“...”
หลิวอวิ๋นเซียงหัวเราะออกมาเบา ๆ “ท่านคิดจริงหรือว่าข้าจะมีอิทธิฤทธิ์ปานนั้น?”
สีหน้าของเหยียนมู่เข้มครึมขึ้น มีดสั้นในมือจ่อที่คอของหลิวอวิ๋นเซียง
หลิวอวิ๋นเซียงถอนหายใจหลังจากหัวเราะ “แท้จริงแล้วไม่ต้องให้ท่านลงมือ ข้าก็อยู่ได้อีกไม่นาน”
เหยียนมู่เลิกคิ้วขึ้น “โอ้?”
“ข้าถูกพิษ ชื่อว่าไป๋มู่ อยู่ได้อีกไม่เกินห้าเดือน”
เหยียนมู่ครุ่นคิดอย่างเงียบงัน เขาไม่ได้เชื่อคำพูดของหลิวอวิ๋นเซียงทั้งหมด
“ข้าไม่จำเป็นต้องหลอกท่าน”
“พิษไป๋มู่ชนิดนี้ถอนได้”
“แต่จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์”
เหยียนมู่มองไปที่หลิวอวิ๋นเซียง แววตาเผยความไม่อยากจะเชื่อ
“เพื่อลูกคนนี้ เจ้าไม่ต้องการแม้แต่ชีวิตแล้วหรือ?”
“ขอเพียงให้ลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย แม้ตัวข้าจะตายก็มิเสียใจ”
หลิวอวิ๋นเซียงผลักมือของเหยียนมู่ออก ก่อนจะทิ้งตัวลงซบอิงอกเขาอย่างอ่อนล้า “อย่าฆ่าข้า ท่านคงไม่อยากให้ลูกเติบโตขึ้นมา แล้วตามล้างแค้นท่านในฐานะที่ฆ่ามารดาเขาหรอกกระมัง ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าข้าจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ข้าก็มิเคยคิดร้ายต่อท่าน กลับกัน ข้ายังช่วยท่านไว้ด้วยซ้ำ”
เหยียนมู่รู้สึกสั่นไหวเล็กน้อย “ใครเป็นคนวางยาพิษเจ้า?”
“ข้ามิทราบ แต่ข้าได้รับพิษเมื่อเดือนก่อน ตอนที่ข้าเพิ่งรู้ตัวว่าตั้งครรภ์”
“เมื่อหนึ่งเดือนก่อน…”
แววตาของหลิวอวิ๋นเซียงเป็นประกายวูบไหว กล่าวว่า “บางทีเป้าหมายของคนร้ายอาจจะเป็นลูกในท้องของข้าก็ได้ เขาอาจจะไม่ต้องการให้ท่านมีทายาท”
ในเมื่อเป้าหมายของคนผู้นั้นคือลูกในท้องของนาง แน่นอนว่าจะไม่มีวันยอมให้เด็กน้อยลืมตาดูโลก หากใช้วิธีวางยาพิษไม่ได้ผล ก็ต้องมีแผนการอื่นตามมาอีกเป็นแน่
นางไร้ซึ่งอำนาจ มิอาจต่อกรกับคนร้ายได้ ทางเดียวที่ทำได้คือบอกเรื่องนี้กับเหยียนมู่
แม้เขาจะไม่ได้ใส่ใจในชีวิตของนางและลูก แต่เมื่อเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงตัวเขา เขาย่อมต้องสืบหาความจริง และนั่นจะทำให้คนร้ายเกิดความเกรงกลัวขึ้นบ้าง
“นี่คือเหตุผลที่เจ้าล่อลวงข้ามาในคืนนี้งั้นรึ?”
“ใช่”
“เจ้ายอมสละชีวิตตัวเองเพื่อให้กำเนิดเด็กคนนี้ แล้วต่อไปจะฝากฝังเขาไว้กับใคร?”
“ท่านวางใจเถิด ข้าไม่ได้คิดจะยกให้ท่าน”
เหยียนมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน “เจ้าจะยกให้ข้าก็ได้ ข้าจะบีบคอเขาให้ตายไปเป็นเพื่อนเจ้า”
ร่างของหลิวอวิ๋นเซียงสั่นสะท้าน นางซบหน้าลงกับอกของเหยียนมู่ แต่กลับรู้สึกได้เพียงความเย็นชา
หลังจากส่งเทพเจ้าโรคระบาดอย่างเหยียนมู่ไปพ้นตัวแล้ว หลิวอวิ๋นเซียงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าพอนอนลงบนเตียง ไอเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านอยู่กลางอกกลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่แผ่ไปทั่วแขนขา
นางคิดจะลุกขึ้นนั่ง แต่กลับพบว่ามือเท้าแข็งทื่อ ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ชวีโม่หรานเคยกล่าวไว้ว่า อาการเริ่มแรกของพิษไป๋มู่คืออาการแข็งทื่อของแขนขา…

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน