เมื่อเห็นว่าฮูหยินเฒ่าไม่ตอบ จิ่นหมัวมัวจึงถามขึ้นอีกครั้ง ทว่าก็ยังคงไร้การตอบสนองใดๆ
นางรีบโน้มตัวเข้าไปตรวจสอบลมหายใจของฮูหยินเฒ่า ไม่มีลมหายใจอีกแล้ว...
“ฮูหยินเฒ่าสิ้นใจแล้ว!”
เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกหนักและลมพัดแรงมาก จนทำให้ดอกไม้ใบไม้ปลิวว่อนไปทั่วลานบ้าน
หน้าต่างทิศตะวันตกเปิดอยู่ ลมชื้นๆ พัดเข้ามาทำให้รู้สึกเย็นสบายบนใบหน้ามาเกเหลือเกิน
หลิวอวิ๋นเซียงเอนกายบนเตียงหลัวฮั่น พลางมองกิ่งดอกท้อที่ยื่นเข้ามาจากหน้าต่างอย่างว่างเปล่า
“ฮูหยิน นายบัญชีมาแล้วเจ้าค่ะ”
จิ่นเยียนวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน บนศีรษะของนางมีดอกท้ออยู่สองสามกลีบและร่างกายก็เปียกชื้นไปหมด
หลิวอวิ๋นเซียงตกตะลึงเมื่อเห็นจิ่นเยียนที่อายุน้อยและสดใสมีชีวิตชีวาเช่นนี้ นางใช้เวลาสักพักกว่าจะกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง ใช้ นางย้อนเวลากลับมา… กลับมาในปีที่สามหลังจากแต่งงานข้าจวนจิ้งอันโหว
“ให้นายบัญชีเข้ามา”
นายบัญชีเป็นชายชราที่มีหนวดเคราขาวโพลน บริหารการเงินในจวนจิ้งอันโหวมานานกว่า สามสิบปี เขามีรูปร่างผอมเพรียวและใบหน้าฉลาดเฉียบแหลม เพลานี้กำลังสวมเสื้อคลุมตัวยาวและถือกองบัญชีไว้ในมือ
“นายหู รบกวนท่านแล้ว วางสมุดบัญชีไว้ตรงนี้ได้เลย” หลิวอวิ๋นเซียงกล่าว
“เหตุใดฮูหยินสามจึงอยากตรวจสอบบัญชีกะทันหันเช่นนี้ เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ” นายบัญชีหูถามอย่างตรงไปตรงมา
การตรวจสอบบัญชีเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ว่าบัญชีจะชัดเจนเพียงใด ก็ยังมีความคลุมเครืออยู่บ้าง ดังนั้นเขาจึงกลัวว่าฮูหยินสามจงใจหาเรื่องเขาหรือไม่
หลิวอวิ๋นเซียงยิ้มอย่างแผ่วเบา “จวนโหวถูกยึดไปเมื่อสองปีก่อน เพลานี้ทั้งร้านค้าและไร่นาหลายแห่งบนบัญชีนี้คือสินเดิมของข้าใช่หรือไม่”
นายบัญชีหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบออกมาเบาๆ “ใช่ขอรับ”
“เช่นนั้นเท่ากับว่าข้ากำลังตรวจสอบของของตัวเอง ข้าตรวจสอบได้หรือไม่”
นายบัญชีหูไม่มีสิ่งใดจะโต้ตอบอีก จึงวางสมุดบัญชีในมือลงบนโต๊ะ
สามปีก่อน ท่านโหวแห่งจวนจิ้งอันโหวได้นำกองทัพหนึ่งแสนนายไปต่อสู้กับเป่ยจินที่ด่านเยี่ยนกุย
ทั้งสองฝ่ายแข็งแกร่งพอๆ กัน พวกเขาต่อสู้กันมานานกว่าหนึ่งปี และในที่สุดก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่
ในการต่อสู้ครั้งนี้ คลังสมบัติว่างเปล่า มีผู้เสียชีวิตนับไม่ถ้วน สามเมืองในซีเป่ยถูกยกให้กับเป่ยจิน ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาจึงถูกแคว้นมีอำนาจทางเหนือควบคุม
เมื่อถามหาความรับผิดชอบหลังสงคราม จวนจิ้งอันโหวจึงรับภาระหนักหน่วง
จิ้งอันโหวไปยังสนามรบพร้อมกับบุตรชายทั้งสาม เขาและบุตรชายคนโตสิ้นใจในการสู้รบ บุตรชายคนที่สามเซี่ยจื่ออัน สามีของหลิวอวิ๋นเซียงถูกทหารม้าเป่ยจินสังหารระหว่างทางขนส่งเสบียง ศพของเขาถูกเหยียบย่ำจนจำไม่ได้
มีเพียงเซี่ยจื่อเซวียนบุตรชายคนที่สองที่ยังมีชีวิตและอยู่ในคุกเพลานี้
จวนจิ้งอันโหวเป็นหนึ่งในแปดตระกูลขุนนางนับตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์ ทว่าฮ่องเต้ไม่อยากเข้ามาพัวพันเรื่องนี้มากนัก พระองค์จึงยึดจวนจิ้งอันโหว และริบทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูล แต่ไม่ได้เอายึดตำแหน่งกลับไป
หลังจากสะเทือนใจครั้งใหญ่ ฮูหยินเฒ่าคนก่อนก็ล้มป่วยหนัก ฮูหยินใหญ่กลับไปยังบ้านเกิด ฮูหยินรองไปยังสำนักแม่ชี แต่ยังเหลือเด็กๆ จากบ้านใหญ่และบ้านรองหลายคน ทำให้หลิวอวิ๋นเหนียงต้องก้าวออกมาประคับประคองครอบครัวต่อไป
หลิวอวิ๋นเซียงกางสมุดบัญชีหลายเล่ม มีของร้านขายชาด ร้านขายผ้าไหม สวนผลไม้ในเขตชานเมือง ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสินเดิมของนางทั้งสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน