"เฮอะ ทำเองก็ทำเอง"
ขณะที่เฉินเสียนกำลังกัดอาหารแห้ง ซูเจ๋อก็กัดอีกสองคำ
เขาก็ได้พูดขึ้นอีก "ขายังปวด?"
เฉินเสียนพยักหน้า
"บางทีหนังอาจจะถลอก สักพักค่อยทายา" ซูเจ๋อหยิบยาที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมาแล้วยื่นให้เฉินเสียน
เฉินเสียนกระแอม "จะทาอย่างไร?"
"ทำไม่เป็น? ต้องการให้ข้าช่วยท่านไหม?"
เฉินเสียนจ้องไปที่เขา "ข้าทำเป็นแน่นอน! แต่ว่าพวกท่านอยู่ที่นี้ข้าจะทายาอย่างไร?"
เฉินเสียนเองก็อยากจะทายามาก เพื่อให้รอยถลอกด้านในหายเร็วๆ มิเช่นนั้นพรุ่งนี้เช้าต้องขี่ม้าเดินทางต่อไปมันจะต้องถูกทรมานมากแน่
ภายใต้สถานการณ์นี้ เฮ่อโยวและซูเจ๋อได้หลบออกไป
แม้ว่าจะหลบออกไปแล้ว แต่จะปล่อยให้เฉินเสียนถอดกางเกงใส่ยาที่บนภูเขาตามลำพัง.......มันก็รู้สึกแปลกๆ
สุดท้ายยังคงเป็นเฮ่อโยวที่จะหนีไปพร้อมกับข้ออ้างที่ว่าจะไปทำธุระ แต่ปล่อยให้ซูเจ๋ออยู่ที่นี่
เฉินเสียนถาม "ท่านไม่ไปทำธุระรึ?"
"ข้าไม่รีบ"เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเป็นบ้า ซูเจ๋อยิ้ม แล้วนั่งหันหลังให้ "ข้าอยู่ที่นี่จะอยู่เพื่อคุ้มกันท่าน ท่านสามารถนั่งพิงหลังข้าได้ ข้ามองไม่เห็น"
ซูเจ๋อหันหลังเพียงแค่ปิดกั้นเปลวไฟ เฉินเสียนนั่งพิงอยู่หลังของเขารู้สึกปลอดภัยอย่างสุดที่จะพรรณนา
ด้านหนึ่งเธอได้นิ่งพิงหลังเขา อีกด้านเปิดยาขึ้นมาดม แล้วพูดว่า "ถ้าสักพักท่านหันหน้ามามองจะทำอย่างไร?"
ซูเจ๋อพูด "นอกจากท่านต้องการให้ข้าช่วย"
"ถ้าท่านกล้าหันมามอง ข้าจะทำให้ท่านตาบอด" เฉินเสียนขู่
เฉินเสียนยังไม่ถอดกางเกงของเธอ เธอเพียงแค่แตะตัวยาจากนั้นเอื้อมมือเข้าไปในกางเกง เอื้อมมือเริ่มจากต้นขาของตัวเองเข้าไปด้านใน
เมื่อสัมผัสถึงบาดแผล โดยไม่ได้เตรียมตัว จึงเปล่งเสียงร้องออกมาสองครั้ง
การกระทำของเฉินเสียนทั้งช้าและแปลกมาก หลังจากทายาแล้ว เวลาก็ได้ผ่านไปนาน
ถึงเวลานอนในยามค่ำคืน เฉินเสียนเหนื่อยมากจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
เธอหนุนบนขาของซูเจ๋อ ดวงตาของเธอดูสงบ บางครั้งมุมปากก็เต็มไปด้วยความฝันที่มีเสียงดังออกมาเล็กน้อย
ซูเจ๋อฟังอย่างระมัดระวัง ถึงได้ยินว่าเธอกำลังเรียก "เจ้าน่องน้อย" อาจจะฝันถึงเจ้าน่องน้อย และรอยยิ้มอันเงียบสงบก็ปรากฏขึ้นบนปากของเธอ
ซูเจ๋อใช้มือปัดเส้นผมที่อยู่บนขมับของเธอออกด้วยการเคลื่อนไหวที่อ่อนโยน
เฮ่อโยวยังนอนไม่หลับ และเขามองด้านข้างก็ตกตะลึงพรึงเพริด
เขาค่อนข้างมั่นใจว่า บางทีซูเจ๋อก็ชอบผู้หญิงแล้ว อีกทั้งคนที่เขาชอบก็คือผู้หญิงคนนี้คนที่หลับใหลอยู่บนขาของเขา
มิฉะนั้นเขาจะแสดงให้เห็นด้านที่อ่อนโยนเช่นนี้ได้อย่างไร และเต็มใจสละชีวิตเพื่อเธอได้อย่างไร คงได้ก้าวข้ามความเป็นจักรพรรดิและขุนนางไปนานแล้ว
ซูเจ๋อพูดขึ้นอย่างคลุมเครือ "อย่ามองในสิ่งที่ไม่ควรมอง และสิ่งที่ท่านไม่ควรจะรู้ก็แสร้งทำไม่รู้ เช่นนี้ถึงเป็นสิ่งที่ดีสำหรับท่าน"
เสียงของเขาเบามาก แต่ลมหายใจที่ระบายออกจากร่างกายของเขาเย็นเล็กน้อย และมีความรู้สึกถูกกดขี่เล็กน้อยที่ไม่สามารถพูดได้
เฮ่อโยวตกใจ หันหลังกลับแสร้งทำเป็นหลับ
เมื่อถึงวันรุ่งขึ้นก็เดินทาง เห็นได้ชัดว่าดีขึ้นมาก ไม่เจ็บปวดเท่าเมื่อวานแล้ว เพียงแค่การขี่ม้าที่กลับไปกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อดทนอีกนิดคงจะชินกับมันเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...