เฉินเสียนถามอย่างไม่คิดอะไร "เจ้าลองทาย พรุ่งนี้ใครจะเป็นคนเดินนำคนแรก?"
เจ้าน่องน้อยเอียงคอทำทีว่ากำลังคิด
เฉินเสียนยิ้มออกมาและกล่าวว่า "เสี่ยวเฮอบอกว่า ภายในวังนอกนอกจากองค์ชายที่อายุสิบขวบแล้ว คนที่องค์จักรพรรดิชอบมากที่สุดก็คือองค์ชายห้าของพระสนมฉี"
พระสนมฉีรู้จักพูดโน้มน้าวใจคน พูดโน้มน้าวจนสมเด็จพระราชชนนีมีความสุข สมเด็จพระราชชนนีจึงโปรดปรานองค์ชายห้า และพระสนมฉีก็รู้จักสั่งสอน โดยสั่งสอนให้องค์ชายห้ารู้จักเอาใจคนอื่น ฉะนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าองค์จักรพรรดิ องค์ชายห้ามักรู้จักวางวางตัวและแสดงออกเป็นอย่างดี
เฉินเสียนพูดคุยกระซิบและกล่าวว่า "พรุ่งนี้จะเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงออกมา องค์ชายใหญ่ยังประชวรอยู่ เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ว่าพรุ่งนี้องค์ชายห้าจะเป็นคนเดินนำหน้าผ่านฝั่งตรงข้าม"
เจ้าน่องน้อยกล่าว "องค์ชายห้า"
"คนที่เคยรังแกเจ้ายังไงล่ะ วันก่อนยังพูดว่าแม่ของเจ้าเป็นบ้า บอกว่าไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอนตอนอยู่ที่โรงเรียนไท่ องค์ชายห้าคนนั้นไง" เฉินเสียนทำปากจู๋ "เพราะคำพูดนี้ของเขา แม่จะให้ประสบการณ์ที่ลึกซึ้งกับเขา เจ้าดูสิ พวกเราไม่ต้องไปหาเขา เขาก็มาหาถึงหน้าประตูแต่โดยดี เพียงเตรียมตัวให้พร้อมอย่างเหมาะสมก็มีโอกาสได้ "
เฉินเสียนมือหนึ่งหยิบฟืนก่อไฟและเชือก อีกมือก็คว้ามือของเจ้าน่องน้อยลุกขึ้น "องค์หญิงองค์ชายเหล่านั้นถนัดนักเวลารังแกคนอื่น พอมาเจอกับสัตว์เดรัจฉานเข้า ความกล้าหาญกลับน้อยกว่าเจ้าน่องน้อยมาก แบบนี้เรียกว่าชอบข่มเหงรังแกคนที่อ่อนแอกว่า"
เจ้าน่องน้อยเรียนรู้ที่จะพูดตาม "ข่มเหงรังแกคนที่อ่อนแอกว่า"
"จำไว้นะ ง่ายมากที่จะเอาคืนคนพวกนี้ เจ้าทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวก็ได้แล้ว ครั้งหน้าเขาก็ไม่กล้าเข้ามาตบหัวเจ้า หยิกแก้มเจ้าสุ่มสี่สุ่มห้าแล้ว "
เจ้าน่องน้อยดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจ
เฉินเสียนจูงมือเขาออกไปนอกประตู และพาเขาออกไปที่ริมทะเลสาบในตอนที่นางกำนัลต่างพากันหลับใหล
แม่นมซุยหยิบกระดูกที่แอบเก็บไว้เมื่อตอนกลางวันออกมา เฉินเสียนเอากระดูกมาผูกติดไว้กับที่ปลายของเชือก
เจ้าน่องน้อยมองเธอที่กำลังเอาเชือกหย่อนลงไปในน้ำ และถามว่า "ท่านแม่ทำอะไร?"
เฉินเสียนกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่ง "แม่กำลังสอนเจ้าตกปลายังไงล่ะ"
"ตกปลา" เจ้าน่องน้อยพูดตามอีกครั้งหนึ่ง
"แต่ว่าพวกเราไม่ได้ตกปลาธรรมดากันนะ พวกเราตกจระเข้"
มีเงาของจระเข้อยู่ริมทะเลสาบ ทันทีที่เนื้อของเฉินเสียนถูกหย่อนลงไป ก็ทำให้มันตื่นขึ้น
จระเข้ตัวหนึ่งลอยตัวอยู่บนผิวน้ำอย่างสงบ และเชือกของเฉินเสียนก็อยู่สูงจากระดับน้ำพอสมควร จระเข้ตัวนั้นจับจ้องไปที่กระดูกที่ผูกติดอยู่กับเชือกนั้น หลังจากนั้นมันก็กระโดดขึ้นเหนือน้ำและอ้าปากที่กว้างยาวเพื่อกินกระดูก
ในขณะที่จระเข้ตกลงไปในน้ำอีกครั้ง ปมบนเชือกก็ยึดเข้ากับฟันที่แหลมคมของมัน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉินเสียนจึงดึงเชือกขึ้นทันที
จระเข้ที่ติดอยู่นั้นตัวไม่ใหญ่มาก เธอกับแม่นมซุยสามารถดึงมันขึ้นมาได้โดยไม่ต้องใช้แรงและความพยายามมากนัก
เฉินเสียนพูดขณะที่กำลังดึงเชือกไว้ "เมื่อสัตว์กินเนื้ออย่างจระเข้ เมื่อกัดเหยื่อได้มันก็ยากที่จะปล่อยไป"
ไม่นาน จระเข้ก็ถูกดึงขึ้นฝั่ง พฤติกรรมที่อันตรายเช่นนี้ หากให้คนในวังใครสักคนเห็นเข้า คงต้องร้องไห้หาพ่อหาแม่กันแน่ ๆ
ปากของจระเข้ถูกล็อกไว้ ไม่สามารถเปิดได้ และมันกำลังนอนเปียกอยู่บนพื้น เจ้าน่องน้อยเคยให้อาหารพวกมันเป็นเวลานานก็ไม่รู้สึกกลัว กลับยื่นมือออกไปเพื่อลูบไปที่ลำตัวขรุขระบนผิวหนังของมัน
และเป็นเพราะจระเข้ตัวนี้ไม่ได้มีจิตใจที่ระมัดระวังสองแม่ลูกคู่นี้ จึงทำให้เฉินเสียนจัดการมันได้อย่างง่าย
เฉินเสียนกล่าว "มัดมันไว้แบบนี้ก่อน รอให้พรุ่งนี้ใช้งานมันเสร็จค่อยปล่อยมันกลับไปที่เดิม"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...