แน่นอนว่าเซียงซั่นจำเสียงของฉินหรูเหลียงได้และเธอไม่กล้าละเลยเสียงของฉินหรูเหลียงจึงรีบไปเปิดประตูในทันที เมื่อเห็นว่าฉินหรูเหลียงยืนอยู่ที่ประตูด้วยท่าทางที่ยากจะคาดเดา
ฉินหรูเหลียงขมวดคิ้วและก้าวขายาว เดินเข้ามาในห้องของเธอ
เขาไม่อ้อมค้อม และถามอย่างตรงไปตรงมา "ข้าอยากถามเจ้าว่า เหมยอู่ตกลงไปในสระน้ำในวันนั้นได้อย่างไร?"
หัวใจของเซียงซั่นมืดมนก้มคุกเข่าลงทันที พร้อมกล่าวว่า "ท่านแม่ทัพเจ้าคะ นายหญิงถูกองค์หญิงผลักลงมาจริงๆเจ้าค่ะ…"
ถ้อยคำที่ได้ยินเฉินเสียนพูดในตอนกลางคืนเมื่อสองวันก่อนโดยไม่ได้ตั้งใจนั้น อันที่จริงถูกเก็บมาไว้และเขาเองก็ครุ่นคิดอยู่ในใจมาตลอด
ลมหายใจของฉินหรูเหลียงเย็นยะเยือกจนน่าพิศวง เสียงของเขาทุ้มต่ำ "ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย พูดความจริงออกมาซะ!"
ท่านแม่ทัพรู้อะไรบางอย่างเข้าแล้วหรือไม่?
เซียงซั่นตื่นตระหนกและบังคับตัวเองให้สงบนิ่ง เธอขบคิดอยู่ว่าหากแม่ทัพรู้อะไรบางอย่างจริงๆ ทำไมเขาถึงยังมาถามเธอตอนนี้ด้วย?
เธอจะยอมรับไม่ได้!
เซียงซั่นกัดฟันและกล่าวว่า "บ่าวไม่ได้พูดปดนะเจ้าคะ ทุกสิ่งที่บ่าวพูดเป็นความจริง!"
เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินหรูเหลียงด้วยน้ำตาที่ไหล่ริน "ท่านแม่ทัพ นายหญิงเป็นฝ่ายถูกกระทำ บ่าวพูดปดไปแล้วจะได้อะไรล่ะเจ้าคะ? ถ้าท่านแม่ทัพไม่เชื่อบ่าว ถามนายหญิงได้ ถ้าบ่าวกล่าวความเท็จแม้แต่คำเดียว บ่าวยอมให้ท่านแม่ทัพและนายหญิงจัดการกับบ่าวอย่างไรก็ได้เจ้าคะ!”
เมื่อถามแล้วไม่ได้อะไร ฉินหรูเหลียงก็จากไปอย่างเร็ว
เขาแค่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง
ผู้หญิงเจ้าเล่ห์อย่างเฉินเสียน จะเชื่อคำพูดของเธอง่ายๆได้อย่างไร
เมื่อฉินหรูเหลียงออกจากห้องเซียงซั่น เขาถูกบ่าวบางคนจากจวนแม่ทัพเห็นเข้าพอดี
บ่าวรับใช้ขยี้ตา มองแผ่นหลังที่ดูเหมือนท่านแม่ทัพ และสงสัยว่าตาตัวเองฝาดไปหรือไม่
เซียงซั่นเฝ้ารอมาตลอด ให้อาการบาดเจ็บของเธอนั้นหายดี แต่ไม่สามารถรอความห่วงใยจากหลิ่วเหมยอู่ได้เลย
ในทางกลับกัน สิ่งที่เธอได้ยินมากกว่าคือวิธีที่อวิ๋นเอ๋อร์ปฏิบัติต่อหลิ่วเหมยอู่อย่างตั้งใจ และหลิ่วเหมยอู่ให้ความสำคัญกับอวิ๋นเอ๋อร์อย่างไรเป็นต้น
ต่อมา ในที่สุดอวิ๋นเอ๋อร์ก็มาพบเซียงซั่น
อวิ๋นเอ๋อร์สวมชุดบ่าวรับใช้ชั้นสูง ใบหน้าของเธออบอุ่นและสงบไม่พูดอะไรมาก และท่าทางของเธอก็ดูมีความมั่นอกมั่นใจมาก
เซียงซั่นรู้ว่าเธอไม่ควรสนใจอวิ๋นเอ๋อร์มากนัก แต่เมื่อเธอเห็นอวิ๋นเอ๋อร์แสดงท่าทางที่เหนือกว่า เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าอวิ๋นเอ๋อร์ได้รับการเลื่อนตำแหน่งมาจนถึงทุกวันนี้เพราะตัวเธอเอง
เธอไม่ละอายบ้างหรืออย่างไร?
เซียงซั่นไม่สามารถทนต่อความรู้สึกขุ่นเคืองใจนี้ได้ น้ำเสียงของเธอยังฟังดูไร้ความปราณีอีก "นายผู้หญิงให้เจ้ามาพบข้า?"
อวิ๋นเอ๋อร์กล่าว "นายหญิงให้ข้าบอกเจ้า ให้เจ้ารักษาบาดแผลของเจ้าด้วยความอุ่นใจ และไม่ต้องรีบกลับไปรับใช้ที่สวนดอกพุดตาน"
"เป็นไปไม่ได้!" เซียงซั่นกล่าวว่า "ข้าคอยรับใช้อยู่เคียงข้างนายหญิง ไม่มีข้า นายหญิงจะคุ้นชินได้อย่างไร นี่ต้องเป็นเจ้าพูดด้วยตัวเองเพื่อที่เจ้าจะได้จัดการข้าเพื่อให้นายหญิงลืมข้า เช่นนี้เจ้าก็จะสามารถแทนที่ข้าได้!"
อวิ๋นเอ๋อร์ชำเลืองมองดูนางและกล่าวว่า "หากเจ้าคิดเช่นนี้ ข้าก็ไม่สามารถแย้งอะไรได้ คำพูดนี้ถูกส่งมาถึงเจ้าแล้ว นายหญิงยังรอให้ข้ากลับไป"
เมื่อกล่าวเช่นนั้น อวิ๋นเอ๋อร์ก็หันหลังกลับและจากไป
เซียงซั่นไม่ได้คิดอะไรอีก ถลาตัวเข้าไปลากนางและพูดว่า "ไม่ เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไป เจ้าเป็นใคร เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเป็นวัวลืมตีนได้งั้นหรือ หลังจากที่เจ้าช่วยนายหญิงแล้ยังไง? ข้าเป็นบ่าวข้างกายนายหญิง ข้ายังช่วยนายหญิงจัดการคนอื่นอีกด้วย!"
เซียงซั่นหุนหันพลันแล่นและไม่สามารถซ่อนความเคียดแค้นชิงชังไว้ในใจได้ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถระงับความโกรธได้ หลังจากพูดไปไม่กี่คำก็ทำร้ายร่างกายกับอวิ๋นเออร์
เซียงซั่นในเวลานั้นมีความบ้าคลั่งมาก เธอต้องการทำให้อวิ๋นเอ๋อร์ทนทุกข์ทรมาน แต่เธอไม่ได้สังเกตว่าอวิ๋นเอ๋อร์ไม่ได้ต่อสู้เลยในระหว่างการกระทำทั้งหมด
"สารเลว ข้าจะให้เจ้าลิ้มรสพลังของข้า เจ้ายังจะหลงคิดว่าข้าจะยอมง่ายๆอยู่หรือ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...