“บ้านและที่ดินของเหยียนมู่"
หลิวอวิ๋นเซียงเลิกคิ้ว “ในเมื่อเป็นบ้านและที่ดินของเขา เช่นนั้นผู้ที่พักอยู่ที่นี่คือใครกัน"
ขอทานไอแห้ง สายตาของเขาวูบไหวเล็กน้อย “คนผู้นั้นชอบความสงบ ไม่มีทางพบท่าน ดังนั้นท่านไม่จำเป็นต้องรู้หรอก"
หลิวอวิ๋นเซียงเงียบไปครู่หนึ่ง “คงไม่ใช่ผู้หญิงที่เหยียนมู่เลี้ยงไว้ข้างนอกหรอกนะ"
ผ่านไปนาน เด็กคนนั้นจึฝกลับมาแล้วบอกว่าเจ้านายของเขาเชิญให้เข้าไป
หลิวอวิ๋นเซียงยังอยู่ไฟ ตอนที่คลอดร่างกายของนางทรุดโทรมไปมาก หลายวันมานี้นางวิตกกังวลและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ในเวลานี้ถึงที่สุดแล้ว นางสะบัดแขนเสื้อเดินเข้าไปด้านใน
ภายในเรือนไม่ใหญ่ สามารถเข้าออกได้สองทางคือด้านหน้าและด้านหลัง บริเวณส่วนหน้าบ้านนั้นมีหิมะปกคลุมอยู่หนา ตรงกลางถูกกวาดเป็นทางเดิน หิมะที่ปกคลุมสองข้างทางนั้นไม่เคยไม่ใครเข้าไปเฉียดมันมาก่อน เห็นได้ชัดว่าที่นี่มีคนไม่มาก
เดินผ่านเรือนหลักไปก็ถึงหลังบ้าน หิมะที่อยู่บริเวณหลังบ้านนั้นถูกกว่าอย่างหมดจด อีกทั้งยังมีหญิงชราในชุดสีเทากำลังกวาดบันไดหน้าเรือนหลักอยู่
ทางเดินแบบโบราณสองข้างทางที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม เรือนที่ทำจากกระเบื้องเคลือบส่องสว่างสดใส ทางด้านตะวันออกคือห้องข้างห้องโถงใหญ่ ทางตะวันตกคือประตูฉุยฮวาที่ใช้เชื่อมระหว่างเรือนชั้นในกับเรือนชั้นนอก
เด็กคนนั้นนำพวกนางเดินไปทางทิศตะวันตกและผ่านประตูฉุยฮวาไป ทางทิศตะวันตกมีสวนดอกไม้ขนาดไม่ใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง เนื่องจากตอนนี้เป็นฤดูหนางสวนดอกไม้แห่งนี้จึงดูแห้งแล้ง
ภายในสวนมีต้นทับทิมอยู่ต้นหนึ่ง บนต้นมีผลทับทิมที่แห้งเหี่ยวจากสภาพอากาศ แต่ละผลมีสีแดง
“ตัวข้ารวมถึฃเขาคือเทพบนสวรรค์ เขาคือหญ้าเซียนส่วนข้าคือน่ำค้าฃที่อยู่กันมาหลายหมื่นปี แต่สวรรค์ไร้หัวใจตัดขาดความสัมพันธ์ขอฝข้ากับเขา เขาลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ส่วนข้าก็กลายเป็นแม่น้ำสายหนึ่งบนโลกมนุษย์ สายน้ำที่ไหลทางทิศตะวันออกได้พาคนในดวงใจของข้าข้ามผ่านหนทางที่ยาวไกลและมากไปด้วยขวากหนาม"
กวีอันเศร้าสร้อยนี้ดังมาจากด้านหลังต้นทับทิม หลิวอวิ๋นเซียงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เหลือบมองขทานแวบหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าขอทานจะมึนงงเสียยิ่งกว่านางอีก นางขยับร่างกายที่ขนลุกซู่รีบอ้อมมองไปยังด้านหลังต้นทับทิม
“ตึก ตึก…”
หลิวอวิ๋นเซียงก้มหน้ามองเด็กสาวตัวน้อยในอ้อมอก ไม่รู้ว่าทำไมนางถึงได้ดีใจ พอดีกับที่ริมฝีปากเล็กๆ แย้มยิ้มออกมา นางยิ้มออกมาจนน้ำลายไหลย้อย หลิวอวิ๋นเซียงกิดเด็กสาวแน่นแล้งใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำลายของนาง
เมื่อวันก่อนขณะที่นางพักผ่อนระหว่างทาง ขอทานได้อุ้มเด็กหญิงอยู่พักหนึ่งเด็กหญิงก็ยิ้มออกมา
ขอทานยังกระแอมออกมา “เด็กที่เพิ่งเกิดออกมาก็สามารถส่งเสียงหัวเราะได้แล้วหรือ"
หลิวอวิ๋นเซียงลนลานทันที นางแสร้งทำทีพูดอย่างรังเกียจว่า “มีอะไรน่าแปลกใจกัน แต่ว่าก็ใช่ อย่างไรเสียเจ้าก็ไม่มีเมีย ไม่มีใครคลอดบุตรให้เจ้า เจ้าเองก็ไม่รู้ว่าเด็กที่เพิ่งคลอดนั้นเป็นอย่างไร"
ต่อให้มีประสบการณ์นิดหน่อย ขอทานเองก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติแล้ว เด็กที่เพิ่งเกิดจะตัวใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร
ขอทานรู้สึกสะกิดอะไรเข้า จึงไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้ต่อ
อ้อมต้นทับทิมไปบริวเณกำแพงทางตะวันตกมีลริเวณสว่างอยู่ มีหญิงสาวในชุดหลากสีกำลังร้องงิ้วอยู่ นางหันหลังให้พวกเขา ท่าทางของนางดูสง่างาม ย่างก้าวอ่อนช้อยและร้องไปตามความคิดของนาง


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน