“หนูติดธุระอะไรหรือเปล่ารียา” เอมอรเอ่ยถามเสียงอ่อน
“เอ่อ...ไม่ค่ะ ให้หนูเอาไปส่งที่ไหนคะ” มารียาเอ่ยรับอย่างไม่รู้ว่าจะหลีกเลี่ยงยังไง
“เอาไปส่งให้ท่านที่โรงแรมร็อฟเวลล์ จากนั้นคุณรียาจะอยู่เที่ยวหรือว่าจะนั่งเครื่องกลับเลยก็ได้ครับ แค่บอกนักบิน” ธนินบอกก่อนจะรีบส่งกระเป๋าเอกสารให้กับสาวเจ้า
“ไม่ต้องกลัวจ้ะ เครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่นั่งสบาย” เอมอรเอ่ยสมทบด้วยสีหน้ายิ้มๆ เพราะเคยนั่งไปคุยงานกับผู้เป็นนายและธนินมาหลายต่อหลายครั้ง
“ค่ะ งั้นรียาฝากบอกอลิซด้วยนะคะว่ากลับก่อน” มารียาลอบถอนหายใจ ก่อนจะลงมือเก็บของลงกระเป๋าสะพายใบเล็ก
“ได้จ้ะ เดี๋ยวเอมบอกให้” เอมอรพยักหน้ารับ
“นี่เบอร์โทรของนักบินครับ ผมสั่งให้สแตนด์บายรอแล้ว” ธนิน บอกพร้อมกับส่งนามบัตรให้
“ค่ะ งั้นขอตัวก่อนนะคะ” มารียายิ้มก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟต์ขณะที่ภายในใจแอบตัดพ้อต่อว่าธนินและเอมอรที่ทั้งสองทำเหมือนส่งเธอไปประเคนให้อีเดนถึงที่
“เดินทางปลอยภัยนะ เจอกันวันจันทร์จ้ะ” เอมอรตะโกนตามลูกน้องสาวที่ลงลิฟต์ไปแล้ว จากนั้นก็รีบคว้าแขนคนที่กำลังจะเดินหนีไปเอาไว้
“มีอะไรหรือครับคุณเอม”
“คุณอีเดนนี่ร้ายไม่เบาเลยนะคะ”
“คุณเอมรู้เหรอครับ”
“แหม ก็กล้องที่ติดตรงมุมนั้น มันหันไปตามคุณรียา เวลาที่เธอเดินไปนั่นมานี่ตลอดช่วงสามวันที่ผ่านมา ฉันคงไม่ต้องบอกนะคะว่าใครกำลังส่องดูเธอ” เอมอรบอกพร้อมกับชี้ไปที่กล้องวงจรปิดฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะของผู้ช่วยเลขาที่เธอสังเกตเห็น
“ฮ่าๆๆ ก็คนกำลังมีความรักนี่ครับ”
“นี่ถ้าเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นละก็ เอมไม่รู้เรื่องด้วยนะคะ ฐานะทางบ้านคุณรียาน่ะร่ำรวยอยู่เหมือนกัน แถมพี่ชายของเธอก็เป็นนายทหารยศใหญ่ซะด้วย” เลขาใหญ่รีบออกตัว
“ท่านจริงจังครับคุณเอม ไม่ต้องห่วง” ธนินบอกยิ้มๆ
“แต่คุณรียาเธอมีคู่หมั้นแล้วนะคะ” เอมอรเอ่ยท้วงเพราะทราบข่าวมาว่าสาวเจ้าเตรียมจะเข้าพิธีวิวาห์ต้นปีหน้า
“เดี๋ยวก็เลิกแล้วครับ เชื่อสิ” ธนินบอกอย่างมั่นใจ เพราะรู้ดีว่า ผู้เป็นนายจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ให้คารังคาซังนานแน่
“สาธุ ขอให้เป็นแบบนั้นจริงๆ เถอะค่ะ” เอมอรกลอกตาอย่างเพลียๆ กับคำตอบของอีกฝ่าย
“ฮ่าๆๆ คุณเอมเตรียมตัดชุดไปงานแต่งรอได้เลยครับ ไม่เกินสามเดือน มีข่าวดีแน่ๆ” ธนินบอกก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานอย่างอารมณ์ดี เมื่อนึกไปถึงน้ำเสียงของผู้เป็นนายที่โทรมาขอให้ตนสร้างเรื่อง สร้างราวเพื่อให้สาวเจ้าไปหาที่เชียงใหม่
“กลัวจะตัดเก้อน่ะสิไม่ว่า” เอมอรถอนหายใจยาว เมื่อเห็นเค้าลางของปัญหารักสามเส้าที่กำลังจะตามมาในอีกไม่ช้า
17 : 29 น. ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่
หลังจากที่เครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่ของตระกูลไคเลอร์ลงจอด มารียาก็หยิบกระเป๋าเอกสารแล้วเดินลงจากเครื่องบินที่แสนหรูไปด้วยหัวใจสั่นๆ ขณะที่เดินตามหลังบอดี้การ์ดไปขึ้นรถที่จอดรอ จากนั้นก็ตรงไปยังโรงแรมร็อฟเวลล์ที่อยู่ติดกับแม่น้ำปิง
18 : 09 น. The Rofwell Grand Hotel
มารียาลงจากรถแล้วเดินเข้าไปด้านในล็อบบีของโรงแรมหรูระดับห้าดาวของประเทศ ก่อนจะยื่นนามบัตรของอีเดนให้กับพนักงานต้อนรับ
“ท่านให้คุณขึ้นไปหาที่ห้องได้เลยค่ะ”
“เอ่อ...”
“เชิญที่ลิฟต์ได้เลยค่ะ ชั้นที่ยี่สิบเก้ามีอยู่ห้องเดียวค่ะ”
“ค่ะ” มารียายิ้มบางๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังลิฟต์ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ‘หวังว่าไอ้บ้านั่นคงไม่ได้ตั้งท่ารอจะลวนลามเราอยู่หรอกนะ หึ! ถ้าเป็นแบบนั้นละก็...เตรียมตัวตายได้เลยท่านประธาน!’
ติ๊ง! ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก มารียาก็เห็นประตูห้องบานใหญ่ที่มีแป้นพิมพ์สำหรับใส่รหัสผ่าน แต่เธอไม่ต้องกดอะไรให้ยุ่งยาก เพราะประตูบานใหญ่นั้นเปิดกว้างทิ้งเอาไว้
“วางกระเป๋าไว้ที่ประตูหน้าห้อง แล้วโทรเรียกให้ออกมาเอาดีไหมนะ” มารียารู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ชะ...ช่วยผมด้วย...” น้ำเสียงแหบแห้งที่ฟังดูเหมือนคนกำลังจะขาดใจตายนั้น ทำให้มารียาถึงกับยืนนิ่งไปชั่วขณะ
“คะ...คุณอีเดน ชะ...ใช่ไหม” เธอเอ่ยถามเสียงสั่น พลางหันไปมองรอบๆ อย่างรู้สึกหวาดกลัว ‘แม่เจ้า! คนหรือผีกันนะ’
“รียา! ช่วยผมด้วย” คนที่อยู่ด้านในขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
“พระเจ้า! คุณอีเดน คุณอยู่ไหนคะ” มารียารีบเดินเข้าไปด้านในด้วยสีหน้าตื่นๆ กลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน