พูดไป หลิวอวิ๋นเซียงก็ชักมีดสั้นออกมาจ่อที่ลำคอของตนเองทันที
การกระทำอันกะทันหันของหลิวอวิ๋นเซียง ทำเอาองค์หญิงใหญ่ตั้งตัวไม่ทัน
“เจ้า!”
“วันนี้ข้าตายอยู่ในจวนองค์หญิงใหญ่ พร้อมกับลูกในท้อง ก็เป็นเพราะท่านบีบบังคับ!”
องค์หญิงใหญ่ถึงกับเซ จ้องเขม็งไปที่หลิวอวิ๋นเซียง “หรือว่าเจ้า... หรือว่าเจ้ารู้เรื่องอะไรเข้า?”
หลิวอวิ๋นเซียงเม้มริมฝีปาก นึกถึงคำเล่าลือที่เคยได้ยินเมื่อชาติก่อน เรื่องที่ไม่มีใครกล้าพูดออกไปตรง ๆ แค่แอบกระซิบกระซาบกันลับหลัง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใส่ใจเชื่อถืออะไร คำร่ำลือนี้จึงค่อย ๆ เลือนหายไปกับกาลเวลา
นางก็เคยได้ยินมาหนหนึ่ง เขาว่ากันว่าเหยียนมู่เป็นบุตรนอกสมรสของฮ่องเต้…
ในชาติที่แล้ว นางรู้สึกว่ามันช่างเหลวไหลสิ้นดี หากเหยียนมู่เป็นโอรสของฮ่องเต้จริง บิดาผู้นี้ก็ช่างโหดเหี้ยมต่อเขาเหลือเกิน ปล่อยให้เผชิญกับอันตรายถึงชีวิตอยู่ร่ำไป
แต่บัดนี้ นางเริ่มคล้อยตามคำเล่าลือนั้นขึ้นมาบ้างแล้ว
ถึงเวลาพิสูจน์แล้ว หากเหยียนมู่เป็นโอรสนอกสมรสของฮ่องเต้ ลูกในท้องนางก็ย่อมมีสายเลือดแห่งราชวงศ์ แม้ว่าองค์หญิงใหญ่จะเกลียดชังนางเพียงใด ก็มิอาจปล่อยให้นางตายพร้อมกับเด็กในท้องได้ในเวลานี้
นี่คือสิ่งเดียวที่นางหวังพึ่ง แน่นอน หากนางคาดการณ์ผิด นางก็คงต้องจบชีวิตลงจริง ๆ
หลิวอวิ๋นเซียงกำด้ามมีดแน่น จ้องมององค์หญิงใหญ่ “ในเมื่อองค์หญิงไม่ให้พวกเราได้มีชีวิตอยู่ต่อไป ข้าก็คงต้องพาลูกในท้องไปตายที่จวนของท่าน!”
เห็นหลิวอวิ๋นเซียงมีท่าทีเด็ดเดี่ยว พร้อมจะปลิดชีพตนเองจริง ๆ องค์หญิงใหญ่ก็ตื่นตระหนก
“เร็วเข้า รีบแย่งมีดในมือนางมา!”
เมื่อเห็นองครักษ์กรูกันเข้ามา หลิวอวิ๋นเซียงก็ตวาดลั่น “พวกเจ้ากล้าเข้ามาข้าจะปลิดชีพตัวเองเดี๋ยวนี้!”
องค์หญิงใหญ่ตื่นตระหนกจนร้องเสียงหลง “เจ้าต้องการอะไรกันแน่?”
หลิวอวิ๋นเซียงสูดลมหายใจเข้าลึก “ข้าต้องการให้องค์หญิงใหญ่เข้าวังไปทูลขอความเมตตาจากฝ่าบาท ให้ปล่อยตัวเหยียนมู่ออกมา!”
องค์หญิงใหญ่จ้องเขม็งไปที่หลิวอวิ๋นเซียง บัดนี้นางได้รู้ซึ้งถึงความเก่งกาจของหญิงผู้นี้แล้ว เห็นทีลูกสาวของพระนางพ่ายแพ้ให้นางก็ไม่น่าแปลกใจ
“เจ้าเอาชีวิตของตัวเองและลูกในท้องมาข่มขู่ข้า เจ้าไม่คิดว่ามันน่าขันไปหน่อยหรือ?”
“น่าขันหรือ?” หลิวอวิ๋นเซียงหมุนมีดสั้นในมือคมมีดกรีดผ่านผิวเนื้อ เลือดสีสดพุ่งทะลักออกมาในทันที
องค์หญิงใหญ่เซถลาไปข้างหลังอย่างกะทันหัน “ข้าจะเข้าวังเดี๋ยวนี้ เจ้าจงวางมีดลงเสีย!”
ลูกในครรภ์ของหลิวอวิ๋นเซียง หากฮ่องเต้ไม่รับ ก็เป็นเพียงลูกนอกสมรส ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย หากฮ่องเต้รับ ก็ถือเป็นเชื้อพระวงศ์ การคิดร้ายต่อเชื้อพระวงศ์มีโทษถึงประหารเก้าชั่วโคตร
ฮ่องเต้เป็นผู้เอาแน่เอานอนไม่ได้ ยากจะหยั่งถึงท่าทีที่มีต่อเหยียนมู่ องค์หญิงใหญ่จึงมิกล้าเอาชีวิตคนทั้งจวนมาเสี่ยง รีบรุดเข้าวังไปในทันที
หลิวอวิ๋นเซียงใช้มีดจ่อคอ ท้าทายสายลมหนาวจนร่างกายแข็งชา นางกัดฟันยืนหยัด ไม่กล้าผ่อนคลายแม้เพียงชั่วครู่
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ในที่สุดมู่จิ่นก็มาถึง
“ฮูหยิน นายท่านเจ็ดกลับจวนแล้วเจ้าค่ะ!”
หลิวอวิ๋นเซียงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นร่างกายของนางก็อ่อนยวบลงกับอ้อมอกของมู่จิ่น “เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน