หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] นิยาย บท 28

สรุปบท ตอนที่27: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]

ตอนที่27 – ตอนที่ต้องอ่านของ หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]

ตอนนี้ของ หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi] โดย mimi112233 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่27 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่27

#หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม

บรรยากาศมาคุลอยอวลรอบห้องโถงขนาดใหญ่ เมื่อหนึ่งร่างภูมิฐานกำลังนั่งจ้องมองชายหนุ่มทั้งสองที่อยู่ในฐานะของลูกชาย ถึงแม้อีกคนจะไม่ใช่ลูกที่แท้ตามสายเลือดแต่ถึงอย่างนั้นแล้วยังไงคินก็คือลูกของเขาอีกคนอยู่ดี ยอมรับว่าถึงแม้จะพอรู้เรื่องมาก่อนหน้าแต่พอได้มาเห็นความจริงจากตาของตัวเองแบบนี้แล้วเขาก็ทำใจลำบาก

ลูกชาย

ที่กำลังมีสัมพันธ์กับผู้ชายอีกคน ที่เป็นลูกชายของภรรยาคนใหม่ของเขา

“ตั้งแต่เมื่อไหร่” แต่ละคำพูดกว่าจะเค้นถามออกจากปากได้ยากลำบากมากนัก ทางด้านของคินและภูก็ดูไม่ได้ต่างกัน คนทั้งสองไม่กล้าแม้แต่จะสบตา เอาแต่ก้มหน้าแล้วทำหน้านิ่วคิ้วขมวด จนเมื่อความเงียบเริ่มคืบคลานสุดท้ายเป็นคินที่ตัดสินใจจะอ้าปากเพื่อตอบคำถาม

“ผมขอโทษครับ แต่ผมสัญญาว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก”

“ลุงถามว่าตั้งแต่เมื่อไหร่” แต่เมื่อคำถามเดิมถูกย้ำมาคินเงียบ

“เคยมีอะไรกัน แต่ตอนนี้เลิกกันแล้ว” ส่วนคนที่ตอบดันเป็นภูที่ตอบคำถามชัดเจนเสียจนคินใจกระตุกวูบ คินเลยเลือกที่จะเงียบ เขาไม่อยากพูดอะไรมากเพราะก็ไม่แน่ใจว่าภูอยากจะให้บอกความจริงได้มากน้อยแค่ไหน นั่งเงียบคงจะดีกว่า

“ทำไมไม่เคยบอกพ่อเรื่องนี้เลย”

“ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เลยไม่รู้ว่าจะบอกไปทำไม” คำตอบของภูที่ทำให้คินเจ็บใจได้เสมอ ต้องเก็บซ่อนความเศร้าเอาไว้แม้แววตาในตอนนี้จะซึมมากแค่ไหน ตัวของเขาในสายตาภูคงถูกจัดอยู่ในหมวดเดียวกับผู้หญิงอีกหลายคนที่อีกคนเจอตามสถานที่ท่องเที่ยว เขาคงไม่ได้สำคัญอะไรต่อภูเลยใช่ไหม

“ตอนนี้พวกผมเป็นแค่พี่น้องกัน”

“พี่น้องไม่จูบกันหรอกภู” เสียงของคนเป็นพ่อเข้มและเรียบนิ่ง ทางด้านภูอึกอัก

“จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก” ภูให้คำสัญญา ถึงแม้จะรู้ว่าคงยาก เขารู้สึกหงุดหงิดหากต้องเห็นคินไปสนิทกับใครอื่น แต่ถึงอย่างนั้นแอบคิดร้ายกับตัวเองในใจ ว่าต่อให้รับปากพ่อไปแบบนี้ แต่ลับหลังเขาก็ยังสามารถทำอะไรกับคินก็ได้อยู่ดี

มันยังไม่ถึงเวลาที่จะปล่อยคินไปให้คนอื่น

ต่อให้ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แต่คินก็ยังไม่มีสิทธิจะไปนอนกับใครที่ไม่ใช่เขา

“คุณลุงไม่ต้องกังวลนะครับ อีกนิดผมน่าจะได้ไปเรียนที่ต่างประเทศ...ถึงตอนนั้นคงจะไม่ค่อยเจอกันแล้วแหละครับ”

“........!!” พูดจบประโยคคินฝืนยิ้มในขณะที่ภูหันขวับมองคนข้างกายทันที เสียงของคินยังคงวนอยู่ในหัว ตอนนี้เหมือนลืมสนใจไปแล้วว่ามีพ่อของตัวเองนั่งอยู่เพราะมือของภูคว้าที่ข้อแขนขาวก่อนออกแรงกระชากเพื่อให้คินหันมาสบตา

“มึงจะไปไหน”

“พี่ก็ได้ยินแล้ว” คำตอบของคินยิ่งทำให้ภูคิ้วขมวด

“กูไม่ให้มึงไป”

“พี่ไม่มีสิทธิมาห้ามผม”

“กูมีสิทธิเพราะกูเป็นผัวมึง!” เพียงประโยคเดียวจากปากของภูที่ทำให้คินเบิกตากว้าง เขาชักสีหน้า ไม่พอใจที่ภูทำท่าทางไร้มารยาทต่อหน้าพ่อของตัวเอง กว่าจะรู้ตัวอีกทีทุกอย่างก็ชัดเจนหมดแล้ว ซึ่งสิ่งที่ภูทำเป็นเพียงการสะบัดแขนของเขาออกแล้วเดินหนีออกไปเท่านั้น ภูกำลังทำให้ทุกอย่างมันแย่ไปหมด...

“บอกความจริงลุงมาเถอะคิน” น้ำเสียงที่พร้อมจะรับฟังเรียกน้ำตาของคินให้คลอ

“ผมขอโทษนะครับ...” แต่คำแรกที่อยากจะบอกคือคำขอโทษ พ่อของภูมีพระคุณต่อตัวของคินและแม่มาก แต่ในตอนนี้ดันเป็นคินที่มาทำให้อีกคนจะต้องหนักใจ เขาน่าจะรอบคอบมากกว่านี้ น่าจะอยากรู้อยากเห็นบ้างว่าแท้จริงแล้วภูคือลูกของใคร ถ้าหากว่าคินรู้ก่อนหน้า เขาขอสาบานว่าจะไม่เข้าไปยุ่งกับภูเด็ดขาด

“เรื่องแบบนี้ไม่มีใครผิดทั้งนั้น แค่บอกความจริงกับลุงมา” คินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ตัดสินใจที่จะเล่าความจริง

“เป็นเพราะเพิ่งจะมารู้ทีหลัง ว่าที่จริงแล้วผมคือลูกของใคร...”

“..........”

“เพราะแบบนี้เลยตัดสินใจจะเลิกกันครับ” คินไม่อยากใส่รายละเอียด ไม่อยากจะบอกว่าภูทำอะไรกับเขาบ้าง มันเลวร้ายและเขาไม่อยากนึกถึงให้ต้องเจ็บ ร้องไห้แต่ละครั้งทรมานเหมือนจะตาย ภูทำเหมือนกับว่าเขาไม่มีความรู้สึก

“ทะเลาะกันอยู่ใช่ไหม” คำถามจากชายวัยกลางคนดังขึ้น ผ่านโลกมาพอสมควรและเดาออกว่าคนทั้งสองกำลังผิดใจ ถ้าบอกว่าเลิกกันเด็ดขาดแล้วแน่นอนว่าจะไม่มีทางมีเหตุการณ์แบบก่อนหน้าเกิดขึ้นแน่ ชัดเจนว่ายังคงไม่ได้มีใครที่สามารถตัดใจจากใครได้จริงๆ

“พี่ภูเกลียดผม...” พูดจบประโยคน้ำตาของคินไหล มันยากจะยอมรับว่านี่คือความจริง

“.........”

“พี่ภูเกลียดผมแล้วครับ...” น้ำเสียงสั่นเครือที่ทำให้คนที่นั่งมองอยู่ต้องเดินเข้าไปปลอบ เหมือนว่าในตอนนี้แม่ของคินจะเดินเข้ามาเจอแล้ว เธอตกใจที่เห็นว่าลูกชายร้องไห้ รีบเข้ามากอดแต่ยังไม่ได้ถามจากสามีว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ส่วนคนที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วค่อนข้างหนักใจ

สาเหตุทั้งหมดมาจากความกลัวของเด็กทั้งสองว่าจะทำให้พ่อแม่โกรธ

...ถึงตรงนี้เลยต้องถามตัวเองว่าจะยอมรับเรื่องนี้ได้ไหม ถ้าเพียงแค่พวกเขาอนุญาต

ทั้งคินและภูคงต่างได้กล้าทำตามความรู้สึกของตัวเองมากกว่านี้...

.........................

ภายในห้องนอนกว้างมืดสนิทไร้แสงไฟ เหมือนกับหัวใจของคนบนเตียงที่ดำดิ่ง ความมืดมิดไม่ได้น่ากลัว แต่ความอ้างว้างตางหากหละที่กำลังทำร้ายคนเรา เพดานห้องดูเหงากว่าที่ควรเป็น ความคิดในหัวล่องลอยไร้จุดหมายแต่หัวใจกลับบีบรัดแน่น เสียงของคินยังคงวนอยู่ในหัว ประโยคที่ว่าจะไปในที่ที่ไกลแสนไกล และคงไม่ต้องเจอกันอีก

..ก็อกๆๆ!... ภูรีบหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง เขาไม่มีกระจิตกระใจแม้แต่อยากจะลุกไปเปิด แต่เพราะคนด้านนอกเคาะไม่ยอมหยุดสุดท้ายภูเลยลุกจากเตียงไปด้วยใบหน้าหงุดหงิด

...แกร๊กกก.. ซึ่งเมื่อเปิดออกคราวนี้อึ้งหนักอีกเมื่อได้รู้ว่าคือใคร

“มาหาผมถึงนี่มีอะไร” ไม่บ่อยนักที่พ่อจะมาหาถึงคอนโด

แต่แน่นอนว่ามาแต่ละครั้งจะต้องมีเรื่องสำคัญ

...แกร๊กกก...! สุดท้ายแล้วประตูถูกกระชากออกเหมือนว่าคนด้านในกำลังหงุดหงิด

“ไอ้คินได้อยู่....” คำพูดของภูหยุดชะงัก เมื่อพบว่าคนที่เดินมาเปิดห้องไม่ใช่ธารแต่เป็นแม่สาวสวยแปลกหน้าแทน

ตอนแรกคิดว่ามาผิดห้อง แต่พอมองลอดเข้าไปแล้วพบว่าธารนั่งอยู่บนโซฟา

“ขอโทษครับ ไม่มีอะไรแล้ว” ก็เลยชัดเจน ว่าในเวลาแบบนี้คินก็คงจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วหละ

งั้นแล้วอีกคนไปไหน...

............................

“มึงอย่าคิดมากเลย ไอ้ภูมันก็ปากเสียแบบนี้แหละ มันก็บ้าบอของมันไป” เสียงพูดคุยดังมาจากคนสองคนที่กำลังนั่งอยู่ด้วยกันบนโซฟาตัวกว้าง วันนี้แบงค์ไม่ได้ออกไปไหนเพราะรู้สึกปวดหัว แต่เหมือนจะถูกเวลาพอดีเพราะคินมาหา

แถมยังร้องไห้ตาบวมมา แล้วแทบไม่ต้องเดาว่าสาเหตุคงหนีไม่พ้นไอ้เพื่อนปากหมาของเขา

“ผมรบกวนพี่หรือเปล่า แต่ว่าเพราะธารไม่ว่างผมเลยไม่รู้จะไปไหน”

“ไม่รบกวน มึงค้างที่นี่ก็ได้นะ” เมื่อพูดไปแบบนี้คินพยักหน้ารับ ใบหน้าที่เคยขาวในตอนนี้มีสีชมพูอ่อนเจือปนอยู่ด้วยเพราะก่อนหน้าร้องไห้มาหนัก แบงค์ก็ได้แต่ปลอบ ส่วนคินเอาแต่นั่งซึมจนเหมือนคงจะเหนื่อยเพราะถัดจากนั้นมาไม่กี่นาทีอีกคนก็หลับ

“แล้วจะเอาไงต่อดีเนี่ยกู” แบงค์พึมพำ รู้ว่าภูจะต้องโกรธแน่หากรู้ว่าเขาอยู่กับคินสองต่อสอง

ยืนกอดอกมองคนบนเตียงที่กำลังนอนหลับ

ลองมองไล่ตามเนื้อตัวแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมขนาดคนแบบภูที่เคยประกาศกร้าวว่าจะไม่มีทางยุ่งกับคินแน่ สุดท้ายก็ยังต้องกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะไอ้เด็กตรงหน้าสภาพก็คือน่าล่อจริง ถ้าไม่ติดว่าเป็นของเพื่อนนะเขาคงจะ..

..เพี้ยะ..

“หยุดเหี้ยเดี๋ยวนี้ไอ้แบงค์” แบงค์สบถด่าหลังจากที่ยกมือตบแก้มซ้ายของตัวเองไปแล้ว เดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาเพราะเตียงถูกคินยึดไปแล้ว เผลอนั่งมองอีกครั้ง กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอเมื่อมองริมฝีปากสีสด

ก่อนภาพของคินจะเลือนราง

แล้วเบลอทับมาด้วยใครบางคนที่ไม่ได้เจอกันมานานพอสมควร

...แบงค์เห็นเป็นเอิร์ธที่กำลังนอนอยู่ รู้ตัวอีกทีก็ต้องรีบยกมือขึ้นตีหน้า

เขาว่าไม่ใช่แค่ภูแล้วหละที่เป็นบ้า ดูท่าน่าจะต้องได้จูงมือพากันไปพบจิตแพทย์ทั้งคู่...

# # # # # # # #

หายไปนานมาก ขอโทษด้วยน้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หยิ่งนักลองมารักกันหน่อยไหม [Yaoi]