เช้าวันต่อมา... บ้านวิภากรณ์
ปริณพาอลิชามาทานอาหารเช้ากับคุณปานทิพย์และประวิตรที่บ้าน หลังจากที่นัดกันเอาไว้เมื่อวาน
“มาพอดีเลย ย่าเพิ่งสั่งให้เด็กตั้งโต๊ะรอเมื่อครู่” ปานทิพย์บอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีครับคุณย่า คุณพ่อ” ปริณยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม
“สวัสดีค่ะ” อลิชายกมือไหว้ตามติดๆ
“สวัสดีครับ เชิญด้านในครับ” ประวิตรยกมือรับไหว้พร้อมกับส่งยิ้มให้ว่าที่ลูกเขยกับบุตรสาว
ขณะที่ปริณกับอลิชากำลังจะเดินเข้าไปข้างในบ้าน ก็มีเสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้นอีกครั้ง
ปิ๊งป่องๆ ปิ๊งป่องๆ
“อ้าว! ใครมากดกริ่งเรียกน่ะแม่อ้อย ออกไปดูสิ” ปานทิพย์หันไปบอกแม่บ้านที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ค่ะท่าน” น้ำอ้อยเดินออกไปดูได้เพียงครู่ พอเห็นว่าใครยืนอยู่หน้าบ้านก็วิ่งหน้าตื่นกลับเข้ามา “อะ... เอ่อ...”
“มีอะไรงั้นเหรอ” ประวิตรถามอย่างสงสัย
“คะ...คุณโสภีมาค่ะ” น้ำอ้อยบอกเสียงสั่น
“เดี๋ยวฉันจะออกไปคุยเอง” ประวิตรบอกก่อนจะลุกเดินออกไป ด้วยสีหน้าตึงๆ
“แม่นี่ไม่ยอมจบง่ายๆ สินะ หึ!” ปานทิพย์ส่ายหน้าเบาๆ อย่างรู้สึกเบื่อหน่าย
“หนูโอเคไหม?” ปริณถามเสียงอ่อน เมื่อเห็นอลิซมีสีหน้าไม่ค่อยดี
“หนูไม่เป็นไรค่ะ” อลิชาส่งยิ้มให้ทั้งที่ภายในใจก็รู้สึกเป็นห่วงบิดาขึ้นมานิดๆ
ประวิตรเดินออกมา ก็เห็นอีกฝ่ายยืนเกาะรั้วและกำลังจ้องมองมายังตน “มีธุระอะไร”
“จะให้ฉันยืนคุยตรงนี้ใช่ไหม” โสภีมองคนที่ทำเหมือนไม่มีเยื่อใยด้วยสายตาตัดพ้อ
“ใช่! คุณแม่ผมท่านสั่งห้ามคุณเหยียบเข้าไปในบ้านอีก มีอะไรก็ว่ามาตรงนี้เลย”
“คุณเป็นคนให้ข่าวนี้ใช่ไหม ฮึก...” โสภีบอกก่อนจะล้วงมือถือ มาเปิดให้อีกฝ่ายดูข่าวที่เพื่อนสาวส่งมาให้
“ผมไม่มีเวลาว่างพอจะทำเรื่องแบบนี้หรอก ถ้าคุณมาเพราะต้องการจะรู้แค่นี้ก็กลับไปได้แล้ว” ประวิตรเหลือบมองครู่หนึ่ง ก่อนจะตอกกลับอย่างไม่สบอารมณ์
“เดี๋ยว! ตกลงคุณจะล้มงานแต่งของเราจริงๆ ใช่ไหม คุณวิตร” โสภีถามย้ำเรื่องสำคัญ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเตรียมจะเดินหนี
“คุณคิดว่าผมจะเอาผู้หญิงที่ทำร้ายลูกสาว มาทำเมียได้อีก งั้นเหรอโส” ประวิตรถามกลับพร้อมกับจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตารังเกียจ
“ฮือๆๆ คุณวิตร ได้โปรด... โสไม่ได้ตั้งใจ โสสัญญาว่าจะไม่ทำ แบบนั้นกับหนูอลิซอีก ฮือๆๆ” โสภีเกาะประตูรั้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย
“กลับไปซะโส เรื่องของเรามันจบแล้ว” ประวิตรบอกด้วยสีหน้ารำคาญกึ่งสมเพช
“ฮึก...จบงั้นเหรอ ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมเลิกกับคุณเด็ดขาด” โสภีโวยวายเพราะคิดว่ายังไงอีกฝ่ายก็ต้องใจอ่อนให้เธอเหมือนทุกๆ ครั้ง
“ไม่เลิกก็เรื่องของคุณ แต่ผมไม่เอาคุณแล้ว” ประวิตรยักไหล่ไม่แคร์
“อย่าเดินหนีฉันนะ” โสภีตะโกนเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะเดินกลับเข้าบ้าน
อลิชาได้ยินเสียงทะเลาะกันดังเข้าไปข้างใน ก็รีบลุกเดินออกมาดู“คุณพ่อมีอะไรกันคะ”
“หึ! แกใช่ไหมที่เป็นคนให้ข่าวเรื่องของฉันกับลูก” โสภีที่สติแตกโวยวายเสียงดังลั่น เมื่อเห็นอลิชาเดินออกมาจากบ้าน
“เรื่องอะไรหรือคะน้าโส?” อลิชาถามกลับอีกฝ่ายอย่างเสียไม่ได้
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย แกมันเลวมาก แกแย่งทุกอย่างไปจากลูกสาวของฉันแบบหน้าด้านๆ” โสภีชี้หน้าด่าอย่างแค้นใจ
“อลิซไม่ได้แย่งครับ ผมรักอลิซมานานแล้ว แต่กับมิ้งผมไม่เคยรู้สึกกับเธอแบบนั้น” ปริณที่เดินตามออกมาบอกด้วยสีหน้าตึงๆ
“สารเลว! พวกแกมันเลวเหมือนกันหมดทุกคน” โสภีตะโกนด่าเสียงดังจนคนที่เดินผ่านไปมาต่างหันมามอง
“รถคันนี้ใช้ขนยาไปขายตามสถานบันเทิงต่างๆ มีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานครับ” สันติบอก
“กรี๊ดดด ฉันไม่ได้ขายยานะ” โสภีรีบส่ายหน้าปฏิเสธอย่างไม่รู้เรื่อง
“เรารู้แล้วครับว่าใครเป็นคนขาย” สันติบอกก่อนจะพยักหน้าให้นายตำรวจหกนายที่เพิ่งมาถึง ให้จัดการต่อ
ประวิตรยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะรู้มาบ้างกลายๆ ว่ามาริกากำลังคบหากับเสี่ยใหญ่เจ้าของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งจะแต่งงานกับลูกสาวนักการเมืองไปเมื่อสองปีก่อน แต่ไม่คิดว่าสุดท้าย...จะต้องมาโดนตามจับเพราะค้ายา
สามสิบนาทีต่อมา... ปริณกับประวิตรเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจที่โรงพัก ขณะที่โสภีถูกนำตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาล โดยการควบคุมของตำรวจ
จอห์น มารียาและคนอื่นๆ ต่างพากันรีบมาปลอบขวัญอลิชา ที่ยังคงสั่นและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เช้าวันต่อมา... พาดข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ เป็นข่าวการเข้าจับกุมเสี่ยใหญ่เจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังกับมาริกาที่สนามบิน หลังจากที่สายรายงานว่าทั้งสองได้ซื้อตั๋วเครื่องบินเตรียมหนีออกนอกประเทศ ควบคู่กับข่าวบุกยิงพันโทประวิตรที่หน้าบ้าน โดยหม้ายสาวที่เคยมีกำหนดแต่งงานด้วยกันในเดือนหน้า แต่ทว่า...วิวาห์ก็ล่มซะก่อน
นักข่าวโยงใยความสัมพันธ์ของสองแม่ลูกที่ถูกจับในวันเดียวกัน แต่ไม่มีการเอ่ยถึงปริณและอลิชาว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะประวิตรได้ขอร้องกับทางตำรวจไม่ให้เปิดเผย กลัวจะกระทบกระเทือนความรู้สึกของบุตรสาว ที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล และกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในอีกไม่ถึงสองอาทิตย์ข้างหน้า
สองวันต่อมา... ไร่ไคเลอร์ เชียงใหม่
อังศณากับกมลานำทีมพาหนุ่มสาวไปแจกของให้กับเด็กๆที่เชียงใหม่ เพราะอยากจะผ่อนคลายบรรยากาศที่แสนตึงเครียด ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
“แหม! บรรยากาศดีจริงๆ” ปานทิพย์เอ่ยชม
“เดี๋ยววันนี้อังจะพาคุณทิพย์กับคุณมลไปสปาที่ไร่สิรันยากรณ์ค่ะ แล้วพรุ่งนี้เช้าเราค่อยขึ้นไปแจกของที่บนดอยกันแต่เช้า ดีไหมคะ?”
“ค่ะ / จ้ะ” กมลากับปานทิพย์ตอบรับพร้อมๆ กัน
“ผมจะพาเจ้าสัวกับคุณประวิตรไปตีกอล์ฟที่ไร่เอื้องลานนานะ” อีธานบอกก่อนจะหันไปยิ้มให้ทั้งสองที่เคยไปตีกอล์ฟด้วยกันบ่อยๆ
“ค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ” อังศณายิ้มตอบ เพราะทุกครั้งที่มาเที่ยวเชียงใหม่สามีของเธอก็มักจะไปขับรถเที่ยวเล่นที่ไร่สิรันยากรณ์กับไร่เอื้องลานนาเป็นประจำ
“ผมว่าจะปาร์ตี้ปิ้งย่างข้างลำธารด้านหลังครับ” อีเดนบอกยิ้มๆเพราะโทรมาสั่งให้คนเตรียมของปิ้งอย่างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน
“จ้า! เต็มที่เลยนะจ๊ะเด็กๆ” อังศณาเอ่ย ก่อนจะพากันแยกย้ายไปทำกิจกรรมที่ตั้งใจไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน