“มือของเจ้า...”
“มันกัดจนขาด”
หลิวอวิ๋นเซียงใช้มือปิดปาก ในเวลานี้นางถึงได้รู้ว่าที่ลี่เหนี่ยงบอกว่า ‘เจ้าจะต้องแย่ยิ่งกว่าข้า’ นั้นน่ากลัวขนาดไหน
เมื่อชามกระดูกถูกวางลง หมาป่าก็กระโจนเข้ามาและทำให้ชามนั้นพลิกคว่ำ จากนั้นก็เริ่มแทะมัน
นางไม่ยากกินเลยสักนิด นางยินดีที่จะหิวตาย !
“ไม่อยากกินใช่หรือไม่” เซี่ยจื่ออันหยัดกายเดินเข้ามา เขานั่งยองตรงหน้ากรงเหล็กและจ้องมองไปที่หลิวอวิ๋นเซียงแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ได้ลืมใช่หรือไม่ ปีนั้นที่เกิดเหตุความหิวโหย ทุกคนในจวนโหวต่างหิวโหย ส่วนเจ้ามีเสบียง ไม่ใช่แค่มีเสบียงแต่ยังมีเนื้อด้วย เจ้ากินไม่หมดก็เอาไปให้สุนัข ในสายตาเจ้าแม่ของข้าไม่เทียบเท่าสุนัขเลยด้วย แต่เพื่อมีชีวิตรอดข้าทำได้เพียงแย่งอาหารกับสุนัข”
เซี่ยจื่ออันพูดไปยิ้มไป สายตาของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
หลิวอวิ๋นเซียงไม่รู้เรื่องนี้เลยจริงๆ ถ้าหากว่านางรู้นางจะต้องเยาะเย้ยเข้าต่อหน้าจากนั้นแม้แต่ที่สุนัขกินเหลือก็จะไม่ให้เขากินเลย!
“หลิวอวิ๋นเซียง ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองนะ เจ้าคงไม่ได้ยังหวังอยู่ว่าจะมีคนมาช่วยเจ้าหรอกนะ เจ้าลู่ฉางอันนั่น เขาไม่มีความสามารถพอที่จะบุกเข้ามาในจวนจิ้งอันโหวของข้าหรอก อ้อ จริงด้วย ยังมีเจ้าสารเลวเหยียนมู่อีก เจ้าคิดว่าทำไมข้าถึงเลือกคืนนี้ล่ะ เป็นเพราะเขาถูกฝ่าบาทกักบริเวณ ถ้าแค่เขาออกจากจวนแม้แต่ครึ่งก้าวก็เท่ากับฝืนราชโองการ นอกเสียจากว่าเขาจะยอมหัวหลุดจากบ่าเพื่อเจ้า!”
เซี่ยจื่ออันยืนขึ้น “เจ้าเองก็แค่ของเล่นของเขาก็เท่านั้น ยังหวังว่าเขาจะเสี่ยงชีวิตเพื่อเจ้าหรือไง!”
เขาเดินวนรอบกรงเหล็กสองรอบ “หลิวอวิ๋นเซียง เจ้าไม่ได้ยโสนักหรือ ไม่ใช่ว่าเจ้าชอบเหยียบจวนโหวของข้าเอาไว้ใต้ฝ่าเท้าหรืออย่างไร แต่ดูเจ้าตอนนี้สิ จิ๊ จิ๊ สกปรกเสียจริง! ต่อให้ป้อนเจ้าเป็นอาหารสุนัขข้าก็รังเกียจว่าสกปรก”
“เช่นนั้นก็ล้างสักหน่อยเถอะ!”
น้ำเย็นกะละมังหนึ่งสาดไปบนร่าง ความรู้สึกแรกของหลิวอวิ๋นเซียงไม่ใช่ความเย็นแต่เป็นความเจ็บปวดราวกับว่ามีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงไปบนผิวของนาง นางอดที่จะส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้
จากหนึ่งกะละมังเป็นสอง นางทนไม่ไหวจนหมอบอยู่กับพื้น คางของนางสั่นอย่างรุนแรง กลิ่นคาวเลือดเต็มปากของนาง หัวของนางหนักมากและบวมราวกับจะระเบิดออกมาในนาทีต่อมา
และตามมาอีกหนึ่ง ในที่สุดนางก็รู้สึกหนาว เพียงพริบตาเดียวนางก็รู้สึกถูกแช่แข็ง นางขยับไม่ได้เลยสักนิด
“ฮ่า ฮ่า สาดอีก อย่าหยุด!” เซี่ยจื่ออันหัวเราะราวกับคนบ้า
เนื่องจากสาดต่อเนื่องทีละกะละมัง ในนาทีนี้หลิวอวิ๋นเซียงดูเหมือนสติออกจากร่างที่ลอยออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าจะดึงมันกลับมาไม่ได้
“หลิวอวิ๋นเซียงข้าเคยบอกว่านี่เพิ่งเริ่มต้น ข้าไม่ให้เจ้าตายไปง่ายๆ เช่นนนี้หรอก!”
เซี่ยจื่ออันออกแรงเตะกรงเหล็ก และกัดฟันพูดต่อไปว่า “ข้าจะให้เจ้าทรมาณเหมือนตายทั้งเป็น!”
เสียงอันชั่วร้ายนี้ดึงสติของหลิวอวิ๋นเซียงกลับมาเล็กน้อย แต่ในใจของนางก็ยังมีความปรารถนาที่อยากจะมีชีวิตอยู่อย่างแรงกล้า นางจะตายไปเช่นนี้ไม่ได้ นางยังมีบุตรอีกสองคนนะ!
“จิ๊ จิ๊ น่าเวทน่าขนาดนี้ แต่ยังคงเป็นคนงาม ไม่แปลกที่เหยียนมู่กับลู่ฉางอันล้วนอยากได้เจ้า แต่เจ้าเป็นคนของข้า ข้าอยากจะทำกับเจ้าอย่างไรก็ได้”
“เอานางไปไว้ในห้องแล้วถอดเสื้อผ้าออกให้หมด พอข้าเล่นสนุกกับนางเสร็จแล้วต่อไปย่อมเป็นพวกเจ้า!”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน