ห้าวันต่อมา ค่ายทหารไม่มีเสบียงอาหารเหลืออยู่เลย ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทหารไม่ได้กินอะไรเลย
ภายในค่ายทหาร ทุกคนต่างหวาดกลัว ทหารโกรธแค้นมาก ด่าทอราชสำนักว่าไร้หัวใจ
อีกสองวันต่อมา ทหารก็หยุดด่า เพราะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะด่าแล้ว
หากกองทัพเป่ยจินบุกเข้ามาตอนนี้ รับรองว่าจะฆ่าทหารได้ทีละคน พวกเขาจะไม่มีแรงต่อสู้เลย และจะพ่ายแพ้ในทันที
ในขณะที่ทหารทุกคนกำลังสิ้นหวัง ในยามพระอาทิตย์ตกดิน รถลากเสบียงอาหารก็มาถึง และคนที่เดินนำหน้าคือหลิวอวิ๋นเซียง
ในคืนนั้น ในที่สุดทหารก็ได้กินอาหารจนอิ่มท้อง แถมยังมีเนื้อให้กินอีกด้วย
เรื่องที่หลิวอวิ๋นเซียงส่งเสบียงอาหารมาให้แพร่สะพัดไปทั่วค่ายทหาร เหล่าทหารต่างสำนึกในบุญคุณของหลิวอวิ๋นเซียง แต่ทุกคนก็รู้กันดีว่าหลิวอวิ๋นเซียงคืออูหยินของหเยียนมู่ ความดีความชอบนี้จึงควรยกให้เหยียนมู่
มีคนพูดกันว่า เพื่อที่จะรวบรวมเสบียงอาหารให้พวกเขา เหยียนมู่ถึงกับขายสมบัติทั้งหมดที่มี
นับจากนั้นเป็นต้นมา กองทัพทั้งหมดก็ภักดี แต่เดิมทีภักดีต่อราชสำนัก ตอนนี้กลับภักดีต่อผู้บัญชาการของพวกเขา!
ตั้งแต่เมื่อวานซืนที่รบกันไปหนึ่งยก ทำให้กองทัพเป่ยจินบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก สองวันมานี้จึงสงบลง เหยียนมู่จึงถือโอกาสนี้กลับไปเยี่ยมหลิวอวิ๋นเซียงและลูกสาวที่เมืองเยี่ยนกุย
เขากอดลูกสาวไว้ในอ้อมแขนแล้วยกขึ้นสูง จับมดในเรือน หกล้มกลิ้งไปกับโคลน ทั้งสองคนเล่นกันอย่างสนุกสนาน
กลางคืนหลังกล่อมให้สิงอี้หลับแล้ว เหยียนมู่และขอทานก็มานั่งดื่มเหล้ากันที่ลานบ้าน
ขอทานดื่มจนเมามาย พูดจาไม่ระวังปาก หลุดปากชมออกมาว่า “เจ้าช่างวางแผนสูงส่งนัก”
เหยียนมู่ปรายตามองเขา “ดื่มเหล้าของเจ้าไปเถอะ พูดมากจริง!”
ขอทานส่ายหน้า “เจ้าให้หลิวซื่อใช้ชื่อร้านขายข้าวหลิงอวิ๋น บรรดาผู้คนต่างไม่ทันสังเกตเห็น ซื้อข้าวจำนวนมากเก็บไว้ เจ้ารอคอยวันนี้มานานแล้ว ใช้ข้าวเหล่านี้ซื้อใจทหาร ให้ทหารทั้งกองทัพเจิ้นเป่ยอยู่ใต้อาณัติของเจ้า”
เหยียนมู่กระดกเหล้าอึกใหญ่ “ข้าก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องทำศึก ไม่ได้คาดคิดว่าราชสำนักจะไม่ยอมส่งเสบียงมาให้”
“ไม่หรอก เจ้าคาดการณ์ไว้แล้ว!” ขอทานเรอออกมา “พ่อบุญธรรมยังเคยชมเจ้าเลยว่า เจ้าคาดการณ์ได้แม่นยำราวกับเทพเจ้า ถึงแม้เจ้าจะไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เจ้าก็รู้ว่าเป่ยจินกับต้าหรงแสร้งทำเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แต่แท้จริงแล้วไม่มีความจริงใจ สักวันก็ต้องเกิดสงครามอยู่ดี”
“ถ้าข้าคาดการณ์ได้แม่นยำราวกับเทพเจ้าจริง ๆ ก็คงจะดี”
“เจ้าแค่ไม่ได้คาดการณ์ว่าองค์หญิงเก้าจะต้องมาพบกับเรื่องแบบนี้”
เหยียนมู่ยกเหยือกเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
“พี่ใหญ่ ท่านเชื่อใจพ่อบุญธรรมหรือไม่?”
ทันใดนั้นขอทานก็ตัวสั่นและเงยหน้าขึ้นมองเหยียนมู่ด้วยความประหลาดใจ “เจ้ากำลังพูดถึงอะไร อย่าลืมว่าพ่อบุญธรรมเป็นคนช่วยชีวิตเจ้าไว้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกตัดหัวพร้อมกับตระกูลเหยียนในตอนนั้นแล้ว”
“ข้าถามท่าน”
“ข้าย่อม…”
“อย่าเพิ่งด่วนสรุปไป ตอนที่ท่านติดตามพ่อบุญธรรมก็เพื่อแก้แค้นให้ครอบครัวมิใช่หรือ? แต่ผ่านมาหลายปี ศัตรูของท่านก็กลายเป็นพันธมิตรของพ่อบุญธรรมไปแล้ว ท่านยังเชื่อมั่นเพียงนั้นเชียวหรือ?”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน