ตอนที่26
#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม
เมื่อช่วยคินเกี่ยวกับเรื่องคอมพิวเตอร์เสร็จแบงค์ไม่ได้กลับห้องเหมือนอย่างที่ควรเป็น แต่เขาเลือกที่จะตรงมาที่ห้องฝั่งตรงข้ามซึ่งคือห้องของเจ้าเพื่อนสนิท ปฏิกิริยาของภูชัดเจนเกินกว่าที่เขาจะสามารถละเลยได้ แถมคินยังหงอยลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ที่ภูขอตัวออกจากห้อง ตอนนี้แบงค์ว่าเขาพอจะแน่ใจแล้วหละว่าอะไรเป็นอะไร แต่เพียงแค่อยากจะได้ยินมันให้ชัดเจนจากปากของภูเท่านั้น
…ก็อกๆๆๆ!... เคาะลงไปบนประตูไม้ตรงหน้า
“เข้ามาเลยไม่ได้ล็อค!” แล้วเสียงตะโกนที่ดังแทรกมาทำให้แบงค์เปิดเข้าไป ปรากฏเป็นภาพของเพื่อนตัวสูงที่กำลังนั่งหน้าตึงอยู่บนโซฟา ถึงแม้สายตาจะมองทีวีอยู่แต่ก็ดูรู้ว่าภูไม่ได้สนใจมันเลยเพราะฉะนั้นแบงค์ถึงได้ตัดสินใจคว้ารีโมทมากดปิด
“กูดูหนังอยู่มึงจะมาปิดทำไมวะ”
“มึงเปิดรายการเพลงอยู่ จะมาบอกว่าดูหนังอยู่อะไรของมึง” แบงค์คิดว่าอาการของภูน่าจะหนักแล้วซึ่งเมื่อหน้าแตกขนาดนี้ภูทำได้เพียงนั่งเงียบแล้วกลับไปหน้าตึงต่ออีกครั้ง แล้วถ้าเกิดแบงค์ไม่ชวนคุยก่อนคิดว่าวันนี้ก็คงจะนั่งเงียบกันทั้งวัน
“มึงบอกความจริงกูมาดีกว่า” เลยต้องเป็นแบงค์อีกครั้งที่เปิดประเด็น
“ความจริงอะไร?”
“ก็มึงกับไอ้น้องคิน มึงเป็นอะไรกัน”
“ทำไม มึงสนใจมันหรือไง” ภูไม่ได้ตอบแต่ถามมาแบบหงุดหงิด แบงค์คิดว่าในจุดนี้ถ้าลองเล่นตามน้ำไปน่าจะได้คำตอบที่เป็นความจริง เขาเลยแสร้งตีหน้าขรึม
“อืม น้องมันน่ารักดี กูสนใจมัน”
“……….!” ซึ่งภูเบิกตากว้าง จากตอนแรกที่ไม่มองหน้าแต่ตอนนี้คือรีบหันขวับจ้องแบงค์แบบถ้าต่อยได้คงทำไปแล้ว
“มึงไม่พอใจทำไมวะ”
“เปล๊า ก็…ก็กูไม่ชอบมันมึงก็รู้ แล้วมึงจะไปยุ่งกับมันทำไมวะ”
“แต่ตอนนี้พวกมึงก็เข้ากันได้แล้วไม่ใช่หรอ” เมื่อแบงค์ถามกลับมาแบบนี้ภูชะงัก คิดในหัวว่าเขากับคินไม่ใช่เพียงแค่เข้ากันได้ธรรมดา แต่เข้ากันได้ดีมากๆเลยหละ…
“กูว่าจะจีบน้องมัน มึงช่วยหน่อยนะ” แบงค์ยังคงจี้จุด ดูว่าภูจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบแบบไหน
“ไม่” ซึ่งเมื่อภูตอบมาเสียงแข็งแทบจะทำให้แบงค์กลั้นขำไว้ไม่อยู่
“ทำไม?”
“ก็….”
“ก็?”
“เอ่อ….” ภูยังคงอึกอัก
“ถ้ามึงไม่ได้ขัดอะไรงั้นกูก็คงเดินหน้าจีบไอ้คินแบบจริงจัง ขาวๆแบบนั้นถ้าตอน…”
“หยุดพูดดิ อะไรของมึงเนี่ย!” แล้วสุดท้ายเหมือนภูจะรั้งตัวเองไว้ไม่ไหวจนหลุดตะโกนออกมาเสียงดัง
“แล้วมึงจะหงุดหงิดทำไม”
“มึงจีบมันไม่ได้” ภูพูดด้วยเสียงจริงจัง ส่วนทางด้านของแบงค์นั้นสนุกเสียจนฉุดตัวเองไม่อยู่
“ก็กูจะจีบ มึงมีปัญหา?”
“เออ!อย่ายุ่งกับมัน ของกู!!” กระทั่งหลุดพูดคำนี้ออกมาคราวนี้เป็นภูที่ชะงักนิ่ง เบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนหลุดสบถด่าตัวเอง ท่าทางน่าขบขันเสียจนแบงค์กลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว ภูที่เห็นว่าเพื่อนตัวเองหัวเราะก็ได้แต่แสดงใบหน้างุนงง เรื่องแบบนี้ตลกตรงไหน แล้วมีอะไรที่ตลก
“บอกความจริงทั้งหมดมา ไม่งั้นกูจีบไอ้คินแน่ แล้วกูจะล่อมันด้วย”
“ไอ้เชี่ย…” ภูด่าออกมาอย่างเหมือนคนเจอทางตัน ในขณะที่แบงค์แสดงใบหน้าเหนือกว่า
“เอาไง จะยอมบอกความจริง หรือว่า…”
“เออๆกูยอมเล่าก็ได้วะ” เมื่อไม่มีทางเลือกภูต้องยอมทำตามในข้อเสนอ เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้งเมื่อแบงค์นั่งรอฟังความจริงจากปาก ในขณะที่ภูสูดลมหายใจเข้าลึก จะเริ่มตรงไหนดียังไม่รู้ เลยคิดว่า…
“ก็กูกับมันมีอะไรกัน” สรุปไปเลยคงง่ายกว่า
“มึงหลอกเอาน้องมัน?” แบงค์ไม่ได้มีท่าทีตกใจ เพราะเรื่องแบบนี้ค่อนข้างจะปกติในกลุ่มพวกเขา
“ไม่ได้หลอก กูว่า…พวกกูก็รู้สึกดีต่อกัน แต่คือ”
“………..”
“แม่ไอ้คินเป็นเมียใหม่พ่อกู พอรู้ความจริงพวกกูเลยทะเลาะกัน…แล้วก็ตามที่เป็นอยู่ตอนนี้” ฟังมาถึงตรงนี้แบงค์ขมวดคิ้วเพราะถ้าตามที่เล่ามาคือยังไม่มีตรงไหนที่ควรทะเลาะกันเลย คือมันก็เรื่องใหญ่ แต่ถ้าบอกว่ารู้สึกดีต่อกันก็ควรที่จะตกลงคุยกันให้เคลียแล้วค่อยว่ากันต่อในส่วนของพ่อแม่ไม่ใช่หรอ?
“ทะเลาะกันทำไมวะ”
“กูคิดว่าไอ้คินมันต้องวางแผนกับแม่มันแน่ แม่มันก็จับพ่อกู ส่วนมันก็ต้องเข้าหากูเพราะเงิน”
“มึงบ้าหรือเปล่าเนี่ย สมองมึงคิดได้เหี้ยขนาดนี้เลยหรือไงวะ” โดนด่าหนักมาแต่ภูยังคงนิ่ง
“เป็นใครก็ต้องคิดแบบกูทั้งนั้นแหละ”
“ใครเขาจะไปคิดแบบมึง มึงก็รู้ว่าไอ้คินมันเป็นผู้ชาย ผู้ชายทั้งแท่งเลยนะเว้ย”
“แล้วไง มันยอมทำได้เพื่อเงินไหมวะ”
“ไอ้ภู ต่อให้ไอ้คินกับมึงไม่ต้องเป็นอะไรกัน แต่แค่แม่มันก็เอาเงินจากพ่อมึงได้แล้วไหม…มันไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องเข้ามาหลอกมึงเลย แล้วถึงขั้น….หรือมึงโดนมันหลอกฟันแล้วทิ้ง มึงเลยโกรธหรอวะ”
“ก็เหี้ยละ อย่างกูไม่ยอมโดนเอาหรอกนะ” ได้ยินแบบนี้แล้วแบงค์กุมขมับ
“แล้วเขายอมมึงขนาดนั้นมึงยังคิดว่าเขาหลอกมึงอีก?”
“………..”
“มึงแม่งเลวกว่าที่กูคิดไว้เยอะเลยนะเว้ย” ยิ่งในตอนนี้แบงค์แทบไม่ต้องเดาเลยว่าคนแบบภูถ้าได้โกรธแล้วจะทำตัวแบบไหน เพราะแบบนี้เองสินะคินถึงได้ดูซึมหนักขนาดนั้น ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันเขาอยากจะกระทืบภูเพื่อเรียกสติสักทีสองที
“ไม่แปลกใจเลยที่น้องมันอยากจะหนีมึง”
“ก็เรื่องของมันสิ” นอกจากจะนิสัยเสียแล้วยังปากแข็ง ท่าทางชัดว่าหวงเขาขนาดนั้นแต่ยังทำไม่สนใจ
“ถ้ามันไปจริงแล้วมึงจะรู้สึก” ภูไม่ได้โต้ตอบ แต่คิดในหัวไว้แล้วว่าแบบคินจะไปไหนได้
โดยที่ถ้าถามต่ออีกสักนิดก็คงจะได้รู้ความจริงจากปากของแบงค์
ว่าที่บอกว่าคินจะไป คือหมายถึงไปจริงๆ หนีแบบไม่ใช่แค่การหลบหน้า
แต่เป็นการหนีไปแบบที่อาจไม่ได้กลับมาเจอกันอีกเลย…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]