ฉินหรูเหลียงใช้กำลังเพียงน้อยเพื่อหยั่งเชิง
ทว่าก่อนที่เขาจะได้สัมผัสมือของเฉินเสียน เธอก็ดึงมือกลับเสียก่อน ทันใดนั้นมืออีกข้างที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อก็ฟาดเข้าไปที่หน้าของฉินหรูเหลียงเต็มแรงโดยไม่มีการเตือนใดๆ
อวี้เยี่ยนอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง
นางคิดอย่างสะท้านใจว่าพวกเขาคงจะทะเลาะวิวาทกันอีกแล้วเป็นแน่
เมื่อฉินหรูเหลียงตระหนักถึงสถานการณ์ตรงหน้า เขาก็เตรียมจะหลบหลีกตามสัญชาตญาณ
แต่แล้วเอวของเขากลับลดระดับลง เมื่อเห็นว่าเป็นเพราะอะไรเขาก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง
ปรากฏว่าตอนที่เฉินเสียนยืนอยู่ข้างเตียงเธอเขี่ยสายรัดเอวของฉินหรูเหลียงไปเหยียบไว้ ถ้าเขาพยายามหนี เขาจะเปลื้องผ้าต่อหน้าเธอทันที
เฉินเสียนฉวยโอกาสตอนนั้นตบหน้าฉินหรูเหลียงอย่างแรง
เพี้ยะ!
เสียงฝ่ามือปัดไปกระทบใบหน้าดังกังวานไปทั่วห้อง
เฉินเสียนใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีอยู่จนตัวบิดไปด้านข้าง เส้นผมที่เคยสยายอยู่กลางหลังสะบัดลงมาปรกตรงหน้าอก
เธอไม่ใช่คนที่อ่อนปวกเปียกขนาดนั้น ร่างกายนี้เต็มไปด้วยพลังอันป่าเถื่อนรุนแรงจากก้นบึ้ง พลังที่รุนแรงนั้นทำให้สมองและสายตาของฉินหรูเหลียงว่างเปล่าไปครู่หนึ่ง ในหูมีแต่เสียงอื้ออึง
ก่อนหน้านี้มีแต่ฉินหรูเหลียงที่เป็นฝ่ายตบเฉินเสียน ไม่คิดเลยว่าตอนนี้เขาจะเป็นฝ่ายได้ลิ้มรสชาติของการถูกตบโดยผู้หญิงคนนี้!
คลื่นแห่งความโกรธเข้าครอบงำอย่างฉับพลันจนทำให้เขาแทบเสียสติ อยากจะบีบคอผู้หญิงคนนี้ให้ตายเสียตอนนี้เดี๋ยวนี้!
ขณะที่เขากำลังมึนงงอยู่นั้นเฉินเสียนก็ยกเท้าเล็กๆ ที่ขาวสะอาดถีบไปที่หน้าอกของเขาอย่างแรง เขาเซถอยหลังไปสองก้าวจนเอวด้านหลังชนเข้ากับขอบโต๊ะ เขาทรงตัวไม่ค่อยอยู่และรู้สึกปวดชาบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวขึ้นมา
ฉินหรูเหลียงเงยหน้ามองเฉินเสียนอย่างโกรธเกรี้ยว “ท่านช่างบังอาจนัก”
เฉินเสียนสะบัดมืออย่างไม่แยแสพลางพ่นลมหายใจ เธอทัดผมที่หลุดลุ่ยบริเวณกกหูให้เรียบร้อย ก่อนจะเลิกคิ้วอย่างชั่วร้ายและกล่าวว่า “ทุกคนต่างมีเส้นแบ่งเป็นของตัวเอง ไม่ใช่แค่ท่านที่มี หรือว่าท่านไม่อนุญาตให้มี?... ไอ้คนอย่างท่านน่ะล้ำเส้นมานานแล้ว ยังมีหน้ามาสั่งสอนคนอื่นเรื่องนี้อีกหรือ อย่างการตบคนอื่นเช่นนี้ก็ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่เป็นอะไร ดูสิ เห็นไหมว่ามือข้าบวมไปหมดแล้ว”
ยิ่งเห็นว่าตบจนมือบวมขนาดนี้ก็ยิ่งรู้เลยว่าเธอใช้แรงไปมากแค่ไหน!
ฉินหรูเหลียงเช็ดมุมปากที่แตกจนเลือดซิบ เหตุการณ์นี้แทบจะเหมือนกับวันที่ฉินหรูเหลียงบุกมาทำร้ายเฉินเสียนทุกประการ!
เพียงแต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนบทบาทและฉินหรูเหลียงกลายมาเป็นฝ่ายถูกกระทำ
เขาก้าวเข้าไปหาเฉินเสียนด้วยท่าทีโกรธเกรี้ยว อวี้เยี่ยนเห็นท่าไม่ดีจึงถลันเข้าไปขวางไว้และเอ่ยเสียงสั่นว่า “แม้ท่านจะเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ แต่ท่านก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายองค์หญิง!"
ฉินหรูเหลียงผลักอวี้เยี่ยนออกไป “ไปให้พ้น!”
ในตอนนั้นเฉินเสียนโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อนและดึงกริชขนาดพอๆ กับไม้บรรทัดออกมาจากใต้หมอน เธอดึงกริชออกจากฝักและกระชับไว้แน่น หันไปมองฉินหรูเหลียงด้วยดวงตาที่มืดสนิท
คราวก่อนเคยเกิดเรื่องขึ้นทีหนึ่งแล้ว มีหรือที่เฉินเสียนจะไม่เตรียมป้องกันไว้ เธอวางกริชไว้ใต้หมอนเพื่อจะได้ใช้ป้องกันตัวอย่างทันท่วงที พูดง่ายๆ ก็คือมันมีไว้เพื่อรับมือกับฉินหรูเหลียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...