หลิวอวิ๋นเซียงรู้สึกเจ็บแปลบในใจ คำพูดนี้ด่าทอตัวเองในชาติภพก่อน
แต่ตอนที่เขาถูกตัดหัว นางเป็นคนเก็บศพ เป็นคนฝังกลบเขา และเป็นคนที่เผากระดาษเงินให้เขาในทุกเทศกาลเช็งเม้ง
หลิวอวิ๋นเซียงพยักหน้า แล้วพูดเยาะเย้ยตัวเองว่า “เป็นข้าเองที่ละเมอเพ้อพก ต่อไปนี้จะไม่กล้าแล้ว”
เซี่ยเหวินชิงรอหลิวอวิ๋นเซียงไม่ไหว จึงนั่งรถม้าของบ้านอื่นกลับไปก่อน ตอนนี้ในรถม้าจึงมีเพียงหลิวอวิ๋นเซียงกับจิ่นเยียนเท่านั้น
จิ่นเยียนรินน้ำให้หลิวอวิ๋นเซียงแก้วหนึ่ง ตอนยื่นน้ำให้ กลับเห็นนางร้องไห้
“ฮูหยิน ท่านเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?”
หลิวอวิ๋นเซียงส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่รู้สึกเสียดายแทนสตรีผู้หนึ่ง”
“ใครหรือเจ้าคะ?”
“สตรีผู้โง่งมหลงรักบุรุษที่ไม่ควรค่าแก่ใจ ถูกหักหลัง ถูกทอดทิ้ง แต่กลับไม่ยอมเปิดใจรับใครอีกเลยตลอดชีวิต”
ความโดดเดี่ยวเดียวดายในบั้นปลายของนางล้วนมีต้นเหตุมาจากเซี่ยจื่ออันและเหยียนมู่ ชาติภพนี้นางจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นอีกเด็ดขาด
เมื่อกลับถึงจวนโหว ขณะเดินผ่านบ้านรอง บังเอิญพบฮูหยินรองวิ่งหน้าตาตื่นออกมา นางมีรอยฟกช้ำทั่วใบหน้า ผมเผ้าและเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ดวงตาทั้งสองข้างฉายแววหวาดกลัว
“นังแพศยา ข้าจะฆ่าเจ้า!” นายท่านรองเซี่ยเดินโซเซออกมาจากห้อง ก้าวลงบันไดด้วยท่าทางอ่อนแรง ก่อนจะพลัดตกลงไปกองกับพื้นโดยไร้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้น
เมื่อเห็นดังนั้น ฮูหยินรองจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ครั้นหันมาเห็นหลิวอวิ๋นเซียง ใบหน้าของนางก็พลันบิดเบี้ยวด้วยโทสะ “ที่ข้าเป็นแบบนี้ ล้วนเป็นเพราะเจ้า!”
หลิวอวิ๋นเซียงได้แต่มองสตรีผู้น่าเวทนาตรงหน้าด้วยความสงสาร ไม่อยากต่อปากต่อคำด้วย จึงหันหลังเดินจากไปยังบ้านสาม
“หลิวอวิ๋นเซียง อย่าได้ดีใจไปนัก จุดจบของเจ้าจะต้องทุกข์ทรมานยิ่งกว่าข้า!”
จิ่นเยียนประคองหลิวอวิ๋นเซียงไว้พลางกระซิบด้วยความขุ่นเคืองว่า “เป็นนายท่านรองเซี่ยที่ทำร้ายนางแท้ ๆ แต่กลับมาโทษท่านได้ เห็นทีนางคงเสียสติไปแล้ว”
“นายท่านรองเซี่ยเป็นสามีของนาง นางมิอาจเกลียดเขาได้ จึงได้แต่ระบายใส่ข้า”
“อาศัยอะไรกัน!”
“ก็อาศัยที่ข้าง่ายต่อการรังแกไงเล่า”
เย็นวันนั้น จิ่นเยียนวางถาดอาหารลงบนโต๊ะด้วยความเดือดดาล “แบบนี้จะให้กินยังไงกัน บ่าวไพร่ข้างนอกยังกินดีกว่าพวกเราเสียอีก”
บนถาดมีผักสองจาน เรียกว่าสองอย่างก็จริง แต่ที่จริงแล้วเป็นผักต้มเหมือนกัน แค่แบ่งใส่จานต่างหาก แถมยังบอกว่าผักผัด แต่กลับเหมือนผักลวกน้ำเปล่า ไม่เห็นน้ำมันแม้แต่น้อย
“บ่าวถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ดูแลก็บอกว่าเป็นคำสั่งของฮูหยินรอง ให้ลดค่าใช้จ่ายของทุกบ้าน แต่เรือนตะวันออกกลับมีข้าวต้มรังนก บ้านใหญ่มีไก่ตุ๋นโสม เรือนรองมีซี่โครงแกะอบ พอมาถึงบ้านสามของเรากลับมีแค่ผักสองจานแบบนี้ นี่มันรังแกกันชัด ๆ!”
ยิ่งพูด จิ่นเยียนก็ยิ่งโมโห ที่ห้องครัวนางก็เถียงกับผู้ดูแลมาแล้ว แต่เขาก็บอกว่าฮูหยินรองเป็นคนดูแลบ้าน พวกเขาแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น
หลิวอวิ๋นเซียงกลับมาจากจวนเจิ้นกั๋วกง คงเพราะรู้สึกอัดอั้นตันใจ จึงรู้สึกไม่สบายท้องมาตลอด
“ข้าไม่เจริญอาหาร พวกเจ้ากินกันเถอะ”
พูดจบ นางก็ขึ้นเตียงพักผ่อนแต่หัวค่ำ
รุ่งเช้าวันต่อมาเป็นข้าวต้มผัก หมั่นโถวก็ไม่ใช่ของนึ่งใหม่ แข็งจนกัดแทบไม่เข้า


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน