อีเดน นิยาย บท 75

โรงพยาบาล...

“อลิซเป็นยังไงบ้างคะพี่ป้อง” มารียาถามพี่ชายที่นั่งเหม่ออยู่หน้าห้อง

“หมอกำลังตรวจอยู่” ปริณเงยหน้าขึ้นตอบ ก็เห็นบิดาและมารดาเข้ามานั่งข้างๆ

“ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาหนูอลิซด้วยเทอญ” กมลายกมือไหว้ขอพร

“อลิซต้องไม่เป็นอะไรค่ะแม่” มารียาบอกก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำ ที่หางตาทิ้ง แล้วซบหน้าลงที่อกกว้างของพี่ชาย

“ผมบอกนักข่าวไปว่าจะเปิดบ้านแถลงข่าวทั้งหมดตอนห้าโมงเย็นครับ” ปริณลูบหลังให้น้องสาวเบาๆ ก่อนจะหันไปบอกกับมารดา ถึงสิ่งที่ตนได้ลั่นวาจาเอาไว้

“ดีจ้ะ เดี๋ยวแม่จะสั่งให้เด็กที่บ้านเตรียมห้องให้”

“ขอบคุณครับ” ปริณยิ้มให้มารดา

อดิสรที่กำลังคุยทักทายจอห์น แต่พอเห็นคนที่เพิ่งมาใหม่ยืนหันซ้ายหันขวา คล้ายกับว่าไม่รู้จะไปทางไหนจึงรีบเอ่ยเรียก “คุณประวิตร! ทางนี้ครับ”

“อลิซเป็นยังไงบ้างครับ” ประวิตรถามทุกคนด้วยสีหน้าตื่นๆ

“หมอกำลังตรวจอยู่ครับคุณอา” ปริณบอกให้คนที่ดูจะกังวลไม่น้อยไปกว่าตนทราบ

“ผมรู้ตัวคนปล่อยข่าวแล้วครับ” ประวิตรบอกเสียงเศร้า

“น้าโสภีกับลูกสาวใช่ไหมคะคุณอา” มารียาถามด้วยสีหน้ามั่นใจ ว่าต้องใช่สองแม่ลูกอย่างแน่นอน

“ใช่! อาไปได้ยินเข้าพอดี โสภีเป็นคนปล่อยข่าว อาผิดเองที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายคนในครอบครัวครั้งแล้วครั้งเล่า ฮึก...” คนที่เพิ่งจะตาสว่างเอ่ยทั้งน้ำตา

“ไม่เป็นไรครับคุณวิตร เราจะช่วยกันผ่านเรื่องนี้ไปครับ” อดิสรบอกพลางลูบหลังให้อีกฝ่าย

“ผมเองก็มีส่วนในเรื่องทั้งหมดนี้เหมือนกันครับคุณอา เมื่อเช้าผมตื่นมาแล้วเห็นอลิซร้องไห้ สายตาของเธอเหม่อลอยแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน มันเหมือนเธอกำลังปิดกั้นตัวเอง พอจอห์นบอกว่าอลิซอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าเหมือนน้าสา ผมก็เริ่มใจคอไม่ดี” ปริณเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง

“อะไรนะ... สาเป็นโรคซึมเศร้างั้นเหรอ ทำไมผมไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน” ประวิตรถึงกับช็อกไปทันใดที่รู้ว่าอริสาเป็นโรคซึมเศร้า

“ก็เพราะว่าตอนนั้นคุณเอาเวลาทั้งหมดไปสนใจคุณโสภีอยู่ยังไง ละคะ” มารียาไขข้อข้องใจให้บิดาของเพื่อนอย่างเสียมิได้

“รียา!” ปริณรีบเตือน กลัวน้องสาวจะคุมอารมณ์ไม่อยู่

“ขอเถอะค่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว พูดกันให้มันจบๆ ไปเลย จะได้เริ่มต้นกันใหม่ โดยไม่ต้องกลับไปซ้ำรอยเก่าที่มันเคยพลาด” คนที่รู้และเห็นความทุกข์ใจของเพื่อนมานานบอกอย่างทนไม่ไหว

“ใช่ครับ” จอห์นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะหันไปตอกย้ำความเจ็บปวดที่ครั้งหนึ่งอลิชาเคยแบกรับเอาไว้ให้ทุกคนฟัง “น้าริสาเริ่มเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าอาวิตรนอกใจ”

“ฮึก...อามันเลว ทำร้ายความรู้สึกของผู้หญิงที่รักอาที่สุด จนอลิซเองก็แทบจะไม่นับถือ ฮึก...” ประวิตรบอกอย่างรู้สึกเกลียดตัวเอง

“เรากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้วไม่ได้หรอกค่ะอาวิตร แต่มีสิ่งหนึ่งที่หนูจะบอก อลิซรักอานะคะ ทั้งรักและโหยหาอ้อมกอดของพ่อมาโดยตลอด” มารียาบอกความลับที่ซ่อนอยู่ในแววตาของเพื่อนสาว

ประวิตรปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ หลังจากที่รู้ว่าบุตรสาวนั้นยังรักและต้องการตนอยู่

“ตอนที่รู้ว่าอาจะแต่งงาน ผมกับรียาต้องเปลี่ยนกันไปนอนเป็นเพื่อน เพราะกลัวว่าอลิซจะคิดอะไรไม่ดี” จอห์นบอก

“ใช่ค่ะ ที่เราเห็นกันอยู่ว่าอลิซยังสดใสร่าเริงอยู่นี่ จริงๆ แล้วยังต้องเยียวยาความรู้สึกกันอีกเยอะนะคะ” มารียาบอกด้วยท่าทีที่อ่อนลง

“โอเค ต่อไปนี้ป้องต้องระวังนะ แม่น่ะรักอลิซมาก ถ้ามีเรื่องเหมือนครั้งนั้นให้อลิซสะเทือนใจอีกเมื่อไหร่ละก็ แม่ไม่เอาลูกไว้แน่ป้อง” กมลาสรุปสถานการณ์เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เธอไม่อยากจะตอกย้ำให้คนที่เคยผิดพลาดเจ็บไปกว่านี้

“ผมสาบานเลยครับ ว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก” ปริณให้คำมั่น

“แม่ก็ดีใจด้วยจ้ะ” กมลาเข้าไปกอดตามอย่างรู้สึกยินดี

“ว้าว!” มารียากรีดร้องเบาๆ พร้อมกับสวมกอดจอห์นที่ยืนอยู่ข้างๆ

“หะ...หัวใจฉันเต้นแรงมากเลยรียา” จอห์นบอกก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง ด้วยสีหน้าอายๆ พลางนึกไปถึงหนึ่งชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นในอีกแปดเดือนข้างหน้า

ประวิตรเองก็น้ำตาไหลอย่างรู้สึกตื้นตัน เขาสาบานกับตัวเองในใจว่า... ครั้งหนึ่งเขาเป็นสามีและพ่อที่แย่ แต่ครั้งนี้เขาจะขอเป็นคุณตาที่ดีสำหรับหลานอย่างแน่นอน

หลังจากที่ปล่อยให้ญาติๆ และว่าที่คุณพ่อแสดงความดีใจได้ครู่หนึ่ง นายแพทย์ใหญ่ก็เอ่ยข้อควรระวังต่อ “ช่วงนี้ก็พยายามอย่าให้ว่าที่คุณแม่คิดมาก หรือมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจนะครับ เพราะมันอาจจะส่งผลต่อเด็กในครรภ์ได้”

“ครับคุณหมอ” ปริณพยักหน้ารับยิ้มๆ

“เอ่อ...คุณหมอครับ พอจะปิดข่าวเรื่องที่ลูกสาวของผมท้องได้ไหม ผมกลัวคนอื่นจะมองลูกสาวผมไม่ดี” ประวิตรเอ่ยเสียงอ่อน เพราะแค่เรื่องข่าวอักษรย่อ ก็ทำให้บุตรสาวของตนเครียดหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล จึงไม่อยากให้มีข่าวท้องก่อนแต่งหลุดออกไปให้คนนอกวิจารณ์เล่นอีก

“ผมสาบานว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางหลุดออกไปครับ สบายใจได้” นายแพทย์ใหญ่ให้คำมั่น

“ขอบคุณครับ / ขอบคุณค่ะคุณหมอ” ทุกคนพากันยกมือไหว้

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวยังไงขอเชิญว่าที่คุณพ่อตามผมไปที่ห้องด้วยนะครับ พอดียังมีเรื่องแนะนำอีกสองสามข้อ” นายแพทย์ใหญ่บอกพร้อมกับชี้ไปที่ห้องที่อยู่ถัดไป

“ได้ครับ” ปริณพยักหน้ารับยิ้มๆ

“งั้นพวกเราเข้าไปหาอลิซได้หรือยังคะ” มารียาเอ่ยถามเพราะอยากจะเข้าไปดูอาการของเพื่อนรักที่นอนอยู่ด้านใน

“ได้ครับ แต่ว่าตอนนี้คนไข้ยังไม่รู้สึกตัว” นายแพทย์ใหญ่พยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะเดินจากไป

ปริณรีบเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องที่อยู่ใกล้ๆ ขณะที่ทุกคนต่างพากันกรูเข้าไปหาอลิชาในห้อง ด้วยสีหน้าเป็นห่วงแกมยินดีที่กำลังจะมีสมาชิกใหม่ซึ่งเป็นทายาทระหว่างสองตระกูล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน