หลิวอวิ๋นเซียงเกาะไหล่ของเหยียนมู่เอาไว้แน่นและขมวดคิ้วเข้าหากัน
เหยียนมู่เองก็โอบนางเอาไว้แน่น ก่อนจะก้มลงไปจูบเบาๆที่หน้าผากของนาง
นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ขั้นตอนต่อไปที่เป็นการใช้เข็มเงินบีบพิษออกมา ความเจ็บปวดที่เหมือนถูกเลาะกระดูกเช่นนี้ต่างหากถึงจะเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุด ก่อนที่ชวีโม่หรานจะฝังเข็มลงไป นางสูดหายใจเข้าไปลึกๆก่อน
“อวิ๋นเซียง ข้าจะลงมือแล้วนะ”
“อืม”
ชวีโม่หรานเริ่มทำการฝั่งเข็มรักษา เมื่อเข็มแรกฝังลงไปหลิวอวิ๋นเซียงก็ร้องครางออกมาเบา ๆ แต่นางก็กัดฟันอดทนเอาไว้ได้ แต่ทว่าพอฝังเข็มที่สองลงไปเท่านั้นแหละ นางก็กัดริมฝีปากจนปากแตก และเมื่อฝังเข็มที่สามลงไป เส้นเลือดใหญ่ที่หน้าผากของนางก็ปูดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เหยียนมู่พูดปลอบโยนนาง “เด็กดี ไม่ต้องทนหรอกนะ”
“เหยียนมู่...เป็นท่านที่ทำร้ายข้า...
“เป็นข้าเองที่ทำร้ายเจ้า”
“ท่านทำร้ายข้า!”
“ข้าผิดไปแล้ว”
เดิมทีหลิวอวิ๋นเซียงสามารถอดทนได้มากกว่านี้ ครั้งก่อนก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอถูกคนคนนี้โอบกอดและปลอบโยน ความรู้สึกของนางก็พรั่งพรูออกมาเหมือนดังกระแสของน้ำหลากที่พุ่งทะยานลงจากภูเขาโดยที่ไม่มีสิ่งใดกีดขวางเอาไว้ได้อีก
นางปลดปล่อยอารมณ์ด้วยการกัดไหล่ของเขาอย่างแรง จนเขาถึงกับร้องอย่างอดกลั้นออกมา
“เลือดของข้ามีค่ายิ่งนัก เจ้าออกแรงกัดแรงๆได้เลย กัดจนเส้นเลือดขาดและดูดเข้าไปหลายๆอึกเลยก็ได้”
นางกัดลงไปอย่างแรงจนพลาดไปกัดโดนเส้นเลือดเข้าจริงๆ และเลือดก็พุ่งเข้าปากโดยที่นางไม่ทันตั้งตัวเลยกลืนมันลงไป เขาอุ้มนางขึ้นมา และเอาจมูกลูบไล้ไปตามข้างแก้มนาง เพื่อปลอบโยนนางอย่างอ่อนโยน
เมื่อเทียบกับครั้งก่อน ครั้งนี้รู้สึกว่าจะถ่ายเลือดได้เร็วขึ้น และไม่ต้อนทนเจ็บปวดนานเท่าครั้งก่อน
“ต้องแช่ต่ออีกหนึ่งเค่อท่านค่อยอุ้มนางออกมา จากนั้นก็พันแผลง่าย ๆ ให้และพาไปส่งที่โรงหมอในเมือง” ชวีโม่หรานสั่งกำชับเหยียนมู่ก่อนจะลุกตัวเดินจากไป
หลังจากทำการฝังเข็มเสร็จสิ้นแล้ว หลิวอวิ๋นเซียงก็รู้สึกอ่อนเพลียไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอย่างมาก นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่ได้เห็นคือบาดแผลที่หน้าอกของเหยียนมู่ในตอนนี้ได้ฉีกขาดเรียบร้อย และเลือดก็ไหลลงไปตามตัวเขาลงสู่แม่น้ำทำให้น้ำเปลี่ยนสี
เมื่อมองไปที่บ่าของเขาตรงจุดที่ตัวเองเคยกัดนั้นเลือดก็ไหลออกมาเป็นจำนวนมากเช่นกัน
นางเจ็บ แต่เขาก็เจ็บไปด้วยเช่นกัน ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย
“รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?” เขาก้มศีรษะลงมาชนกับหน้าผากของนางพร้อมกับถามอย่างเป็นห่วง
“อืม...”
“ต้องมีลูกคนนี้ให้ได้เลยงั้นหรือ?”
“ท่าน...”
“ข้าแค่เห็นว่าเจ้าต้องทนทุกข์ทรมานขนาดนี้ จึงรู้สึกสงสาร”
หลิวอวิ๋นเซียงส่ายหน้า นางไม่มีแรงที่จะเถียงกับเขาเรื่องพวกนี้ จึงทำได้เพียงหายใจเข้าลึกๆ แล้วซบลงไปในอ้อมกอดของเขา เป็นกลิ่นหอมของดอกมะลิอีกแล้วใบหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ดูแย่ลงกว่าเดิม
“ทุกๆคืนหลังจากที่ท่านมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหยวนชิงเย่ว์เจ้าไม่เคยอาบน้ำเลยหรือ?”
“ข้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางสักหน่อย”
“ท่านจะมาแก้ตัวกับข้าทำไมกัน?”
“ข้าเหมือนคนที่ชอบแก้ตัวหรือยังไง?”
รู้สึกเริ่มจะหลุดประเด็นเข้าไปทุกทีแล้ว หลิวอวิ๋นเซียงจึงกระแอมไอแห้งๆ ออกมาทีหนึ่ง
“แล้วกลิ่นมะลิที่อยู่บนตัวท่านมาจากไหน?”
เหยียนมู่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ปลดถุงหอมออกมาจากที่เอว

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน