ครู่ใหญ่ผ่านไป เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นอีก คราวนี้ฟังดูเหมือนครอบครัวนั้นกำลังจะจากไปเสียแล้ว
หลิวอวิ๋นเซียงจ้องมองกำแพงด้านตะวันตกอยู่นาน เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ครอบครัวนั้นก็กลับมาอีกครั้ง
ป้าจางออกไปสอบถาม จึงได้ความว่าเมื่อคืนมีบ้านหลังหนึ่งในเมืองถูกโจรขึ้น ทางการจึงตั้งด่านตรวจที่ประตูเมือง ทำให้ผู้คนต้องต่อแถวยาวเหยียด คาดว่ากว่าจะถึงคิวของครอบครัวนั้น คงมืดค่ำเสียก่อน
“เช่นนั้น รอออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าไม่ดีกว่าหรือ”
เรื่องแบบนี้ก็หาได้แปลกประหลาดอันใดไม่ หลิวอวิ๋นเซียงฟังแล้วก็มิได้ใส่ใจ
สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่ามีโจรบุกฝ่าประตูเมืองเข้ามา เหยียนมู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างต่อสู้กับพวกโจร ขอให้หลิวอวิ๋นเซียงรีบตามไปพบโดยด่วน
หลิวอวิ๋นเซียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสั่งให้จิ่นเยียนไปหยิบเสื้อคลุมตัวหนา และให้จื่อจินติดตามไปด้วย
“ท่านไปเพียงคนเดียวก็พอ” เจ้าหน้าที่กล่าว
หลิวอวิ๋นเซียงเพียงสบตาเจ้าหน้าที่คนนั้นโดยมิเอ่ยวาจา ฝ่ายเจ้าหน้าที่มองไปที่จื่อจิน เด็กสาวตัวเล็ก ๆ ผอมบาง จึงยอมผ่อนปรนในที่สุด
“เช่นนั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ”
หน้าประตูเรือนมีรถม้าจอดอยู่คันหนึ่ง แล่นออกจากตรอกไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าตรงไปยังประตูเมือง
จื่อจินเลิกม่านรถขึ้นมองออกไปข้างนอก ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง รถม้าแล่นผ่านถนนยาวแล้วเลี้ยวเข้าไปในตรอกมืดมิด
“คุณหนู ดูท่าจะไม่ชอบมาพากลเจ้าค่ะ” จื่อจินเอ่ยเสียงเบา
หลิวอวิ๋นเซียงที่กำลังหลับตาพักผ่อนอยู่ พลันลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แววตาคมกริบวาวโรจน์ขึ้น “จื่อจิน หากผู้ใดรังแกข้าเจ็ดส่วน ข้าควรเอาคืนสักกี่ส่วนดี?”
สีหน้าของจื่อจินเคร่งขรึมลง “สิบส่วนเจ้าค่ะ”
หลิวอวิ๋นเซียงส่ายหน้า “ข้าจะเอาคืนนางเจ็ดส่วน ส่วนที่เหลืออีกสามส่วน ข้าจะให้นางได้รับผลกรรมที่ก่อไว้เอง ทรมานอยู่กับความเจ็บปวด”
ในที่สุดรถม้าก็หยุดลง จื่อจินประคองหลิวอวิ๋นเซียงลงมา ปรากฏว่าเบื้องหน้าคือวัดร้างแห่งหนึ่ง ทันใดนั้น ชายชุดดำปิดบังใบหน้าหลายคนก็กรูกันเข้ามาล้อม สองคนในนั้นพุ่งเข้ามาจับตัวจื่อจินไว้ก่อน
ในตอนนั้น ขอทานที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่นหลายคนเดินออกมาจากวัดร้าง พวกเขาทุกคนล้วนหนุ่มแน่นแข็งแรง แต่กลับมีหน้าตาดุดันน่ากลัว ไม่เหมือนขอทานทั่วไป
“ค่ำคืนนี้ข้ายกนางให้พวกเจ้าแล้ว จะเล่นอย่างไรก็ตามใจ พรุ่งนี้เช้าข้าอยากเห็นเพียงซากศพ”
หลิวอวิ๋นเซียงหันไปมอง เห็นรถม้าหรูหราจอดอยู่ไม่ไกล เสียงนั้นดังมาจากข้างใน
ความทรงจำในชาติที่แล้วหลั่งไหลเข้ามาในหัว หลิวอวิ๋นเซียงกำหมัดแน่น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน