สามชั่วโมงต่อมา... Orianna Condo
หลังจากที่ทานข้าวและพูดธุระต่างๆ เสร็จ ปริณก็ขับรถพาอลิชากลับมาที่คอนโด
“แต่งงานเสร็จแล้วเราจะอยู่ที่ไหนดีจ๊ะ” ปริณถามขณะที่ภายในใจเริ่มคิดหนัก
“หนูว่าเราไปนอนบ้านหนูสามคืน บ้านพี่ป้องสามคืน แล้วอีกคืนมานอนที่คอนโดดีไหมคะ” อลิชาเอ่ยทีเล่นทีจริง
“ตอนแรกพี่กะว่าจะพาหนูไปอยู่บ้านพี่ แต่ก็กลัวว่าคุณย่ากับคุณพ่อของหนูจะเหงา”
“อยากให้ทุกคนมาอยู่ด้วยนะคะ”
“จริงด้วย! งั้นเดี๋ยวเราชวนคุณพ่อกับคุณย่าของหนูมาอยู่ด้วยกันดีไหม จะได้ช่วยกันเลี้ยงลูกของเราแก้เหงาไง”
“แหม! คุณพ่อกับคุณย่าท่านจะยอมมาหรือคะ”
“ก็ไม่แน่นะ ถ้าเรามีลูก ท่านทั้งสองอาจจะอยากมาก็ได้ เดี๋ยวพี่ จะลองคุยเอง”
“พี่ป้องน่ารักที่สุดเลยค่ะ” อลิชาบอกอย่างดีใจที่อีกฝ่ายใส่ใจเธอและคนในครอบครัว
“หัวเราะอะไร ไปอาบน้ำนอนกันดีกว่าเร็ว” ปริณบอกก่อนจะ ช้อนอุ้มร่างอ้อนแอ้นขึ้น แล้วเดินตรงดิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
เช้าวันต่อมา...
อลิชาตื่นเช้าเตรียมจะทำข้าวต้มให้ปริณทาน เธอหยิบมือถือที่ชาร์จทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน มาเปิดเช็กข้อความในไลน์และไอจี พลัน! สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับข่าวหนึ่ง ที่มีคนกดเข้าไปอ่านและคอมเมนต์เป็นหมื่น ในระยะเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง
นายทหารมียศท่านหนึ่งที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับหม้ายสาวหลังจากที่ภรรยาเสียไปได้สองปี แต่ลูกสาวไม่พอใจกับงานแต่งงานครั้งนี้จึงทำตัวเละเทะ และเมาหัวราน้ำประชดผู้เป็นบิดา แถมเอาคืนด้วยการไปแย่งคนรักของลูกสาวของคนที่บิดากำลังจะแต่งงาน แอบพาอีกฝ่ายไปนอน กกกอดที่คอนโด จนกระทั่งตั้งท้อง จึงใช้เด็กมาจับผู้กอง เอ๊ย! ฝ่ายชาย ให้แต่งงานด้วย คำใบ้ชื่อเล่นของเธอคือ...หนูน้อยในดินแดนมหัศจรรย์
อลิชากวาดสายตาอ่านทีละประโยคด้วยหัวใจที่สั่น รู้สึกเจ็บ อย่างที่ไม่เคยเจ็บมาก่อน เธอหันไปมองคนที่นอนหลับอยู่บนเตียงผ่านม่านน้ำตา พลางนึกไปถึงตำแหน่งหน้าที่การงานและชื่อเสียงที่ปริณสะสมมานาน จะต้องมาพังเพราะข่าวบ้าๆ ที่ยัดเยียดหลายๆ อย่างที่เธอไม่ได้เป็น ให้คนอื่นคิดว่าเธอเป็น!
ปริณควานหาร่างบางที่นอนอยู่ข้างๆ เพื่อจะกกกอดเหมือนเช่น ทุกๆ ครั้ง แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า จึงลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง ก็เห็นสาวเจ้านั่งตัวสั่นอยู่บนพื้น
“อลิซ! หนูมานั่งทำไมตรงนี้คะ” คนที่รีบลุกจากเตียงจนเกือบ จะสะดุดล้ม เอ่ยถามอย่างสงสัย
“พะ...พี่ป้อง” คนที่กำลังอยู่ในโลกส่วนตัว ตกใจที่อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นที่ข้างหู
“อะไรกัน นี่เราร้องไห้เหรอเนี่ย” ปริณคนรักอย่างรู้สึกใจคอไม่ดี
“ฮึก...หนู...”
“มีเรื่องอะไร” ปริณดึงร่างบางเข้ามากอดปลอบ
“ฮึก...หนูไม่อยากแต่งงานแล้วค่ะ ฮือๆๆ” อลิชาบอกก่อนจะปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“เราว่าอะไรนะ?” ปริณหัวใจกระตุกวูบทันทีที่ได้ฟัง
“หนูไม่แต่งงานกับพี่ป้องแล้ว ฮือๆๆ” อลิชาดันอีกฝ่ายให้ออกห่างจากตัว
“นี่พูดบ้าอะไรออกมารู้ตัวไหมอลิซ!” ปริณหน้าร้อนผ่าวเมื่อได้ยินประโยคตอกย้ำชัดๆ อีกครั้ง
“รู้ค่ะ ฮึก...” อลิชาพยักหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง
“งั้นก็บอกเหตุผลมา ว่าเพราะอะไรถึงจะไม่แต่งงานกับพี่” ปริณพยายามข่มใจให้เย็น ทั้งที่อยากจะจับคนตรงหน้ามาเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอน
“หนู...หนู...” อลิชารู้สึกเจ็บจนไม่อาจจะเอ่ยถึงเหตุผลให้คนตรงหน้าฟัง
“บอกมา!” ปริณจ้องมองใบหน้างามอย่างข้องใจ
“ฮึก... ฮือๆๆ” อลิชาหลับตาลงแน่น ไม่ยอมสบตากับอีกฝ่ายเพราะมันจะทำให้เธอยิ่งเจ็บมากกว่าเดิมไปอีกหลายเท่า
“อลิซ...เงยหน้าขึ้นมองพี่เดี๋ยวนี้ ได้โปรดคนดี...บอกพี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนเรายังดีกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?” ปริณพยายามเกลี้ยกล่อมคนที่กำลังปิดกั้นสิ่งรอบตัว
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
ปริณรีบเอื้อมมือไปหยิบมือถือของสาวเจ้าที่วางอยู่ใกล้ๆ ขึ้นมากดรับสายทันที เมื่อเห็นว่าเป็นสายของว่าที่พ่อตา
“พี่จะจัดการเรื่องนี้เอง ไม่ต้องห่วง” ปริณให้สัญญา
“ฮึก...ถ้าวันนั้นหนูใจแข็งกับพี่ป้องอีกนิด...เรื่องทั้งหมดอาจจะไม่เป็นแบบนี้ ทั้งเรื่องพี่มิ้งและเรื่องข่าวอักษรย่อนี่”
“ให้ตายสิ! นี่เรามีความคิดบ้าๆ แบบนี้อยู่ในหัวได้ยังไงฮะ” ปริณหน้าตึงขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน
“ฮึก...ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่ของพี่ป้องเห็นข่าวแล้วจะว่ายังไงบ้าง ฮือๆๆ” อลิชาซบหน้าลงกับฝ่ามือแล้วปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ก่อนจะรู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเริ่มหมุนและเอนเอียงแปลกๆ
“พ่อกับแม่พี่และทุกๆ คนจะรักหนูเหมือนเดิมไม่ต้องห่วง อ๊ะ... อลิซ! อลิซ!” ปริณตกใจเมื่ออยู่ๆ ร่างบางในอ้อมกอดก็หมดสติไป
เขารีบช้อนอุ้มเธอขึ้นเตรียมจะพาไปหาหมอ ก็เป็นจังหวะเดียวกับ ที่ประตูห้องถูกกระชากออกอย่างแรงจากด้านนอก
ปัง!
“พี่ป้อง! อะ...อลิซเป็นอะไร” จอห์นที่ผลักประตูเข้ามา เอ่ยถามด้วยสีหน้าตื่นๆ
“อลิซเป็นลม พี่จะพาไปโรงพยาบาล เราขับรถให้พี่หน่อยได้ไหม” ปริณขอความช่วยเหลือ
“ได้ครับๆ! ผมเพิ่งเห็นข่าวเลยว่าจะเข้ามาดูอลิซ กลัวจะเครียดจนเผลอทำอะไรบ้าๆ” จอห์นพูดก่อนจะรีบเดินไปกดลิฟต์ให้
“พี่ตื่นมาก็เห็นอลิซนั่งร้องไห้ ถามอะไรก็ไม่ยอมบอก จนอาวิตร ส่งข่าวมาให้ดู พี่ถึงรู้ว่าเพราะอะไร” ปริณบอกหลังจากที่อุ้มสาวเจ้าเข้ามา ในลิฟต์
“พี่ป้องต้องดูแลอลิซดีๆ นะครับ ผมกลัวว่าอลิซจะเป็นโรคซึมเศร้าเหมือนน้าสา” จอห์นบอกขณะจ้องมองเพื่อนสาว ที่คอพับคออ่อนอยู่ในอ้อมแขนของปริณอย่างรู้สึกเป็นห่วง
“แม่ของอลิซ!” ปริณเอ่ยทวนด้วยหน้าซีดเผือด
“ใช่ครับ! น้าสาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าตอนที่โดนอาวิตรนอกใจ พี่ป้องจะไม่ทำแบบนั้นกับอลิซใช่ไหมครับ ผมไม่อยากเสียอลิซไปอีกคน”
“จอห์น พี่สาบานด้วยชีวิตว่าจะรักและดูแลอลิซไปจนตาย แต่หากถ้าวันไหนที่พี่ผิดคำสาบาน พี่ให้เราเอาปืนมายิงพี่ทิ้งได้เลย” ปริณบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เข้าใจว่าหนุ่มตรงหน้ากำลังคิดอะไร
“พระเจ้า! นักข่าวครับพี่ป้อง” คนที่กำลังจะพูดต่อ แต่ทว่าสายตาดันเหลือบไปเห็นฝูงนักข่าวเข้าซะก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน