“วันที่ท่านเห็นข้าใกล้ชิดกับเหยียนมู่ คงเจ็บปวดใจนักใช่ไหม? ท่านปรารถนาจะแต่งให้เหยียนมู่ เป็นฮูหยินของเขา แต่เขากลับเห็นท่านเป็นเพียงน้องสาวคนหนึ่ง ท่านอยากได้เขามาครอบครองแต่มิอาจสมหวัง แล้วยังมาเห็นข้าตั้งครรภ์บุตรของเขา แถมเขายังยอมใจอ่อนตกลงแต่งงานกับข้าอีก ตอนนั้นท่านคงตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ว่าจะต้องฆ่าข้าให้ได้ ใช่หรือไม่?” หลิวอวิ๋นเซียงกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา
มู่หรงลิ่งอี๋ขมวดคิ้ว นางยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริง เมื่อนึกย้อนถึงตอนนั้น ก่อนที่พี่เจ็ดจะกลับมาถึง คำพูดเหล่านั้นที่หลิวอวิ๋นเซียงกล่าว…
“เจ้า...เจ้าจงใจยั่วให้ข้าอิจฉา ให้ข้าคลุ้มคลั่ง!”
“ใช่ แต่ท่านก็โกรธง่ายเหลือเกิน แค่ข้าแสดงความสนิทสนมกับเหยียนมู่ต่อหน้าท่านเพียงเล็กน้อย ก็เป็นผลแล้ว”
นายพรานพลันรู้สึกว่าเหยื่อตัวนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด แถมยังแผ่รังสีอันตรายออกมาอีกด้วย มู่หรงลิ่งอี๋กำลังรู้สึกเช่นนั้นเอง นางจึงกวาดสายตาสำรวจโดยรอบโดยไม่รู้ตัว
หลิวอวิ๋นเซียงพาเด็กรับใช้ตัวน้อยมาด้วยเพียงคนเดียว อายุราวสิบสามสิบสี่ปี ตัวเล็กบอบบาง บัดนี้ถูกจับตัวไว้ได้แล้ว
ถึงเหยื่อตัวนี้จะปากคอเราะร้ายอย่างไร ดูเหมือนก็ไม่มีอะไรน่ากลัว
มู่หรงลิ่งอี๋หรี่ตาลง “เช่นนั้นเจ้าก็รนหาที่ตายเอง!”
หลิวอวิ๋นเซียงสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างปลดปล่อย “ท่านช่างโง่เขลา แม้ไม่ลงมือ ข้าก็อยู่ได้อีกไม่กี่วันแล้ว”
“แม้แต่วันเดียวก็ไม่ได้!”
หลิวอวิ๋นเซียงยักไหล่ “ในเมื่อท่านส่งด้ามมีดมาให้ถึงมือ ข้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่แก้แค้นให้ตัวเอง”
“หึ เจ้ามีปัญญาสักแค่ไหนกัน?”
สิ้นคำมู่หรงลิ่งอี๋ บ่าวรับใช้ตัวน้อยก็หมุนตัวขึ้นกลางอากาศ ท่วงท่ารวดเร็วจนแทบมองไม่ทัน พริบตาเดียวชายชุดดำสองคนที่จับตัวนางก็ล้มลง คนอื่น ๆ กรูกันเข้ามา แต่ก็ถูกจัดการเรียบร้อยในชั่วพริบตา
สถานการณ์พลิกผันในพริบตา มู่หรงลิ่งอี๋ถึงกับงุนงงไปชั่วขณะ
หลิวอวิ๋นเซียงเผยยิ้มมุมปาก “คืนนี้ใครจะเป็นคนสิ้นชีพก็ยังไม่แน่หรอก”
“เจ้า... เจ้ากล้าหรือ มารดาข้าคือ... อื้อ...”
มู่หรงลิ่งอี๋ถูกจื่อจินยัดผ้าผืนใหญ่เข้าไปในปาก พร้อมกับมัดมือทั้งสองข้างเอาไว้ สาวใช้คนสนิทของนางเห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาช่วยเหลือ แต่ถูกจื่อจินฟาดสลบไปในดาบเดียว
หลิวอวิ๋นเซียงหันไปมองขอทานทั้งหลาย “หากไม่ใช่เพราะนาง พวกเจ้าคงไม่ต้องมาตกอยู่ในวังวนแห่งความวุ่นวายนี้ พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ นางไม่คิดจะให้พวกเจ้ามีชีวิตรอดผ่านคืนนี้ไปได้”
เหล่าขอทานต่างหันมองหน้ากันไปมา ใบหน้าของทุกคนล้วนปรากฏแววตาแห่งความเคียดแค้นชิงชัง
“จะคอตกหางลากหนีไป หรือจะระบายความแค้น ก็สุดแล้วแต่พวกเจ้า”
หลิวอวิ๋นเซียงส่งสายตาให้จื่อจินเป็นเชิงสั่งการ นางจึงผลักมู่หรงลิ่งอี๋ไปข้างหน้า ให้เข้าไปอยู่เบื้องหน้าขอทานเหล่านั้น
“อื้อ อื้อ...”
มู่หรงลิ่งอี๋ตกใจสุดขีด นางพยายามจะหลบหนี แต่จื่อจินกลับเตะเข้าที่เข่าของนาง บังคับให้นางคุกเข่าลงกับพื้น
ชาติภพก่อน หลิวอวิ๋นเซียงเคยผ่านความสิ้นหวังมาแล้ว มือเปื้อนเลือดหลบหนีไป จึงมีบ่วงกรรมติดตัว คอยตามหลอกหลอนในฝันร้าย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน