ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 509

อาจจะเป็นความผิดหวังหลังจากประสบพบเจอเรื่องราวมากมาย ถึงอย่างไรเขาก็ย้อนเวลากลับไปไม่ได้แล้ว ย้อนกลับไปตอนที่เคยเข้าไปเล่นการพนันในบ่อนกับเฉินเสียน ไปดื่มสุราที่หอสุราอย่างไร้กังวล ตอนนั้นเขายังเป็นลูกหลานของตระกูลผู้มั่งคั่ง ส่วนเธอยังเป็นอดีตองค์หญิงที่ไม่เป็นที่โปรดปรานและยังไม่เป็นอันตราย

เฮ่อโยวเดินไปจนถึงประตูและหยุดอีกครั้ง

เขาหันกลับไปมองเฉินเสียนที่มีท่าทีเฉยเมยและเอ่ยอย่างเศร้าใจว่า “เฉินเสียน ข้าเฮ่อโยวไม่ใช่คนเนรคุณ ข้าไม่มีวันลืมว่าก่อนหน้านี้ท่านปฏิบัติต่อข้าอย่างจริงใจอย่างไรบ้าง”

เขายิ้มอย่างขมขื่นและพูดต่อว่า “ข้ารู้ ตอนนั้นข้าทรยศท่านและเกือบจะฆ่าท่าน ท่านคงจะเกลียดข้ามาก... ช่างเถอะ ขอเพียงข้าถามตัวเองและไม่นึกเสียใจก็พอแล้ว”

ขณะที่เขากำลังจะก้าวออกไปจากประตู เฉินเสียนก็เอ่ยขึ้นมาอย่างฉับพลันว่า “ถึงแม้จะเกือบฆ่าข้า แต่ก็แค่เกือบเท่านั้น ถ้าเจ้าคิดจะทรยศข้าจริงๆ ยาพิษในเครื่องดื่มตอนนั้นควรจะเป็นยาพิษอย่างแรงที่ทำให้ข้าถึงแก่ชีวิตในทันที เหตุใดจึงยืดเวลาไปจนถึงที่สุดจนทำให้ข้ามีโอกาสรอดมาได้ ครั้นแล้วยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นอีก”

ดวงตาของเฮ่อโยวเป็นประกาย เขาหันไปมองเฉินเสียน “ท่านรู้หมดเลยหรือ”

เฉินเสียนเอ่ยไปว่า “ข้าเพียงแค่ไม่ยอมแพ้ ยังอยากปกป้องเจ้าด้วยความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ อันที่จริงหากลองคิดดูให้ดีก็ย่อมคิดได้ มีเพียงความเป็นไปได้นี้เท่านั้น ข้ายังไม่แน่ใจนักจนกระทั่งเกิดเรื่องของพระสนมฉีกับเฮ่อฟั่ง ข้าจึงมั่นใจว่าข้าคิดถูก”

เฮ่อโยวอยากจะยิ้มให้เฉินเสียนด้วยความโล่งอก แต่น่าเสียดายที่เขาพยายามแล้วแต่กลับยังยิ้มไม่ออก ก่อนหน้านี้เขาเคร่งขรึมเสมอมา ไม่ได้เป็นเหมือนเฮ่อโยวในอดีตที่พอนึกอยากจะหัวเราะก็หัวเราะออกมาเสียงดังๆ อีกแล้ว

เฮ่อโยวกล่าวว่า “พระสนมฉีมักจะหาเรื่องท่านกับเจ้าน่องน้อยยามที่อยู่ในวัง จึงถือโอกาสจัดการพร้อมกันเลยเสียทีเดียว”

เฉินเสียนมองเขาและเอ่ยว่า “เมื่ออยู่ต่อหน้าองค์จักรพรรดิในท้องพระโรง ข้าถีบเจ้าแรงพอดู”

เฮ่อโยวกล่าวว่า “ลูกถีบนั้นดีมากทีเดียว มันทำให้ทุกคนรู้ว่าท่านเกลียดข้าเข้ากระดูก”

เฉินเสียนกล่าว “จริงๆ เราวางตัวเป็นศัตรูกันมานานแล้ว เจ้าต้องทำสิ่งที่ข้าเกลียด ส่วนข้าก็ต้องมองเจ้าเป็นศัตรู วันเวลาผ่านไปนาน เมื่อต้องหันหน้าเข้าหากัน ข้าไม่รู้เลยว่าควรจะเริ่มพูดอย่างไรดี”

เฉินเสียนยิ้มและกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงจังต่อไปว่า “เฮ่อโยว เมื่อพูดถึงเรื่องเกลียดเจ้า ความจริงข้าควรจะขอบใจเจ้ามากกว่า ขอบใจที่ช่วยชีวิตข้า ขอบใจที่ช่วยชีวิตลูกของข้า บุญคุณของเจ้าครั้งนี้ข้าจะไม่มีวันลืมเลยตลอดชีวิต และในอนาคตข้าจะต้องตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน”

เฮ่อโยวกล่าวว่า “ท่านไม่จำเป็นต้องตอบแทน ข้ายินดีทำสิ่งเหล่านั้นเพื่อตอบแทนบุญคุณของท่าน ในตอนแรกท่านกับข้าเป็นแค่คนที่ชอบสุราและเนื้อ ในตอนที่ข้าตกอับที่สุดอยู่บนท้องถนน มีเพียงท่านที่ยื่นมือมาช่วยเหลือ ตอนนั้นท่านยังเอาตัวเองแทบไม่รอด แต่ยังยอมเสี่ยงอันตรายพาข้าข้ามแม่น้ำไปด้วย ทำให้ข้าได้เจอกับท่านย่าเป็นครั้งสุดท้าย บุญคุณครั้งนั้นข้าจารึกไว้ในใจตลอดมา และคิดมาตลอดว่าหากมีโอกาส ข้าจะต้องตอบแทนให้ได้”

เฉินเสียนฉีกยิ้มและกล่าวว่า “ในตอนนั้นเจ้าดูน่าเวทนาจริงๆ นี่”

เฮ่อโยวเริ่มยิ้มตามและพูดว่า “เท่าที่ข้ารู้ องค์หญิงจิ้งเสียนไม่ใช่คนที่มีเมตตาขนาดนั้น”

บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นทันตา ต่างฝ่ายต่างปล่อยวางสิ่งที่หนักอึ้ง

“บางทีข้าอาจจะแค่บังเอิญเมตตาเจ้ามาก” เฉินเสียนหรี่ตา “แต่... เจ้าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครทำให้เจ้าตกอับอยู่บนถนนได้อีก”

ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่าคนที่เคยหนีหัวซุกหัวซุน ไร้เดียงสาและตรงไปตรงมา วันนี้จะปรับตัวให้เข้ากับวงการขุนนางได้

การเป็นขุนนางจำเป็นต้องมีความสามารถ เฮ่อโยวพยายามชดเชยข้อบกพร่องในเรื่องนี้มาตลอด แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือต้องดูว่าเหมาะสมหรือไม่

เฮ่อโยวลูบจมูกและกล่าวว่า “ข้าไม่กล้ารับความดีความชอบหรอก ทั้งหมดเป็นเพราะคำสอนของท่านบัณฑิต เขาเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ที่สุด”

เฉินเสียนหัวเราะเยาะ

เฮ่อโยวเหลือบมองเธอและกล่าวอีกว่า “ดูเหมือนเมื่อคืน ท่านกับท่านบัณฑิตจะเข้ากันได้ดีเป็นอย่างมาก เป็นอันว่าห่างกันไปไม่นาน กลับมาเจอกันยิ่งรักกันมากขึ้นไปอีก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี