เหยียนมู่ตอบ “ข้ามีธุระขอกลับจวนก่อน”
“อีกไม่กี่วันข้าจะไปกวาดสุสานกับพี่เจ็ดอีกนะ”
“ลิ่งอี๋ ที่ผ่านมาข้าไปเพียงคนเดียว”
“ข้าอยากไปกับท่าน”
“ไม่ต้อง”
มู่หรงลิ่งอี๋อยากพูดอะไรต่อ แต่เหยียนมู่กลับหันหลังเดินจากไป
โจวหลี่ไหวมองร่างที่จากไปของเหยียนมู่พลางถอนหายใจ “เขาแบกหนี้โลหิตของครอบครัวไว้เพียงลำพัง ไม่เคยแบ่งปันให้คนอื่นเลย”
มู่หรงลิ่งอี๋มุ่ยหน้าทันที “ข้าเป็นคนอื่นหรือ”
“พ่อบุญธรรมก็เช่นกัน ท่านคิดอย่างไรล่ะ”
มู่หรงลิ่งอี๋ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้ ก่อนนึกถึงเรื่องของหลิวอวิ๋นเซียงจึงถามโจวหลี่ไหวออกไป “หญิงหม้ายนั่นแค่กระเพาะอาหารเย็นจริงๆ หรือ”
โจวหลี่ไหวแสร้งทำเป็นงุนงง “ไม่อย่างนั้นล่ะ”
“ไม่ใช่ว่าตั้งครรภ์หรอกหรือ”
เขาตกตะลึง “นางเป็นหม้าย สามีตายไปสามปีแล้ว จะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน”
เมื่อเห็นโจวหลี่ไหวตอบเช่นนั้น นางก็คิดว่าเขาอาจไม่ได้โกหก เป็นไปไม่ได้เลยที่พี่เจ็ดยอมให้หญิงอื่นตั้งท้องลูกของเขา
เพราะสุดท้ายแล้วหากท่านผู้นั้นในวังรู้เข้า อาจเกิดปัญหาใหญ่ตามมา
เมื่อหลิวอวิ๋นเซียงเห็นลู่ฉางอานออกจากสนามแข่ง นางก็แอบติดตามเขาไป
เขาเดินเข้าไปในประตูฉุยฮวาที่สวนหลังบ้าน หลิวอวิ๋นเซียงกำลังเดินตามเข้าไป แต่กลับมีชายคนหนึ่งเดินมาจากระเบียงจากทางทิศตะวันตกและขวางทางนางเอาไว้
“ฮูหยินสาม ท่านรู้ว่าข้าตามมา จงใจพาข้ามาที่ไร้ผู้คนเช่นนี้ ท่านกำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ”
หลิวอวิ๋นเซียงมองชายร่างกำยำที่แฝงรอยยิ้มลามกตรงหน้า หลังจากคิดครู่หนึ่ง นางก็นึกออกว่าเขาคือใคร เขาคือหูหย่งบุตรชายหูเทียนสั่วรองเสนาบดีกรมคลังนั่นเอง
ชายคนนี้วันๆ ไม่ศึกษาเล่าเรียน เอาแต่เกียจคร้าน เที่ยวเล่นสถานที่อโคจร ไม่นานมานี้ยังบีบให้ภรรยาต้องแขวนคอตัวเองตายด้วยซ้ำ
นางจึงยืดตัวตรงให้สมกับเป็นฮูหยินสามจวนโหว และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณชายรองหู โปรดระวังกิริยาด้วย อย่างไรเสียจวนจิ้งอันโหวของเราก็เป็นหนึ่งในแปดขุนนางชั้นสูง จวนรองเสนาบดีอย่างท่านไม่ควรยุ่งเกี่ยวด้วย”
“โกรธแล้ว ก็ยังงดงามอยู่ดี”
เมื่อเห็นคุณชายรองหูเอื้อมมือออกมา หลิวอวิ๋นเซียงจึงถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว “ไร้ยางอาย!”
หูหย่งพลันเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆ “เจ้ายังไม่เคยลิ้มรสบุรุษสินะ?”
หลิวอวิ๋นเซียงเห็นว่าข่มขู่ไม่ได้ผล นางจึงรีบวิ่งออกไปอีกทาง นางให้จิ่นเยียนเตรียมรถม้าเอาไว้แล้ว เดิมทีเพียงแค่อยากไปแอบดูลู่ฉางอันว่าสบายดีหรือไม่ ไม่ได้อยากเจอคนอันธพาลเช่นนี้เลย
หลังจากวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว หูหย่งก็วิ่งเข้ามาขวางไว้อีกครั้ง
“ข้าเอาปิ่นไข่มุกมาคืน ท่านกลัวอะไร”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน