ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 678

เฉินเสียนกลับมารู้สึกตัวอีกครั้งและเห็นว่าในชามเต็มไปด้วยเนื้อปูที่เขาแกะให้ เธอเอ่ยอย่างดึงดันว่า “ข้าอยากกิน แต่ท่านไม่จำเป็นต้องแกะให้”

ว่าแล้วเฉินเสียนก็คิดจะหยิบปูมาแกะเอง แต่ซูเจ๋อกลับขยับถาดปูไปไว้ข้างตัวอย่างใจเย็น ถ้าจะหยิบให้ถึงเฉินเสียนต้องขยับไปข้างๆ เขา

คนคนนี้ทำให้เฉินเสียนทั้งโมโหทั้งรับมือไม่ถูก เธอบอกว่า “ไม่เจอกันแค่ปีเดียวท่านเปลี่ยนไปมาก ท่านกลายเป็นคนเผด็จการแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

ซูเจ๋อเลิกคิ้วและกล่าวว่า “ใช่รึ ท่านเองก็เปลี่ยนไปมาก... ไม่กินเอง หรือว่าอยากให้ข้าป้อน? เช่นนั้นรอให้ข้าแกะตัวนี้เสร็จก่อนก็แล้วกัน”

เฉินเสียนสำลัก เธอพยายามระงับความหวั่นไหวที่เอ่อล้นขึ้นมาอีกครั้ง สุดก็ยอมขยับตะเกียบคีบเนื้อปูที่ซูเจ๋อแกะให้ขึ้นมากิน

เห็นได้ชัดว่าชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามซึ่งดูแลเธออย่างดีคือคนที่เธอเฝ้าฝันถึงมากที่สุด แต่ทำไมยิ่งกินเธอจึงยิ่งเศร้า

เฉินเสียนตระหนักรู้ด้วยตัวเอง เมื่อก่อนเธอกลัวว่าสุขภาพร่างกายของซูเจ๋อจะไม่แข็งแรง กลัวที่เขามักจะบาดเจ็บเพราะเธอ และวันนี้เธอกลัวว่าตัวเองจะหลงระเริงอยู่ในความอ่อนโยนของเขา ก่อนจะพบในภายหลังว่าเขาไม่ได้เป็นของเธอแล้วจริงๆ

เนื้อปูมีรสเค็มเล็กน้อยตามเอกลักษณ์เฉพาะตัวของน้ำทะเล ซึ่งเมื่อกินเข้าไปแล้วรสชาติจะติดปากมิรู้หาย เฉินเสียนกินช้าๆ และลิ้มรสอย่างละเมียด เพราะคิดว่าในอนาคตคงไม่มีโอกาสได้กินอาหารที่ซูเจ๋อแกะให้เธอเช่นนี้อีกแล้ว

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ซูเจ๋อก็ถามขึ้นมาว่า “อีกเดี๋ยวยังอยากไปเดินเล่นที่ไหนอีกหรือไม่”

เฉินเสียนตอบว่า “ข้าอยากกลับราชนิเวศน์”

“เพิ่งจะไม่กี่ยาม ข้าจะพาท่านไปดูอุปรากร”

“ในเมื่อท่านจัดเตรียมไว้หมดแล้ว ยังจะถามข้าอีกทำไม”

ซูเจ๋อยิ้มน้อยๆ และกล่าวว่า “หากถ้าท่านมีสถานที่ที่อยากไปเป็นพิเศษ ข้าย่อมเปลี่ยนแผนให้ท่านได้ ขอเพียงแค่อย่ากลับไปราชนิเวศน์เป็นพอ”

หลังจากหยุดไปนิดหนึ่งเขาจึงเอ่ยอย่างแผ่วเบาอีกว่า “ตอนที่ท่านมาปีที่แล้วข้ายังป่วยอยู่ จึงไม่เคยพาท่านไปเที่ยวเล่นที่ไหนเลย โชคดีที่คราวนี้มีโอกาสให้ข้าได้ชดเชย”

ทันใดนั้นเฉินเสียนก็รู้สึกเฝื่อนขึ้นมา เธอถามไปว่า “อาการของท่านดีขึ้นแล้วใช่ไหม”

ซูเจ๋อบอกว่า “ปีนี้ดูแลร่างกายดีมาก สุขภาพจึงฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว” พูดแล้วก็ทิ้งท้ายไว้อีกว่า “ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”

เฉินเสียนตอบไปอย่างกระด้างว่า “ข้าไม่ได้เป็นห่วง”

ซูเจ๋อแกะเนื้อปูทั้งหมดใส่ลงในชามของเฉินเสียน จากนั้นจึงหยิบตะเกียบมาคีบเนื้อปูจากชามของเธอกิน ซูเจ๋อกินชามเดียวกับเธอโดยไม่คิดอะไร ทว่าเฉินเสียนกลับหูแดงขึ้นมาอย่างเงียบๆ

การกินอาหารชามเดียวกันแบบนี้ดูใกล้ชิดกันยิ่งกว่าการกินบะหมี่ถงซินในปีนั้น

เธอไม่อายเลยที่ตนเองมีปฏิกิริยาต่อซูเจ๋อเช่นนี้ หลายปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีความพัฒนาในเรื่องนี้เลย ทุกครั้งที่ซูเจ๋อปฏิบัติต่อเธออย่างใกล้ชิดสนิทสนม ไม่ว่าเธอจะต้องการหรือไม่ จิตของของเธอมักจะว้าวุ่นจนควบคุมไม่ได้เสมอ

หูของเธอรู้สึกร้อนผ่าวมาตลอดตั้งแต่ตอนที่ซูเจ๋อจูงเธอไปตามท้องถนนเมื่อเช้า

ในโลกนี้มีแค่ซูเจ๋อเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เธอว้าวุ่นได้แบบนี้

ด้วยเหตุนี้เฉินเสียนจึงผลักชามไปตรงหน้าเขา จากนั้นจึงหยิบกุ้งทะเลที่เพิ่งออกมาจากเตานึ่งขึ้นมาแกะเปลือก เตรียมจะกินเนื้อกุ้ง

กุ้งทะเลแกะเปลือกง่ายกว่าปูทะเลมาก อีกทั้งยังไม่เจ็บมือด้วย

แต่ทันทีที่เฉินเสียนเงยหน้าขึ้น เธอก็พบว่าซูเจ๋อกำลังจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด ดวงตาของเธอเป็นประกายเล็กน้อยขณะที่พูดว่า “ท่านมองข้าทำไม”

ซูเจ๋อเบนสายตาไปมองกุ้งที่แกะเสร็จใหม่ๆ ในมือของเฉินเสียน จากนั้นจึงบอกว่า “ข้าเองก็อยากกินอันนั้นเหมือนกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี