคิดกับภูในเชิงนั้น ลองมองไปที่ภูพบว่ารายนั้นไม่ได้โต้ตอบอะไร นั่งทานข้าวเงียบเชียบซึ่งคินคิดว่าอีกคนคงไม่มีกระจิตกระใจจะคุยอะไรกับใครเท่าไหร่นัก
“แล้วคินหละ มีแฟนหรือยังเรา” กระทั่งคำถามจากพ่อของภูที่ทำให้คินต้องเงยหน้ามอง
“ยังหรอกครับ” ก่อนตอบไปด้วยรอยยิ้ม
“ไม่น่าเชื่อ หล่อขนาดนี้สาวๆปล่อยหลุดมือได้ยังไง”
“แหะๆ” ได้แต่หัวเราะกลับไปเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี การทานข้าวผ่านไปด้วยดีเพราะบนโต๊ะมีเสียงพูดคุยระหว่างพ่อของภูกับแนท หญิงสาวช่างพูดที่ดูอัธยาศัยดี รอยยิ้มของเธอแสนหวาน ไม่ได้แปลกเลยที่พ่อของภูจะถูกชะตากับเธอมาก ขนาดทานข้าวเสร็จพ่อของภูยังคุยกับเธอต่อจนเป็นคินที่ขอตัวกลับก่อนเพราะเขายังไม่ได้เก่งถึงขนาดจะนั่งทนฟังได้ขนาดนั้น
…ปึก... ขึ้นมานั่งในรถแล้วถอนหายใจอีกครั้ง ต่อไปคงไม่ค่อยได้เจอแล้ว ทุกอย่างคงจะดีขึ้น
“…..!” จนขับรถเข้ามาจอดในคอนโดคินเบิกตากว้าง เมื่อคนที่เปิดประตูลงจากรถยุโรปป้ายแดงที่เพิ่งจะขับแซงเขาไปก่อนหน้าก็คือภู ไม่รู้ว่าภูจะจำรถของเขาได้ไหมเพราะฉะนั้นคินเลยเลือกจะนั่งอยู่ในรถ กะเวลารอว่าให้ภูขึ้นห้องของตัวเองเรียบร้อยแล้วค่อยจะตามขึ้นไปบ้าง แต่ปรากฏว่าดันเดินมาเจออีกคนยืนสูบบุหรี่อยู่ล็อบบี้ของคอนโด
…ครืดดด… และประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้งทั้งที่ยังไม่ทันได้ปิด
เพราะว่ามีคนกด แล้วคนคนนั้นก็คือภูตามเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]