เขาตกใจถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว
เสิ่นอวิ๋นโจวถอนหายใจ “ช่างเถอะ เขายังหนุ่มไม่รู้ความเท่านั้น แต่ไหนแต่ไรข้าใช้คุณธรรมเอาชนะคน ในเมื่อเป็นแบบนี้ข้าก็จะพูดกับพวกเจ้าด้วยเหตุผล ขงจื๊อกล่าวจะตอบแทนด้วยคุณอย่างไร? ตอบแทนคุณธรรมด้วยความตรงไปตรงมา ตอบแทนความเมตตาด้วยความกรุณาหมายความว่าอย่างไร ตอนที่พวกเราถูกรังแก ใช้คุณธรรมของพวกเราเปลี่ยนพวกเขา แบบนี้มันไม่ถูกต้อง แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎและคำขอบคุณใช้วิธีการของตัวเองไปตอบกลับพวกเขา อย่างเช่นตอนนี้ พวกเราให้อาหารขอทานใต้กำลังตัวเอง พวกเขาขอบคุณนี่เรียกว่าใช้คุณธรรมตอบแทนคุณธรรม และพวกเราไม่มีอาหาร แต่พวกเจ้าไม่ปล่อยพวกเรายังจะแย่งของเราถึงขนาดทำร้ายพวกเรา ข้าลงมือทำร้ายพวกเจ้าคนไหน นี่ก็เรียกว่าใช้คุณธรรมตอบแทน พวกเจ้าเข้าใจไหม?”
พวกขอทานต่างมองหน้ากันและทยอยมองไปทางเสิ่นอวิ๋นโจวด้วยใบหน้าสับสน
“ข้าจะบอกเรื่องหลักธรรมกับพวกเจ้า 《หมวดพระสูตรเบ็ดเตล็ด》ว่าอะไรถึงเรียกว่ารอบรู้? หากมีชายใจดี ไม่หล่นลง ไม่เสเพล ไม่ถ่อมตน ไม่อันตรายถ้าเช่นนี้ปลอบด้วยความดีได้ ยังไม่เกิดทุกข์ทำให้ไม่เกิด เกิดแล้วทุกข์ทำให้ตื่น ยังไม่เกิดชอบทำให้รีบเกิด เกิดแล้วสุขทำให้ไม่หาย เป็นชายมีความรู้”
หลิวอวิ๋นเซียงฟังแล้วงงมาก หันไปพูดกับขอทานว่า “พวกเราควรไปช่วยพวกเขาหรือไม่?”
ถึงอย่างไรอากาศมันหนาว ปลดปล่อยสรรพสัตว์ก็ควรเลือกวันที่อากาศดี ๆ กระมัง
ขอทานหันไปมอง “ไม่ต้องหรอก”
หลิวอวิ๋นเซียงหันไปมองด้วย เห็นคนแต่งตัวเด็กรับใช้คนหนึ่งพาเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งมาแล้ว
นางเข้าใจในทันที “ดังนั้นเขากำลังถ่วงเวลามาโดยตลอด”
เจ้าหน้าที่มาถึงไล่พวกขอทานให้แยกย้ายทันที
มีบางคนที่ฟังแล้วงง ไม่ลืมถามเสิ่นอวิ๋นโจวว่า “ไต้ซือ บทธรรมนี้หมายความว่าอะไร?”
เสิ่นอวิ๋นโจวยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกาย “ข้าจะรู้ที่ไหนว่าหมายความว่าอะไร ข้าก็ไม่ไหว้พระ แต่บอกให้เจ้าทราบหนึ่งประโยค นั่นก็คืออ่านหนังสือมากๆ ถึงไม่โดนหลอกง่ายๆ”
รอเสิ่นอวิ๋นโจวและชวีโม่หรานลงมาจากบนก้อนหินใหญ่ หลิวอวิ๋นเซียงนี่ถึงเข้าไป
“พี่หญิงชวี!”
ชวีโม่หรานมองตามเสียงเห็นเป็นหลิวอวิ๋นเซียง ทั้งตกใจและดีใจรีบวิ่งเข้าไปแล้ว
“อวิ๋นเซียงเจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
หลิวอวิ๋นเซียงยิ้ม “ข้าออกจากเมืองเซิ่งจิงเดินทางขึ้นเหนือมาตลอด พริบตาเดียวก็พักอยู่ที่เมืองเยี่ยนกุยมาครึ่งปีแล้ว”
“ดีจริง ๆ ต่อไปข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”
“อืม เห็นพี่หญิงข้าก็ดีใจเช่นกัน”
ชวีโม่หรานดึงหลิวอวิ๋นเซียงมาด้านข้าง “จิ่นเยียนพาเด็กไปหุบเขาราชาโอสถแล้ว เจ้าสบายใจได้”
หลิวอวิ๋นเซียงบีบมือของชวีโม่หรานแน่น เบ้าตาแดงอย่างทนไม่ไหว นางคิดถึงลูกชายมากแต่ครุ่นคิดแล้วก็ทำได้แต่ซ่อนเอาไว้ในใจ
“ต้องมีสักวันที่พวกเจ้าแม่ลูกได้พบกัน”
“อืม”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน