ที่ลำธารหลังบ้าน... ทันทีที่มารียาเดินไปถึงผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเดาว่าคงจะเป็นคนดูแลบ้านให้กับอีเดนหันมายิ้มให้ จากนั้นก็รีบเดินกลับไปยังบ้านหลังใหญ่
“นี่คุณจะไม่คุยกับฉันจริงๆ งั้นเหรอ” เธอเอ่ยถามคนที่กำลังนั่งตกปลาต่อจากคนงาน
“...” อีเดนเหลือบหางตามามองคนที่นั่งลงข้างๆ นิดหนึ่งก่อนจะหันไปมองคันเบ็ดต่ออย่างไม่สนใจ
“คุณอีเดน” มารียาสะกิดที่แขนของคนหน้าบึ้งเบาๆ
คนกำลังงอนหันมามองใบหน้างามนิ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห่างเหิน “คุณอยากคุยกับผู้ชายที่ไม่หล่องั้นเหรอรียา”
“ฉันแค่พูดเล่นๆ ไม่ได้ว่าคุณไม่หล่อจริงๆ สักหน่อย” มารียาบอกพลางซบลงที่ไหล่กว้างอย่างเอาใจ
“แต่ผมซีเรียสกับท่าทางของคุณเมื่อครู่นะ รู้ไหม”
“แหม คุณติดอันดับหนึ่งในห้าของผู้ชายที่หล่อรวยของประเทศนะ ทำไมต้องมาแคร์กับคำพูดของฉันเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ด้วยล่ะ”
“ก็เพราะว่าคุณคือคนที่ผมแคร์ยังไงล่ะรียา” อีเดนกล่าวด้วย น้ำเสียงจริงจัง พร้อมกับจ้องมองใบหน้างามอย่างค้นหา ‘สรุปคือเราไม่หล่อสำหรับเธอเลยหรือวะ’
มารียาอายหน้าแดง ไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย จึงแสร้งหันไปมองที่น้ำตก ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นปลากระตุกเหยื่อติดๆ กัน “เอ่อ...ปะ...ปลากินเหยื่อแล้วค่ะ”
อีเดนกลอกตาก่อนจะหันไปมองตาม ก็เห็นว่าปลางับเหยื่อแล้วจึงรีบหมุนคันเบ็ดกลับอย่างรวดเร็ว
วิ้ว!
“กรี๊ด ปลาตัวใหญ่จังเลยค่ะ” มารียาลุกขึ้นกระโดดอย่างดีใจที่เห็นปลาใหญ่โผล่ขึ้นจากน้ำ
“อาหารของเรา” อีเดนยิ้มกว้างให้คนดีใจเว่อร์อย่างขำๆ
“ว้าว! ตื่นเต้นจังเลยค่ะ” มารียายิ้มตอบก่อนจะมองดูปลาตัวใหญ่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
อีเดนเก็บปลาช่อนตัวใหญ่เสร็จก็หันมาถามสาวเจ้าด้วยสีหน้า เจ้าเล่ห์ “คุณอยากเล่นน้ำไหม”
“เอ่อ...ฉัน” มารียายังไม่ทันได้ตอบก็ตกใจที่อีกฝ่ายเดินตรงเข้ามารวบตัวเธอขึ้น แล้วเดินตรงไปที่ลำธารที่ตกปลาเมื่อครู่ “คะ...คุณจะทำอะไร ไม่นะ ไม่! กรี๊ดดด”
ตู้มมมม
อีเดนยิ้มกว้าง เมื่อเห็นสาวเจ้าลงไปลอยคออยู่ในน้ำ “น้ำเย็นดีไหมครับคนสวย”
“คนบ้า!” มารียามองค้อนอย่างขุ่นเคือง แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
“ฮ่าๆๆ มาๆ เดี๋ยวผมช่วย” อีเดนเห็นริมฝีปากบางเริ่มสั่นนิดๆ จึงนั่งลงแล้วส่งมือให้สาวเจ้าจับเพื่อจะช่วยดึงตัวขึ้นจากน้ำ
มารียารีบคว้ามือหนาเอาไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ ที่เคลือบยาพิษไปให้คนหล่อใจดี “ถ้าอยากรู้ว่าน้ำเย็นไหม คุณต้องลงมาสัมผัสเองค่ะ”
“อ๊ะ! รียา...” อีเดนหน้าเหวอทันทีที่สาวเจ้าออกแรงกระตุกแขนของตนให้ตกลงไปในลำธารด้วยกัน
ตู้มมม
“เย็นไหมล่ะคะท่านประธาน” มารียาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นคนตัวโตเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า
“หึ! มานี่เลย” อีเดนพุ่งตัวคว้าเอวบางเข้ามากอดแนบลำตัว แล้วก้มหน้าลงซุกไซ้ที่ซอกคอระหงอย่างไม่รอช้า
“กรี๊ด” มารียากรีดร้องพร้อมกับดึงมือหนาที่กำลังลูบคลำบริเวณหน้าท้องของเธอออกอย่างบ้าคลั่ง
“เอ่อ...สะ...สวัสดีค่ะท่าน” นวลฉายเอ่ยเสียงสั่นหลังจากที่เดินเข้ามาเห็นตอนที่เจ้านายกำลังหยอกกับคนรัก
อีเดนหยุดชะงักการกระทำไปทันทีทันใดที่รู้ว่ามีบุคคลที่สามร่วมอยู่ด้วย “สวัสดีนวล นี่คุณมารียาคนรักของฉัน”
“สวัสดีค่ะคุณมารียา” นวลฉายเอ่ยทักคนรักของเจ้านายด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“สะ...สวัสดีค่ะ” มารียาทักทายอีกฝ่ายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เอ่อ...นวลเตรียมของเอาไว้ให้ครบแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ” สาวใช้ผู้ดูแลบ้านพักหลังใหญ่บอกด้วยท่าทีเอียงอาย
“ขอบใจมาก เดินทางปลอดภัยนะ” อีเดนพยักหน้าให้ยิ้มๆ
“ค่ะท่าน” นวลฉายยกมือไหว้ทั้งสองก่อนจะเดินตรงไปยังรถกระบะที่ชม ผู้เป็นสามีจอดรอที่อยู่
“ฉันรักคุณมาก ถึงยอมอยู่เงียบๆ มานานจนกระทั่งริสาตาย ฉันก็ยังต้องรออีกสองปีเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตกับคุณ แบบไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ สายตาของคนภายนอก และถ้าวันนี้คุณยังไม่ยอมจัดการทุกอย่างให้ถูกต้อง วันหนึ่งเรื่องทั้งหมดนี้มันจะวนกลับมาซ้ำรอยเดิมของเราแน่!” โสภีบอกก่อนจะส่งหลักฐานรูปถ่ายของเช็คที่มีลายเซ็นของพันเอกปริณให้อีกฝ่ายดู
ประวิตรดูรูปในมือถืออย่างรู้สึกอึ้ง ในใจเริ่มคิดหาทางออกต่างๆ นานา เพราะกลวทุกอย่างๆ จะเป็นไปตามที่โสภีบอก
“คุณป้องดูแลยัยมิ้งมานานแล้วและจะยังดูแลต่อไป คุณคิดว่าถ้าวันหนึ่งลูกสาวของคุณรู้เรื่องนี้เข้า จะเกิดอะไรขึ้น?” โสภีบอกพลางขยิบตาให้บุตรสาว
“แต่ปริณขออลิซแต่งงานด้วยแหวนเพชรวงที่ประมูลได้เมื่อสองเดือนก่อน และอลิซยอมตัดขาดความสัมพันธ์พ่อลูกกับผม เพื่อที่จะแต่งงานกับปริณ แล้วคุณคิดว่าผมจะยังทำอะไรได้อีกล่ะโส” ประวิตรบอกอย่างจนใจเพราะสีหน้ามุ่งมั่นของปริณเมื่อครู่ เขารู้ว่าอีกฝ่ายจริงจังกับบุตรสาวมากกว่าจะเลือกมาริกา และก็ตนพอจะเดาความหมายของเช็คที่จ่ายให้ทุกเดือนออก
“ไม่จริง! แหวนวงนั้นต้องเป็นของหนู ฮือๆๆ หนูต่างหากคือคนที่เขาควรจะคุกเข่าขอแต่งงาน ไม่ใช่อลิซ ไม่ใช่ ฮือๆๆๆ” มาริกาโวยวายอย่างรับไม่ได้ เมื่อรู้ว่าปริณเอาแหวนวงที่เธอแอบหวังว่าเขาจะใช้ขอเธอแต่งงานไปขออลิชา
“อาขอโทษจริงๆ ที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้” ประวิตรบอกพลางลอบถอนหายใจอย่างรู้สึกอึดอัด
“คุณพูดเรื่องยัยมิ้งต่อหน้าคุณป้องไหม” โสภีถามอย่างสงสัย
“พูดสิ” ประวิตรหันไปตอบทันใด
“เขาบอกว่ายังไง” โสภีจ้องมองด้วยสายตาคาดคั้น
ประวิตรกลอกตาก่อนจะเอ่ยประโยคที่แสลงใจออกมา “ก็บอกว่าคบหากับหนูมิ้งแบบเพื่อนเท่านั้น ไม่เคยคิดเกินเลยแบบคนรัก”
“ไม่จริง ฮือๆๆๆ” มาริกากรีดร้องออกมาจนสุดเสียงราวกับโดนน้ำกรดสาด
“เพื่อนที่ไหนจะส่งเงินให้ใช้เดือนเป็นแสนคะ คุณต้องพาฉันกับยัยมิ้งไปบ้านของปริณเดี๋ยวนี้ ก่อนที่ทุกๆ อย่างจะสายไปจนแก้ไขอะไรไม่ได้อีก” โสภีบอกด้วยน้ำเสียงเดือดดาล เธอไม่มีทางยอมให้อลิชาอยู่เหนือกว่าบุตรสาวของตนเป็นอันขาด
“โส คุณใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม” ประวิตรปราม
“ลูกสาวฉันเสียหายขนาดนี้ คุณยังจะให้ฉันใจเย็นอยู่อีกงั้นเหรอ” โสภีขึ้นเสียงใส่อีกฝ่ายอย่างทนไม่ไหว
“คุณแน่ใจใช่ไหมที่จะเข้าไปพูดเรื่องนี้ที่บ้านภิพัฒน์หัสดิน” ประวิตรถามอย่างจนใจ
“แน่ยิ่งกว่าแน่อีกค่ะ ฉันจะไม่ยอมให้ลูกสาวต้องมาเดินซ้ำตามรอยของฉัน” โสภีบอกก่อนจะฉุดข้อมือของบุตรสาวให้ลุกตามออกไปขึ้นรถด้วย สีหน้าบึ้งตึง
ประวิตรลุกเดินตามไปด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คนหนึ่งก็บุตรสาว อีกคนกำลังจะมาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน