แชะ! แชะ! แชะ!
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นติดๆ กัน หลังจากผู้กองหนุ่มคนดังอุ้ม ว่าที่เจ้าสาวออกมาจากลิฟต์ โดยที่เนื้อตัวท่อนบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นไหล่กว้างและหน้าอกที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม สะกดสายตาของนักข่าวสาวสามคนที่มาดักรอทำข่าวไปชั่วขณะ
“อะ...เอ่อ...คะ...คุณอลิชาเป็นอะไรคะ” นักข่าวยิงคำถามเสียงอึกอักเพราะสายตาและสมาธิทั้งหมดกำลังจดจ่ออยู่ที่กล้ามแน่นๆ ของ พันเอกปริณ
“เธอหมดสติไป ขอทางหน่อยครับ” ปริณบอกด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ
“คุณปริณคะ จริงไหมเรื่องข่าวที่ออกมา เรื่องที่...”
“ห้าโมงของเย็นนี้ ผมจะเปิดบ้านแถลงข่าวครับ” ปริณบอกก่อนจะรีบเดินไปยังรถตู้ที่จอห์นเปิดประตูรอ
“รอฟังข่าวเย็นนี้นะครับ” จอห์นบอกก่อนจะปิดประตูรถ หลังจากที่ปริณขึ้นมานั่ง จากนั้นก็สั่งให้คนขับให้ตรงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
ยี่สิบนาทีต่อมา... (โรงพยาบาล)
“คนไข้เป็นอะไรมาคะ” พยาบาลสาวเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้า ตื่นตระหนก เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนอุ้มสาวร่างเล็กเข้ามา
“เธอวูบหมดสติไปครับ” ปริณบอกพร้อมกับวางว่าที่เจ้าสาวลงบนเตียงที่มีบุรุษพยาบาลเข็นเข้ามารอ
“โอเค เดี๋ยวดิฉันรับช่วงต่อเอง เชิญคนไข้รอที่ด้านนอกนะคะ” พยาบาลสาวบอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น
“เสื้อครับพี่ป้อง” จอห์นส่งเสื้อให้คนที่เป็นห่วงเพื่อนสาว จนลืมที่จะห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองไป
“ขอบใจมากจอห์น เดี๋ยวพี่ขอไปโทรบอกผู้ใหญ่ก่อน ฝากเรารออยู่หน้าห้องแป๊บ” ปริณรับเสื้อสูทมาใส่พร้อมกับตบที่ไหล่ของอีกฝ่ายเบาๆ อย่างขอบคุณ
“ได้ครับพี่” จอห์นยิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอที่หน้าห้อง
ปริณเดินออกไปที่มุมด้านนอกแล้วต่อสายหาประวิตรเพื่อแจ้งข่าวว่าตอนนี้อลิชาอยู่ที่โรงพยาบาล ก่อนจะโทรไปบอกให้บิดาและมารดาของตนทราบ จากนั้นก็เดินกลับไปเข้าด้านใน ท่ามกลางสายตาของใครหลายๆ คนที่พากันจับจ้องมาอย่างสนอกสนใจ
ที่บ้านของโสภี...ขณะที่มาริกาจิบกาแฟไปเปิดเลื่อนดูข่าวในแท็บเลตไปนั้น ก็เจอข่าวที่เพิ่งจะลงเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เป็นภาพของปริณที่ใส่กางเกงนอน อุ้มอลิชาเดินออกจากคอนโดไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่ พร้อมกับข้อความใต้ภาพ...
‘พันเอกปริณนัดเปิดบ้านแถลงข่าวเย็นนี้ ก่อนจะรีบเดินขึ้นรถตู้ที่จอดรอ พาว่าที่เจ้าสาวส่งโรงพยาบาล เพราะเกิดอาการวูบหมดสติไป สาเหตุก็น่าจะมาจากข่าวอักษรย่อ ที่ใครได้อ่านก็คงจะตีความหมายได้ทันทีว่าหนูน้อยในดินแดนมหัศจรรย์คนนั้น...คือใคร!’
“สมน้ำหน้านังอลิซมันนะคะ หัวอ่อนเหมือนแม่ของมันไม่มีผิดเลย” มาริกาเอ่ยบอกพลางเบ้ปากอย่างรู้สึกสะใจ
“ใช่! นังสาน่ะ เวลาโดนฉันแหย่นิดแหย่หน่อยก็เข้าโรงพยาบาล แบบนี้แหละ” โสภียิ้มกริ่มเมื่อนึกไปถึงผลงานของตัวเองที่ผ่านมา จนกระทั่งสิ่งที่เธอทำตอนนี้ มันก็ยังส่งผลไปยังบุตรสาวของอีกฝ่าย
“คุณแม่นี่วางแผนเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ” มาริกายกนิ้วให้มารดาอย่างชื่นชม ‘หึ! อยากจะรู้นัก ว่าข่าวดังออกขนาดนี้ ป้องยังจะรักมันอีกไหม’
“แน่นอนสิยะ! วันสุดท้ายที่นังสามันจะตาย ฉันถ่ายรูปตอนที่นอนกกอยู่กับคุณวิตรไปให้มันดู” โสภีหัวเราะอย่างสะใจ ในที่สุดก็สามารถเขี่ย อริสาให้พ้นทางไปได้
“จริงเหรอคะคุณแม่” มาริกาถึงกับสตั๊นไปสิบวิ ไม่คิดว่ามารดาจะเล่นอีกฝ่ายแรงขนาดนั้น
“จริงสิ! ก็คุณวิตรไม่ยอมเลิกกับมันสักที แกจะให้ฉันต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ เป็นเมียน้อยไปจนตายงั้นเหรอ ไม่มีทาง!”
ผลัก! ประตูบานใหญ่ถูกผลักเข้ามาทันทีที่โสภีเอ่ยจบ
“คะ...คุณลุง!” มาริกาเอ่ยเรียกเสียงเบาหวิว เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินตรงเข้าไปหามารดา
เพียะ! เพียะ! ประวิตรตวัดฝ่ามือลงบนใบหน้าของโสภีเต็มๆ แรงอย่างโมโห ที่ได้ยินว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา อีกฝ่ายทำอะไรกับภรรยาและบุตรสาวของตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน