หลังจากที่มารียาถูกคนหื่นดึงเวลาให้อยู่ด้วยกันนานจนเกือบจะถึง ตีหนึ่ง เขาก็ยอมปล่อยให้เธอกลับบ้านโดยอาสาที่จะเป็นคนขับรถไปส่ง
มารียารีบเอ่ยห้ามเพราะกลัวว่าคนที่บ้านจะตกใจ ถ้าหากเห็น อีกฝ่ายไปส่งเธอตอนดึกๆ ดื่นๆ
อีเดนหน้าบึ้งยืนยันจะขับตามมาส่งจนถึงหน้าบ้าน มารียาถอนหายใจเหนื่อยๆ กับความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย และเธอไม่อยากจะยืนเถียงกับเขาอยู่ตรงที่ลานจอดรถไปจนถึงเช้าจึงยอมให้เขาขับไปส่ง
เช้าวันต่อมา... ข่าวพาดหัวเรื่องการเลิกกันระหว่างมารียากับธันวาดังแพร่สะพัดออกไป เพราะธันวาเมาหนักแล้วอาละวาดที่ไนต์คลับ พร้อมกับพูดจาเสียงดัง จนทำให้คนที่นั่งอยู่โต๊ะรอบๆ รู้ว่าทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ยี่ห้อดังกำลังเสียใจหนักขนาดไหน ที่โดนว่าที่เจ้าสาวบอกยกเลิกงานแต่ง แถมยังเกือบหวิดจะวางมวยกับแขกที่นอกร้าน จนกลายเป็นเรื่องที่หลายคนต่างให้ความสนใจกันไปทั่วโลกโซเชียล
ก๊อกๆ
“รียา! ตื่นหรือยังลูก” กมลาเคาะประตูเรียกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงหลังจากอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ที่สามีส่งให้ดูเมื่อห้านาทีก่อน
“ตะ...ตื่นแล้วค่ะ” คนที่เพิ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมงขานรับ ก่อนจะรีบลุกเดินไปเปิดประตูห้องให้มารดา
“ลูกเห็นข่าวของธันวาหรือยัง”
“ยังค่ะ พี่ธันเป็นอะไรหรือคะ” มารียาถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับอดีตคู่หมั้น
“ก็เมาอาละวาดเละเลยน่ะสิ” กมลาบอกพร้อมกับยัดหนังสือพิมพ์ใส่มือของคนที่เพิ่งจะตื่นนอน
“เอ่อ...หนูบอกเลิกพี่ธันเมื่อคืนค่ะ” มารียามองรูปของอดีตคนรัก ก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างไม่รู้จะทำยังไง
“ถึงว่า” กมลานั่งลงข้างบุตรสาว พร้อมกับจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มอย่างสังเกตอาการ
“หนูบอกพี่ธันว่าจะส่งคืนสินสอดให้วันนี้ค่ะ”
“ดีแล้ว แม่เก็บแยกเอาไว้ที่เซฟในห้องทำงานพ่อ”
“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจหนู”
“แม่ดีใจนะที่เห็นเราเข้มแข็งกว่าที่คิดเอาไว้”
“เอ่อ...คุณพ่อเห็นข่าวหรือยังคะ” มารียาถามถึงบิดาอย่างรู้สึกเป็นห่วง กลัวว่าเรื่องของเธอกับธันวาจะไปกระทบความสัมพันธ์ของธุรกิจที่บิดาทำร่วมกับครอบครัวของอีกฝ่าย
“เห็นแล้วจ้ะ แล้วแม่ก็เล่าเรื่องให้ฟังแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น” กมลารีบบอกเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของบุตรสาว
“แล้วพ่อว่าไงบ้างคะ” มารียาถามก่อนจะตกใจเมื่ออยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา
คลิก!
“พ่อไม่ว่าอะไรเราหรอกรียา” คนที่ยืนดักฟังการสนทนามาตั้งแต่แรกเดินเข้ามาในห้องนอน แล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆ กับบุตรสาว
“คุณพ่อ!” มารียาน้ำตาคลอขึ้นมาทันใด
อดิสรดึงบุตรสาวเข้ามากอดปลอบ “ชีวิตคือการเรียนรู้ ลูกแค่ยี่สิบสองยังมีโอกาสเจอคนดีๆ ที่เขาพร้อมจะหยุดทั้งชีวิตเอาไว้กับลูก ส่วนธันวา...พ่อก็เข้าใจเขานะ เพราะเป็นผู้ชายเหมือนๆ กัน ธันวาเองก็คงมีสาวเอาไว้ผ่อนคลายเหมือนกับพี่ชายเรา แต่ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ฉะนั้น ไม่ว่าลูกจะให้โอกาสธันวาแก้ตัวหรือจะจบทุกอย่างเอาไว้แค่ตรงนี้ พ่อก็จะอยู่ข้างๆ ลูกสาวของพ่อเหมือนเดิมจ้ะ”
“หนูรักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดเลย” มารียาเอ่ยทั้งน้ำตาอย่างตื้นตัน ถึงแม้คนภายนอกจะมองหรือจะคิดยังไง ขอแค่คนในครอบครัวเข้าใจมันก็เพียงพอแล้ว
“อ๊ะ! แล้ววันนี้ไม่ไปทำงานเหรอเรา” กมลารีบเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นบุตรสาวเริ่มจะทำซึ้ง
“หนูลางานเอาไว้หนึ่งค่ะ” มารียาตอบก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งลวกๆ ก่อนจะส่งยิ้มกว้างไปให้
“แล้วหัวหน้าแผนกเราเขาไม่ว่าเอาเหรอ” อดิสรถามอย่างสงสัย
“ไม่ค่ะ เขาชดเชยที่ใช้งานรียาเอาเอกสารไปให้บอสที่เชียงใหม่”
“คุณอีเดนใช่ไหม” กมลาถามแทรกขึ้น
“เอ่อ...ใช่ค่ะ” มารียาเอ่ยรับไม่เต็มเสียง
“คุณรู้จักเจ้านายของลูกสาวเราด้วยงั้นเหรอ” อดิสรหันไปถาม ผู้เป็นภรรยา
“ฉันรู้จักกับคุณอังศณา แม่ของเขาน่ะค่ะ”
“ผมเคยเจอพ่อของเขาหลายครั้งนะ ตอนที่ไปตีกอล์ฟ คุยสนุกเชียว ว่าจะชวนมาดูต้นบอนไซที่เลี้ยงไว้อยู่เหมือนกัน”
“ชวนมาเที่ยวทั้งครอบครัวเลยสิคะ” กมลาเอ่ยยิ้มๆ
“ได้ครับ ว่าแต่ไม่มีใครหิวอาหารเช้าเลยเหรอเนี่ย” อดิสรตอบรับ ก่อนจะถามภรรยากับบุตรสาวด้วยสีหน้ายิ้มๆ เพราะตนเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมานิดๆ แล้ว
“หนูขอสิบนาทีค่ะ เดี๋ยวตามลงไป” มารียารีบบอก
ครึ่งชั่วโมงต่อมา... ทันทีที่มารียาเดินลงมาถึงชั้นล่างก็เจอเข้ากับพี่ชาย เธอยิ้มกว้างเตรียมจะวิ่งเข้าไปหา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นบิดาและมารดาของธันวานั่งอยู่ข้างๆ
“เอ่อ...สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่” มารียายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยท่าทีนอบน้อม
“สวัสดีจ้ะหนูรียา” ประธีปกับสายธารยกมือขึ้นรับไหว้ด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
“พ่ออยากฟังจากปากของหนูว่าเกิดอะไรขึ้น” ประธีปถามเข้าเรื่องอย่างรู้สึกร้อนใจ
“เอ่อ...รียาบอกยกเลิกงานแต่งกับพี่ธันไปเมื่อคืนค่ะ” เธอบอกผู้ใหญ่ตามตรง
“เพราะ...” สายธารขอเหตุผล
“รียาเห็นพี่ธันกอดจูบกับผู้หญิงคนอื่นที่คลับเมื่ออาทิตย์ก่อน”
“หนูให้โอกาสธันได้ไหม” ประธีปเอ่ยขอเพราะเห็นสภาพของบุตรชาย หลังจากที่เพื่อนๆ พามาส่งที่บ้านเมื่อคืนแล้ว รู้เลยว่าอีกฝ่ายเสียใจขนาดไหนที่ถูกบอกเลิก
“จริงๆ ช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา หนูก็ถามใจตัวเองอยู่ตลอดว่าจะเอายังไง จะเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นเอาไว้ไม่บอกใคร แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นดีไหม คำตอบซ้ำๆ ที่หนูได้คือ หนูไม่สามารถกลับไปรักหรือไว้ใจพี่ธันได้อีกแล้วค่ะคุณพ่อ” มารียาบอกด้วยสีหน้าเศร้าๆ
“แม่เข้าใจความรู้สึกของหนูจ้ะรียา เอาเป็นว่าต่อให้หนูกับธันวา จะเลิกกันไปแล้ว ทั้งพ่อและแม่ก็จะรักหนูเหมือนเดิมนะ” สายธารถึงกับต้องหยุดคำพูดต่างๆ ที่จะร้องขอลงในใส่กระเป๋า หลังจากที่ได้ฟังคำตอบของอีกฝ่ายที่ก็คงจะเจ็บไม่น้อยไปกว่าบุตรชายของตน
“ขอบคุณค่ะ” มารียายกมือไหว้ทั้งสองอีกครั้งที่เคารพการตัดสินใจของเธอ
“พ่ออยากได้หนูเป็นลูกสะใภ้ แต่ดูเหมือนลูกชายของพ่อจะบุญไม่ถึง เฮ้อ...ยังไงผมก็กราบขออภัยเจ้าสัวกับคุณหญิงด้วยนะครับ สำหรับทุกๆ อย่าง” ประธีปยกมือไหว้อย่างยอมรับสถานะที่เปลี่ยนไป
“อย่าคิดมากเลยค่ะคุณประธีป” กมลารับไหว้พร้อมกับยิ้มให้ทั้งสองอย่างไม่ติดใจอะไร
“งั้นดิฉันกับสามีขอตัวก่อนนะคะ” สายธารเอ่ยขณะที่น้ำตาเริ่มจะเอ่อล้นออกมา เธอรู้ว่าบุตรชายรักมารียามากกว่าผู้หญิงทุกๆ คนที่ผ่านเข้ามา และไม่รู้ว่าถ้าหากบุตรชายฟื้นจากอาการเมาไม่ได้สติ แล้วรู้ว่าได้จบสถานะคู่หมั้นกับมารียาอย่างเป็นทางการแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น!
“ครับ อ้อ! เกือบลืม”
“อะไรหรือครับ”
“สินสอดครับคุณประธีป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน