หลิวอวิ๋นเซียงถอนหายใจออกมา นางได้แต่พูดว่า เหลียนจิ่วเย่ว์คนนี้แสดงได้สมบทบาทจริง ๆ ภาพลักษณ์ของน้องชายที่ดีฝังลึกในใจคน
“พี่ชวี อย่าเสียแรงเปล่าเลย”
“แต่…” ชวีโม่หรานส่ายหน้า “แต่ข้ากลัว กลัวจริง ๆ”
เมื่อเผชิญหน้ากับความตาย ใครบ้างจะไม่กลัว
หลิวอวิ๋นเซียงก็กลัวเช่นกัน นางเงยหน้ามองไปยังทิศทางไกล ทะเลทรายกว้างใหญ่ไพศาล มองไม่เห็นแม้แต่เงาคน
เหลียนจิ่วเย่ว์ถือคบเพลิง แล้วหันหน้าไปหาเหล่าทหาร
“หลังจากที่เราเผาผู้หญิงสองคนนี้จนตาย เราจะบุกเข้าไปด่านเจิ้นเป่ยในเวลากลางคืน ฆ่าทหารของพวกเขาทั้งหมด ฆ่าคนของพวกเขาทั้งหมด และบอกข้าราชบริพาลต้าหรงว่าสำหรับ ชีวิตเป่ยจินหนึ่งคนของเราต้องให้พวกเขาชดใช้เป็นพันเท่าหมื่นเท่า!”
เหลียนจิ่วเย่ว์เสียงดัง เหล่าทหารต่างชูหอกในมือขึ้นขานรับ
“บุกเข้าด่านเจิ้นเป่ย ล้างแค้นให้แม่ทัพใหญ่!”
“ช่วงชิงผู้หญิง แย่งชิงเสบียง!”
“คืนนี้ต้องให้พวกเขาชดใช้ด้วยเลือด!”
หลิวอวิ๋นเซียงกัดฟันแน่น การฆ่าแม่ทัพใหญ่ เหลียนจิ่วเย่ว์ต้องเห็นว่าเขาตาบอด จึงฉวยโอกาสลงมือเป็นแน่ แต่เขามีเจตนาฆ่าอยู่แล้ว เพียงแต่รอโอกาสนี้เท่านั้น
ภายใต้สายตาของทหารทุกนาย เหลียนจิ่วเย่ว์ทิ้งคบเพลิงลงบนกองฟืน
ไฟลุกโชนขึ้นในทันที
ควันไฟร้อนอบอวล หลิวอวิ๋นเซียงไม่มองลงไปเบื้องล่าง แต่ยังคงจ้องมองไปยังที่ไกล ๆ
เขาจะต้องมา!
ต้องมาแน่ ๆ!
แต่ว่าเหยียนมู่ ท่านรีบหน่อยได้ไหม ถ้ามาช้ากว่านี้ คงได้แต่เก็บศพข้าเท่านั้น!
ในที่สุด ภายใต้แสงสุดท้ายของวัน นางก็เห็นกองทัพมหึมาพุ่งเข้ามา ทหารของเป่ยจินต่างตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เหลียนจิ่วเย่ว์จะตะโกนสั่งการด้วยความตื่นตระหนกว่า “ยังยืนงงกันอยู่ทำไม รีบไปรับศึกเร็วเข้า!”
ทุกคนรีบหันหลังกลับไปชนกันชุลมุนวุ่นวาย ไม่เหลือเค้าโครงการจัดทัพใด ๆ ทั้งสิ้น พวกเขาพุ่งเข้าปะทะศัตรูอย่างอลหม่าน
เหลียนจิ่วเย่ว์ตั้งสติได้ ตะโกนถามเสียงดังว่า “ใครเป็นคนนำทัพ?”
“เรียนท่านแม่ทัพ คือเหยียนมู่ขอรับ!”
“เขางั้นหรือ?” เหลียนจิ่วเย่ว์เบิกตากว้าง “เขาไม่ใช่ถูกย้ายไปประจำการที่ซั่วซีแล้วหรอกหรือ ทำไม... เขาไม่กลัวราชสำนักต้าหรงจะลงโทษหรือไง?”
“อาจจะเพื่อช่วยพวกผู้หญิงพวกนี้ขอรับ” ทหารนายนั้นกล่าว
“แค่เพื่อผู้หญิงพวกนี้งั้นหรือ?”
ทว่า ก่อนที่เขาจะทันได้คิดให้กระจ่าง ทั้งสองฝ่ายก็ได้เปิดฉากต่อสู้กันแล้ว
เหล่าทหารต้าหรงต่างก็มีไฟแค้นคุกรุ่นอยู่ในใจ การต่อสู้ครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ขณะที่ทหารของเป่ยจินยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถูกบีบให้ต้องสู้รบ พ่วงด้วยการขาดแม่ทัพผู้บัญชาการในแนวหน้า ทำให้พวกเขาแตกพ่ายไปคนละทิศละทาง
ฝั่งนี้ไฟยิ่งลุกโชนมากขึ้นเท่าไหร่ หลิวอวิ๋นเซียงก็ยิ่งหายใจลำบากขึ้นเท่านั้น เมื่อมองไปที่ชวีโม่หราน ก็พบว่านางได้หมดสติไปแล้ว
ขณะที่นางกำลังร้อนรน ทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งพุ่งเข้ามา ตัดเชือกที่มัดตัวนาง แล้วพานางหนีออกมาจากกองไฟ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน