พูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ในคืนนั้นหลิวอวิ๋นเซียงอยู่พักค้างคืนในที่พักของชวีโม่หราน
จนกระทั้งในวันรุ่งขึ้นใกล้เวลาเที่ยงวัน หลิวอวิ๋นเซียงก็รู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นบ้างแล้ว จึงได้ขึ้นรถม้ากลับจวน
รถเพิ่งขับหน้าถึงหน้าประตูจวนเอง ลี่เหนียงก็พยุงตัวฮูหยินเฒ่ารีบรอบเดินออกมา คนหนึ่งร้องไห้จนตาบวมไปหมด ส่วนอีกคนหนึ่งก็ตกใจจนค่ำไม้เท้าเอาไว้ไม่อยู่
“บ้านเจ้าสาม เจ้ากลับมาได้เสียที!”
ฮูหยินเฒ่ากระโจนตัวเข้าใส่หลิวอวิ๋นเซียง โชคดีที่จิ่นเยียนรีบเข้ามาประคองไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นคงจะชนเข้ากับหลิวอวิ๋นเซียงไปแล้ว จิ่นเยียนขวางฮูหยินเฒ่าเอาไว้ได้ แต่ขวางลี่เหนียงไว้ไม่ได้ นางกระโจนลงไปคุกเข่าลงตรงหน้าหลิวอวิ๋นเซียง
“ฮูหยิน ท่านจะต้องช่วยนายท่านสามนะ!”
หลิวอวิ๋นเซียงรู้สึกมึนงงไปหมด “เขาไม่ได้ไปขุดทางหรอกหรือ?”
“เหยียนมู่เจ้าคนสารเลวนั้น เขาต้องการจะฆ่าเจ้าสาม!” ฮูหยินเฒ่าพูดอย่างร้อนใจ
หลิวอวิ๋นเซียงยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่แล้ว “เพราะเหตุอันใดหรือ?”
“เดิมที...” ฮูหยินเฒ่ากำลังจะอ้าปากพูด แต่เมื่อเห็นว่าที่หน้าประตูจวนมีคนเดินผ่านไปมาพลุกพล่าน นางจึงรีบพูดเบาๆ ว่า “พวกเราเข้าไปคุยข้างในกันดีกว่า”
เมื่อมาถึงที่เรือนหน้า จิ่นเยียนก็ยกเก้าอี้มาหนึ่งตัว ฮูหยินเฒ่าคิดว่าเก้าอี้นั้นยกมาให้นางจึงใช้ไม้เท้าพยุงตัวเดินไป แต่กลับเห็นจิ่นเยียนพยุงตัวหลิวอวิ๋นเซียงให้นั่งลง
สีหน้าของนางมืดมนลงทันที แต่เพราะมีเรื่องจะขอร้องหลิวอวิ๋นเซียง จึงไม่สามารถระเบิดอารมณ์ใส่ได้จึงหันไปตวาดใส่ลี่เหนียงแทน“ไม่รู้กาลเทศะสักนิด ยังไม่รีบไปเอาเก้าอี้มาอีก!”
ลี่เหนียงไม่กล้าพูดอะไร นางรีบเช็ดน้ำตาแล้วเดินไปอย่างรวดเร็ว
เก้าอี้ถูกยกมาให้แล้ว ฮูหยินเฒ่าจึงนั่งลงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เกิดเรื่องกับสามีของเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไปเที่ยวเล่นสนุกสนานอยู่ข้างนอก เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วก็ควร...”
ฮูหยินเฒ่ายังไม่ทันได้พูดจบ ก็เห็นหลิวอวิ๋นเซียงอ้าปากหาว
“แม่นาง ยังไงก็พวกเรากลับห้องไปพักผ่อนกันก่อนเถอะเจ้าค่ะ เมื่อคืนท่านก็ไม่ได้นอนอย่างเต็มอิ่ม” จิ่นเยียนกล่าว
หลิวอวิ๋นเซียงพยักหน้า “ง่วงนอนมากแล้วจริง ๆ”
ฮูหยินเฒ่าได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจขึ้นมา นางกลัวว่าหลิวอวิ๋นเซียงจะไม่สนใจ จึงรีบพูดขึ้นทันทีว่า “เมื่อคืนมีกลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งบุกสังหารพวกขุนนางที่ขุดถนนอยู่นอกเมือง มีคนตายไปไม่น้อย แม้เจ้าสามจะไม่เก่งวิทยายุทธ์ แต่ก็พยายามต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว แต่พอรุ่งเช้าของวันถัดมาเหยียนมู่เจ้าคนสารเลวคนนั้นกลับจับตัวเขาเอาไว้ และกล่าวหาว่าเขาหนีการปฏิบัติในหน้าที่ต้องถูกลงโทษตามกฎระเบียบของทหาร บ่าวในบ้านรีบกลับมารายงานที่จวนแต่เจ้ากลับไม่อยู่ที่จวน แล้วจะให้หญิงแก่ๆคนหนึ่งอย่างข้าทำอย่างไรได้”
หลิวอวิ๋นเซียงหรี่สายตาลง หนีก็คือหนี มีคนจับตาดูอยู่ตั้งมากมาย หากเหยียนมู่จะทำอะไรก็คงไม่สามารถใส่ความเขาได้หรอก
“ท่านแม่ ท่านจะให้ข้าที่เป็นหญิงที่แต่งงานแล้วไปช่วยเขาอย่างไรงั้นหรือ?”
“เจ้าพูดแบบนี้ได้ยังไง เขาเป็นสามีของเจ้า เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้า ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของเจ้าก็ควรจะช่วยเขา”
“เช่นนั้นท่านก็เตรียมผ้าขาวมาให้ข้าสักผืนได้เลย ข้าผูกคอตายไปเลยจะได้จบ ๆ ไป”
“เจ้า!” คำพูดของหลิวอวิ๋นเซียงทำให้ฮูหยินเฒ่าถึงกับพูดไม่ออกไปเลย ผ่านไปครู่หนึ่งถึงตั้งสติกลับมาได้ “เรื่องที่จะจับไปหรือปล่อยออกมา หรือกระทั่งที่จะลงโทษสถานเบาหรือหนักนั้น ไม่ใช่ว่าเหยียนมู่พูดออกมาเพียงคำเดียวหรอกหรือ เจ้า...เจ้าลองไปขอร้องเขาดูหน่อยสิ บางทีเขาอาจจะรับฟังเจ้าก็ได้”
“หลังจากนั้นท่านก็จะด่าว่าข้าว่าไม่รู้จักมียางอาย ไปยั่วยวนผู้ชายคนอื่นอย่างงั้นสิ?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน