หลังจากเดินเข้ามาภายในร้านอาหาร เสกสรรก็พาเดินตรงไปยังโต๊ะที่ระเบียงด้านนอก ที่ซึ่งมองเห็นท้องฟ้าและดวงดาวได้อย่างแจ่มชัด
อลิชากวาดตามองไปรอบๆ บริเวณของไร่ที่มีเห็นแสงไฟที่กระจายตามจุดต่างๆ เมื่อครู่ ซึ่งถ้าหากมองจากตรงจุดที่เธอยืนแล้ว มันคืออักษรภาษาอังกฤษที่เป็นคำว่า... R&R นั่นเอง “ว้าว! สวยจังเลยค่ะ”
“ครับ ตอนกลางวันก็สวยนะครับ มีรถจักรยานและมอเตอร์ไซค์ให้เช่าขับเที่ยวชมไร่ ส่วนตรงด้านหลังก็เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ไหลทะลุผ่านไปยังไร่เอื้องลานนาครับ” เสกสรรบอกก่อนจะเข้าไปนั่งที่หัวโต๊ะขนาดใหญ่
“เสียดายที่พ่อเลี้ยงไม่อยู่นะครับ” ปริณนั่งลงข้างๆ กับคนรัก
“เห็นว่าคุณกรจะกลับมาเดือนหน้านู่นน่ะครับ” เสกสรรบอกพลางหันไปพยักหน้าให้พนักงานเอาเมนูอาหารมาให้
“สงสัยคงจะงานยุ่งเหมือนเดิมน่ะครับ หึๆ” ภูเบสบอกขณะรับเมนูจากพนักงานสาวมาเปิดดู
“น่าจะยุ่งทั้งงานและหัวใจมั้งครับ” เสกสรรหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกไปถึงเพื่อนซี้อีกคนที่หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ๆ
“ยุ่งหัวใจด้วยเหรอครับ? ผมไม่เคยเห็นพ่อเลี้ยงพาสาวไหนออกงานด้วยเลยสักครั้ง” เจ้าพ่อสื่อถามอย่างสงสัย
“แหม...คุณภูไม่รู้อะไรเสียแล้ว พ่อเลี้ยงน่ะเสือซุ่มเงียบครับ” เสกสรรเอ่ยทีเล่นทีจริง
“โอ๊ย! คุณต้อมสปอยมาขนาดนี้ บอกผมเถอะครับ ผมอยากรู้” ภูเบสทนไม่ไหว หลังโดนกระตุ้นต่อมเผือกให้เริ่มทำงาน
“ฮ่าๆๆ ถ้าผมบอกก็ไม่สนุกสิ ให้คุณภูเดาเล่นๆ ดีกว่าว่าสาวคนนั้นเป็นใคร” เสกสรรหยอกเย้าต่ออย่างนึกสนุก
“คืนนี้ไอ้ภูมันนอนไม่หลับแน่เลยครับ ฮ่าๆๆ” ปริณบอกอย่างรู้นิสัยของเพื่อน
“ไอ้ป้อง! แกรู้ใช่ไหม” ภูเบสหันมาคาดคั้นกับเพื่อนรัก
“รู้! แต่ไม่บอกว่ะ ฮ่าๆๆ” ปริณเอาคืนทันทีที่ได้โอกาส
“นี่ผมพลาดข่าวนี้ไปได้ยังไงเนี่ย” เจ้าพ่อสื่อบอกอย่างรับไม่ได้ เพราะตนสั่งคนให้คอยติดตามข่าวของพ่อเลี้ยงธนากรอยู่ไม่ขาด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะตกข่าว
“ฮ่าๆๆ ผู้กองจะไปฮันนีมูนที่ไหนเหรอครับ” เสกสรรหัวเราะอย่างขบขันกับอาการช็อกของภูเบส จึงแสร้งเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นให้อีกฝ่ายคาใจเล่น
“อืม...ยังไม่รู้เลยครับ คงยกให้ว่าที่เจ้าสาวเป็นคนเลือก” ปริณบอกพลางเลิกคิ้วถามคนที่นั่งข้างๆ
“เรามาพักที่นี่กันดีไหมคะ” อลิชาชวน
“ถ้ามาจริง! ผมให้พักฟรีเลยครับ” เสกสรรแจกโปรอย่างใจปล้ำ
“จะดีเหรอครับคุณต้อม” ปริณถามอย่างเกรงใจ
“ดีสิครับ ช่วงกลางๆ เดือน ไปจนถึงสิ้นเดือน มีนัดรวมพลกันที่นี่พอดีครับ” เสกสรรบอกพลางนึกไปถึงหนุ่มๆ R&R และกลุ่มของฟีนิกซ์ คนอื่นๆ ที่ตอนนี้กำลังหัวหมุนอยู่กับการสรุปงบประมาณปลายปีแล้ว
“งั้นผมตกลงครับ ขอบคุณคุณต้อมมากๆ เลยที่เมตตา” ปริณตอบรับคำเชิญอย่างรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้เจอนักธุรกิจคนอื่นๆ ที่อยู่ในก๊วนของเสกสรร
“เราน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าครับผู้กอง” เสกสรรบอกยิ้มๆ รู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังจะสานต่อธุรกิจของทางบ้านและมองหาคู่ค้าทางฝั่งยุโรปอยู่ ซึ่งกลุ่มเพื่อนของเขาก็กำลังมองหาคู่ค้าในแถบเอเชียที่เป็นฐานผลิตอยู่ให้อยู่เช่นกัน
“เอ่อ...แล้วคุณต้อมเลี้ยงลูกแฝดเป็นไงบ้างครับ” ปริณถามถึงสองหนุ่มนักรบกับขุนพล ที่มักจะเห็นอีกฝายโพสลงไอจีบ่อยๆ
“เหนื่อยครับ แต่ว่ามันก็มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เวลาที่คุณได้จ้องมองชีวิตน้อยๆ ที่เกิดจากความรักของคุณ ค่อยๆ เติบโตขึ้น” เสกสรรตอบด้วยสีหน้าจริงจังระคนมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด
“แหม...ทำหน้าเคลิ้มตามเชี่ยวนะครับคุณปริณ” ภูเบสหันมาหยอกเพื่อนรักที่ดูเหมือนจะสตั๊นไปชั่วขณะ
ปริณกลอกตาก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นจิบกลบเกลื่อนอาการเขินอาย เมื่อนึกไปถึงชีวิตน้อยๆ ที่เป็นส่วนผสมของตัวเองกับคนรัก
อลิชาหันมองคนข้างๆ ก็เห็นอีกฝ่ายกำลังยิ้มราวกับคนบ้า เธอก็อดขำไม่ได้ แต่พอหันกลับมามองที่เสกสรรและภูเบส ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาทางด้านหลังของทั้งสองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีครับคุณแพร” ปริณเอ่ยทักทายภรรยาของเสกสรร
“สวัสดีค่ะผู้กอง สวัสดีค่ะคุณภูเบส” แพรลานนายกมือไหว้สองหนุ่ม ก่อนจะนั่งลงข้างๆ กับสามีที่ขยับเก้าอี้ให้อย่างรู้งาน
“สวัสดีครับคุณแพร” ภูเบสรีบยกมือรับไหว้
“นี่อลิซว่าที่เจ้าสาวของผมครับคุณแพร” ปริณเอ่ยแนะนำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน