พอถึงหน้าประตูวัง ฉินหรูเหลียงสั่งให้ลูกน้องจูงม้าของเขามา เขาอุ้มเฉินเสียนขึ้นม้าเสร็จก็รีบควบม้ามุ่งหน้าไปยังอุทยานหลวงตงเฉิง
ทว่าเขาก็ถามเฉินเสียนให้มั่นใจอีกครั้ง "ท่านจะไปหาซูเจ๋อใช่หรือไม่?"
เฉินเสียนพูดอู้อี้เสียงเบา "อืม " หนึ่งคำ
ทำใจมาเนิ่นนาน ฉินหรูเหลียงยังคงรู้สึกหัวใจถูกบีบให้เจ็บปลาบเล็กน้อย เขาลงแส้ให้ม้าวิ่งเร็วยิ่งขึ้น เสียงกีบเท้าม้าพลันวิ่งทะยานในท้องถนนใหญ่ด้วยความรวดเร็ว
เขาโน้มตัวไปเบื้องหน้า ใช้แขนดั่งเหล็กกล้าโอบกอดเฉินเสียนไว้ในอ้อมอก หลังจากที่ย่างเท้าเข้าประตูวัง ระหว่างพวกเขาก็กลายเป็นราชากับขุนนาง ซึ่งเขาก็ถือปฏิบัติด้วยดีเสมอมา โชคชะตาลิขิตให้เขาไม่อาจครอบครองสตรีผู้นี้ได้ ทว่าหากสามารถดูดซึมความอบอุ่นจากตัวเธอได้เพียงน้อยนิด เขาก็รู้สึกปลื้มปิติแล้ว
เฉินเสียนก้มหน้าหายใจหอบเร็ว ทว่ากลับลั่นวาจาอย่างผ่อนคลาย "ผ่านคิมหันตฤดูที่ร้อนระอุแล้วแท้ๆ แต่คืนนี้ยังคงทำให้รู้สึกร้อนอบอ้าวมาก"
พอใกล้จะวิ่งผ่านตรอกนี้ ฉินหรูเหลียงดึงขลุมจูงม้าเพื่อชะลอความเร็ว เขาควรจะทำให้ถนนสายนี้ยาวขึ้นอีกนิด เขาจะได้กอดเธอนานอีกหน่อย
ทว่าสุดท้าย เขาก็ยังคงใช้ความเร็วสูงสุด เพื่อส่งเฉินเสียนไปใกล้บริเวณหน้าประตูจวนของซูเจ๋อ
ทันใดนั้นฉินหรูเหลียงเอ่ยปากพูดว่า "เฉินเสียน ท่านยังรู้สึกตัวอยู่ไหม?"
เฉินเสียนนิ่งชั่วครู่ จึงกล่าวว่า "ยังรู้สึกตัวอยู่"
"หากภายภาคหน้า ทุกคนล้วนคัดค้านไม่ให้ท่านอยู่กับเขา ท่านยังคงยืนกรานจะอยู่กับเขาใช่หรือไม่?" ฉินหรูเหลียงถาม
"อา หากตอนมีชีวิตไม่อาจเป็นสามีภรรยากันได้ งั้นจะขอฝังศพเคียงข้างกัน"
"ท่านตั้งมั่นแล้วใช่ไหมว่าชาตินี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะนำความสุขมาให้ท่านได้?"
เฉินเสียนกล่าวเสียงเบาให้เขาฟัง "ฉินหรูเหลียง หัวใจของมนุษย์เท่ากำปั้นเอง ใส่เข้าไปหนึ่งคนแล้วก็ไม่มีที่รองรับของคนที่สองแล้ว ดังนั้นท่านลืมข้าเสียเถอะ"
ฉินหรูเหลียงรู้สึกขมฝาด ยิ้มหล่อๆอย่างฝืนกลั้นพร้อมกับกล่าวว่า "ข้ารู้ตั้งนานแล้วว่าหากหัวใจมีหนึ่งคนแล้วจะไม่อาจมีคนที่สองได้ หาไม่แล้ว ข้าคงลืมเลือนท่านไปนานแล้ว"
เขาหยุดแล้วกล่าวต่อว่า "เฉินเสียน ในเมื่อมีเพียงเขาที่สามารถนำความสุขมาให้ท่าน วันข้างหน้าหากใครคิดจะขัดขวาง ท่านก็เดินไปด้านหน้าได้เลย ไม่ต้องปล่อยมือจากเขา และไม่ต้องอนุญาตให้เขาปล่อยมือท่านด้วย"
เฉินเสียนพยักหน้าหงึกๆ ฉินหรูเหลียงกระโดดลงจากด้านหลังเธอ เธอเอียงหน้ามองฉินหรูเหลียง พลางก่อนเสียงอ่อนนุ่ม "ฉินหรูเหลียง ขอบคุณท่านมาก ข้าเอ่ยแต่คำว่าขอบคุณกับท่านอยู่ร่ำไป แต่นอกจากขอบคุณแล้ว ข้าก็ไม่อาจตอบสิ่งอื่นได้แล้ว"
ฉินหรูเหลียงกล่าว "ท่านไม่ต้องตอบอะไรทั้งนั้น ใต้หล้านี้มียินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่ายก็ย่อมมีรักข้างเดียวเสมอ ท่านไม่ต้องขอบคุณข้า ข้าแค่ส่งเสริมตัวเองเท่านั้น"
ส่งเสริมการที่เขารักข้างเดียว สามารถปกป้องในยามที่เธอต้องการ แค่เพียงได้เฝ้ามองก็เพียงพอแล้ว
เฉินเสียนละสายตากลับมา สะบัดบังเหียนเบาๆ กีบเท้าม้าก็เดินเข้าตรอกที่แปลกตาอย่างไม่รีบร้อน ส่วนฉินหรูเหลียงก็ยืนมองอยู่ด้านหลังจนกว่าเธอจะถึงหน้าประตูจวนของซูเจ๋อ
ซึ่งเป็นประตูด้านข้างจวนซูเจ๋อ ก่อนหน้านี้เฉินเสียนเคยมาเยือนหลายคราแล้ว
คล้ายกับว่าหลังจากที่เธอเป็นจักรพรรดินีแล้วก็เคยใช้ประตูบานขึ้นเดินผ่านเลย
เฉินเสียนทิ้งตัวลงจากหลังม้า มองฟากฟ้าด้วยความสับสน ยามนี้ก็ดึกมาแล้ว ไม่รู้ว่าการมากะทันหันของเธอจะรบกวนการพักผ่อนของซูเจ๋อหรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...