“ลุงสวีทำไมถึงพาข้ามาโถงบรรพบุรุษล่ะ?”
พ่อบ้านสวีลดตาลง และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฮูหยินให้ท่านก้มหัวคำนับบรรพบุรุษเพื่อขอโทษ แบบนี้ฮูหยินถึงจะยอมเจอท่าน”
หลิวอวิ๋นเซียงถูกเชิญมายังโถงบรรพบุรุษ ต่อมาผู้ดูแลสวีก็ออกไป และลงกลอนตรงด้านนอกประตูด้วย
“ลุงสวี ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
“รอฮูหยินหายโกรธแล้วจะมาพบท่านเอง ก่อนหน้านั้น ท่านจงพิจารณาตัวเองอยู่ในโถงบรรพบุรุษก่อนเถอะ”
ผู้ดูแลสวีไปแล้ว หลิวอวิ๋นเซียงสูดลมหายใจเข้าลึก ทำได้เพียงรอท่านหายโกรธอยู่ตรงนี้
แต่ท่านแม่มีความแค้นใจต่อนางอย่างมาก เกรงว่าจะไม่สามารถหายโกรธได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
เป็นอย่างที่นางคาดไว้ การขังนี้ดำเนินมาสามวันแล้ว อีกอย่างไม่มีการส่งน้ำส่งข้าวให้
กลางคืนแล้ว โถงบรรพบุรุษไม่มีการจุดเทียน ทำได้แค่อาศัยแสงจันทร์เพียงเล็กน้อยในการมองเห็นแถวป้ายวิญญาณ บรรยากาศหนาวเย็น
หลิวอวิ๋นเซียงคุกเข่าลงบนเบาะกลม สติเริ่มเลอะเลือน
เวลานี้มีเสียงกุญแจเหล็กดัง ต่อมาประตูก็เปิดออก มีแสงสว่างลอดเข้ามา
หลิวอวิ๋นเซียงแม้แต่แรงเงยหน้ายังไม่มี ได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา จนมาถึงตรงหน้านาง
“ถึงแม้ตระกูลหลิวจะไม่ใช่ตระกูลมีชื่อเสียง แต่เป็นตระกูลยึดมั่นในคุณธรรมและน่าชื่นชม สืบทอดหลักจริยธรรม การอบรมของตระกูลหลิวนั้นเข้มงวด คนรุ่นหลังเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมและความสามารถ เป็นแบบอย่างอันดีงามให้ทุกครอบครัวในเมืองเซิ่งจิ่ง บัดนี้เพราะเจ้าคนเดียว ทำลายชื่อเสียงนับร้อยปีของตระกูลหลิว เจ้ารู้ผิดหรือไม่?”
น้ำเสียงเย็นชานี้คือท่านแม่ หลิวอวิ๋นเซียงรู้ แต่รู้สึกว่ามันดูห่างไกลเกินไป ราวกับได้ยินท่านแม่สั่งสอนในครั้งก่อนยังเป็นตอนยังไม่ได้ออกเรือนในชาติที่แล้ว
“อวิ๋นเซียง…รู้ผิดแล้ว…” นางกล่าวอย่างอ่อนแรง
หากนางทำให้ตระกูลหลิวอับอาย เช่นนั้นนางก็ผิด
“น้องชายเจ้าจนถึงบัดนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นหรือตายก็เพราะเจ้า ท่านพ่อของเจ้าถูกปลดจากขุนนางก็เพราะเจ้า เจ้ามีความผิด ข้ายิ่งมีความผิด!”
ขณะที่ฮูหยินหลิวพูด ก็คุกเข่าลงบนพื้น คุกเข่าอย่างมั่นคงต่อหน้าตำแหน่งตั้งป้ายของบรรพบุรุษ
หลิวอวิ๋นเซียงส่ายหน้า น้ำตาไหลริน ท่านแม่ดุด่านางก็ดี ลงโทษนางก็ดี นางล้วนรับได้ ขอแค่ท่านแม่ยังยอมรับนาง…
“ข้าผิดตรงที่ข้าไม่ควรให้กำเนิดเจ้า!”
เสียงนี้ดั่งมีดดาบ ทิ่มแทงหัวใจของหลิวอวิ๋นเซียง น้ำตาหยุดไหลทันที
สุดท้ายเป็นนางที่เพ้อฝันเกินไป
ฮูหยินหลิวก้มหัวคำนับสามที และกล่าวว่า “ละอายใจต่อเหล่าบรรพบุรุษ นับจากนี้หลิวอวิ๋นเซียงไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลหลิว ข้าก็ไม่มีทางยอมรับนางอีก”
หลิวอวิ๋นเซียงมุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย ช่างเถอะ นางไม่มีบ้านแม่มานานแล้ว
ฮูหยินหลิวยืนขึ้น พยักหน้าใส่ผู้ดูแล
“ฮูหยิน นี่…”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน