ขอทานเป็นคนเล่าสถานการณ์แนวหน้าเหล่านี้ให้หลิวอวิ๋นเซียงฟัง และสุดท้ายก็พูดว่ “เจ้าเจ็ดช่างเก่งกาจจริง ๆ ตอนที่รักษาการณ์ที่แนวรบซั่วซี เขาได้ร่วมมือกับซีเย่ว์เป็นอย่างดี ทั้งสองฝ่ายผ่อนปรนและรัดกุม โจมตีและป้องกัน ทำให้เป่ยจินวุ่นวายไปหมด ครั้งนี้เป่ยจินต้องสูญเสียอย่างหนัก คิดว่าสงครามนี้น่าจะจบลงในไม่ช้า”
ดังที่ขอทานคาดการณ์ไว้ ครึ่งเดือนต่อมา กองทัพเป่ยจินก็ถอนทัพจากทั้งสองด้าน กลับไปยังด่านของพวกเขา หลบซ่อนตัวอยู่ ไม่กล้าออกมาโอ้อวดอีกต่อไป
การต่อสู้ครั้งนี้ช่างสวยงาม ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นเต้นและมีกำลังใจ
ไม่นานก็ได้รับราชโองการจากราชสำนัก แต่กลับไม่ใช่การสรรเสริญกองทัพเจิ้นเป่ย แต่เป็นการสั่งให้เหยียนมู่รีบนำทัพกลับไปยังเมืองหลวง
เสิ่นอวิ๋นโจวถอนหายใจยาว “หากผู้บัญชาการเหยียนกลับไปเมืองหลวง การถูกปลดจากตำแหน่งแม่ทัพยังถือว่าเล็กน้อย เกรงว่าจะถูกเอาผิดในเรื่องสงครามด้วย โอกาสรอดมีน้อยมาก”
“เช่นนั้นก็ไม่กลับ” เว่ยเทียนกล่าว
เสิ่นอวิ๋นโจวมองไปที่เหยียนมู่ ดวงตาเบิกกว้าง “เว้นแต่…”
เหยียนมู่มองเสิ่นอวิ๋นโจวกลับ แววตาคมขึ้นเล็กน้อย
เสิ่นอวิ๋นโจวหัวเราะ “ในราชโองการยังมีอีกประโยคหนึ่งมิใช่หรือ ที่ให้ผู้บัญชาการเหยียนกลับไปเมืองหลวงก็เพื่อเข้าพิธีอภิเษก นี่นับเป็นเรื่องมงคล เราต้องแสดงความยินดีกับผู้บัญชาการเหยียน จริงไหม?”
งั้นหรือ?
เว่ยเทียนเงยหน้าขึ้น เห็นหลิวอวิ๋นเซียงยืนอยู่ที่หน้าประตู ใบหน้าบึ้งตึง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าการที่ราชสำนักจะลงโทษเป็นเรื่องเล็ก แต่การทำให้ภรรยาโกรธเป็นเรื่องใหญ่กว่า
ผู้บัญชาการ รักษาตัวด้วย!
เว่ยเทียนและเสิ่นอวิ๋นโจวต่างก็จากไป หลิวอวิ๋นเซียงยืนอยู่หน้าประตู ส่วนเหยียนมู่ยืนอยู่ในห้อง
สายตาสบกัน เขาหลบตาลงอย่างรู้สึกผิด เหมือนเด็กที่ทำผิดรอรับโทษ
หลิวอวิ๋นเซียงหัวเราะเบา ๆ “ข้าก็ควรจะแสดงความยินดีกับท่านด้วยสินะ คิด ๆ ดูแล้ว นี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้ว”
“ข้า จะไม่แต่งงานกับนาง”
“ท่านตัดสินใจเองได้หรือ?”
“…”
หลิวอวิ๋นเซียงยิ้มอย่างขมขื่น “ท่านแต่งงานกับคนหนึ่ง ให้ตำแหน่งแก่นาง ในใจท่านมีอีกคน ให้ความรักแก่นาง แล้วข้าเล่า ท่านให้อะไรแก่ข้าบ้าง?”
“…”
“เหยียนมู่ ท่านรังแกข้ามาทั้งชีวิต ยังจะรังแกข้าอีกหรือ?”
แต่เหยียนมู่กลับก้มหน้าลง ไม่แม้แต่จะให้คำสัญญาใด ๆ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน