“ตกลง”
หลิวอวิ๋นเซียงระวังเสิ่นอวิ๋นโจว ส่งคนมาถามทุกวันแต่ผ่านไปครึ่งเดือนยังไม่มีข่าว ตอนนี้หลิวอวิ๋นเซียงร้อนใจมาก
นางไปหาชวีโม่หรานอยากให้นางช่วยถามหน่อย
ชวีโม่หรานโบกมือ “ไม่ต้องถาม เขาเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง ใช้คนและเงินของเจ้าทำงานให้ตัวเอง ขุดคลองก็เป็นผลงานของเขา ตั้งโต๊ะแจกข้าวในเมืองเป็นการช่วยเหลือเขาแล้ว”
หลิวอวิ๋นเซียงกัดฟัน “ตอนนั้นเขาแสดงออกอย่างจริงใจมาก”
“เขาแสดงเก่ง ผู้ชายคนนี้ไม่ไปแสดงงิ้วน่าเสียดายจริงๆ”
หลิวอวิ๋นเซียงนั่งลงบนเก้าอี้ นางร้อนใจจริงๆ แต่บอกตามตรง นางก็ไม่ใช่จัดการเสิ่นอวิ๋นโจวไม่ได้ ใครบ้างไม่มีแผน หลายวันนี้นางบอกกับชาวบ้านที่ขุดคลองว่า นางบอกสถานการณ์กับพวกเขา ประชาชนตื่นเต้นจะต้องไปโวยวายที่ว่าการ นางตั้งโต๊ะแจกโจ๊กก็ยุ่งแล้วไม่ใช่หรือ
ดังนั้นเขาควบคุมตน นางก็จับหางของเขาไว้
“เอาแบบนี้ เจ้าติดสินบนเขา” ชวีโม่หรานว่า
“หา?”
“ในสายตาของคนนอก เขาเป็นคนเปี่ยมด้วยความสามารถ สมถะ มัธยัสถ์ ใจซื่อ มือสะอาดแต่ความจริงโลภมาก แสร้งทำตัวสูงส่งเท่านั้น”
ชวีโม่หรานบอกว่าเสิ่นอวิ๋นโจวชอบภาพและอักษรโบราณ โดยเฉพาะผลงานของเซียวเหยาจื่อ
ภาพของเซียวเหยาจื่อ นำออกมาไม่มาก หลิวอวิ๋นเซียงกลุ้มใจในเวลาสั้น ๆ แบบนี้นางจะไปหามาจากไหน
ชวีโม่หรานยิ้ม “ข้าว่าง ข้าวาดให้เจ้ารูปหนึ่ง”
“หา?”
ชวีโม่หรานแอบพาหลิวอวิ๋นเซียงไปเรือนตัวเอง ในห้องหนังสือตวัดพู่กันวาดภาพภูเขาและแม่น้ำหนึ่ง เส้นค่อนข้างเรียบง่าย แต่ความหมายดีมาก
“จะหลอกเขาได้หรือ?”
เป็นจิ้งจอกตัวหนึ่ง จะต้องฉลาดมากไม่ใช่หรือ คงไม่ได้หลอกง่ายแบบนี้กระมัง?
ชวีโม่หรานแอบหัวเราะ “ข้าเคยใช้สามภาพตามผลงานของเซียวเหยาจื่อ หลอกเขากลายเป็นคนของข้า”
หลิวอวิ๋นเซียงมุมปากกระตุก “ข้าเดาว่าเขาเป็นผู้ชายไร้มโนธรรมคนหนึ่ง บีบให้เจ้าเป็นอนุของเขา”
“ตอนข้าเจอเขาครั้งแรก เป็นตอนที่เขาสอบหน้าพระที่นั่งติดจอหงวน ขี่ม้าสูงใหญ่ หน้าอกมีดอกสีแดงช่อใหญ่เดินขบวน คนสอบได้ที่สองที่สามใบหน้าเปื้อนยิ้มดีใจมาก มีแต่เขาที่หาว ท่าทางเหมือนยังไม่ตื่นนอน ข้าสังเกตเห็นเขาทันที และเขาหน้าตาดีแบบนี้ ดีไปหมดทุกอย่าง ข้าก็ชอบต่อมาข้าก็คิดหาวิธีเข้าไปเป็นสาวใช้ในจวนของเขา แต่ทำได้แค่รับใช้เรือนนอก ข้าจึงคิดได้หนึ่งวิธี”
หลิวอวิ๋นเซียงถามอย่างสงสัย “วิธีอะไร?”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน