เสียงอบอุ่นของซูเจ๋อลอยมาเข้าหูเธอ "ไม่รู้ควรเขียนอย่างไรหรือ? ข้าสอนท่านเอง"
เมื่อยามซูเจ๋อหายใจเฉินเสียนรู้สึกถึงความอุ่นในใบหู
ก่อนเขาจะเขียนแต่ละประโยค เขาจะอ่านบอกให้เธอทราบก่อนเสมอ
ลายมือเฉินเสียนที่ไม่ค่อยสวยเท่าใดนัก เมื่อมีซูเจ๋อค่อยจับเขียนก็กลับกลายเป็นอักษรงดงามเสียอย่างนั้น
เปลวแสงเทียนบนโต๊ะพลิ้วไหว ส่งแสงประกายสะท้อนเงาของทั้งสองไว้ที่กำแพงห้อง
หลังเขียนจดหมายถึงเป่ยเซี่ยเสร็จ ซูเจ๋อคิดรอบคอบมาก ให้เฉินเสียนส่งจดหมายไปยังแม่ทัพโอ้วในเขตชายแดนอีกหนึ่งฉบับ เพื่อพวกเขาจะได้วางใจ
พอเขียนตัวสุดท้ายเเรียบร้อย เฉินเสียนพลางถอนหายใจหนึ่งเฮือก
"พอน้ำหมึกแห้งก็เก็บเข้าซองได้แล้ว" ซูเจ๋อกล่าว "ทำไม ข้าทำให้ท่านตื่นเต้นหรือ?"
"ท่านเข้าใกล้เกิน ข้าอึดอัด"
เสียงของเขาดุจขนสัตว์ล่องลอยอยู่ในหัวใจ "อาเสียน ท่านอยากหลบหนีอีกแล้วหรือ?"
"ใครว่าล่ะ ข้าแค่ไม่คุ้นเคยเฉยๆ" ทันใดนั้นเฉินเสียนก็หันหน้ากลับไปสบตากับซูเจ๋อในระยะกระชั้นชิด
เธอเห็นรอยยิ้มซ่อนเร้นในแววตาของซูเจ๋อ พลางโอดครวญ "ท่านชอบแกล้งข้าตลอด?"
ตาหรี่ของซูเจ๋อโค้งขึ้นเล็กน้อย สะกดใจให้หลงใหลเหลือเกิน "ข้าเพียงแต่ชอบดูท่านตื่นตระหนกเพราะข้า"
ชิดใกล้กันเพียงนี้ ทำให้เฉินเสียนอดระลึกถึงภาพเมื่อซูเจ๋อฟื้นขึ้นมาแล้วดึงเธอไปจุมพิตอย่างดื่มด่ำที่มุมผนัง
เธอพบว่าซูเจ๋อคนนี้สามารถกลืนกินเธอให้ตายสนิทได้เลย
ทั้งๆที่รู้ว่าถูกเขายั่วยวนไม่ได้ หัวใจก็ไม่รักดีเต้นตึกตักพร้อมกับหน้าแดงระเรื่อเสียดื้อๆ
เธอยังไม่คุ้นเคยจริงๆ ทว่าก็เหมือนผลไม้ต้องห้าม เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติแล้วก็อยากสำรวจอย่างลึกซึ้งกว่าเดิมอย่างอดใจไม่ได้
ไม่ว่าจะภพก่อนหรือชาตินี้ ซูเจ๋อคือบุรุษคนเดียวที่เธอชื่นชอบ
การเข้าใกล้ของบุรุษผู้นี้มีเสน่ห์ยากเกินต้านทาน
ซูเจ๋อก้มหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที
แววตาเขาลึกล้ำประหนึ่งรัตติกาล
เฉินเสียนอ้าปากรู้สึกคอแห้ง บังคับให้ตัวเองรักษาสติและสงบนิ่งเข้าไว้ เธอยกมือบังไหล่ซูเจ๋อ
ด้านหลังเธอมีโต๊ะหนังสือขวางกั้น จึงได้แต่เอียงไปด้านหลังอย่างเลี่ยงไม่ได้
ซูเจ๋อหยุดการเคลื่อนไหว ริมฝีปากทั้งสองเกือบประกบชิดเป็นหนึ่งเดียวแล้ว
เฉินเสียนเอ่ยเสียงอ่อน "ท่านไม่ใช่ควรพักผ่อนอยู่บนเตียงหรอกหรือ ลงจากเตียงมาทำไม?"
"ข้ามาสอนท่านเขียนจดหมายอย่างไรเล่า"
"เขียนเสร็จแล้ว งั้นท่านก็ควรกลับไปพักผ่อนเสียที?"
ซูเจ๋อทอดถอนหายใจอย่างเสียดาย
เฉินเสียนจ้องเขม็งเขาแวบหนึ่ง เอ่ยว่า "ตกลงกันแล้วว่าหลังจากแผลท่านหายดี หากไม่ระวังทำแผลฉีกอีกจะทำเยี่ยงไร?"
ซูเจ๋อไม่ขยับ เพียงแค่ยืนจ้องมองเฉินเสียนอยู่อย่างนั้น
เขาแทบอยากใช้แววตาดูดดึงเฉินเสียนเข้าไปภายในร่างกายเสียเลย
ต่อมาซูเจ๋อยิ้มให้เธอ แสงเปล่งประกายอย่างผุดผ่องฉายขึ้นไปทั่วทั้งห้องทันที
ซูเจ๋อกล่าว "ไม่เป็นไร รอวันหลังก็ได้ ความคืบหน้าระหว่างเราเร็วเกินคาดหมายของข้าแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...