เข้าสู่ระบบผ่าน

ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน นิยาย บท 4

ทันทีที่เห็นว่าฮูหยินเฒ่ากำลังเดินออกมา หลิวอวิ๋นเซียงจึงรีบดึงตัวจิ่นเยียนออกมาก่อน

หลังจากขึ้นรถม้า จิ่นเยียนก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง

“ฮูหยิน นายท่านสามยังไม่ตาย เขาอยู่กับหญิงอื่น ฮูหยินเฒ่าก็รับรู้เรื่องนี้ด้วย ทั้งยังมอบเงินให้เขาทุกเดือน”

“อืม” หลิวอวิ๋นเซียงพยักหน้ารับเบาๆ

“ทะ...เท่ากับว่าพวกเขากำลังหลอกท่านน่ะสิเจ้าคะ!”

“ใช่” หลิวอวิ๋นเซียงกระซิบ “หลอกได้แนบเนียนเหลือเกิน”

“พวกเขาทำได้อย่างไรกัน!!!”

“ฮูหยินต้องเป็นหม้ายและนำสินเดิมออกมาใส่ในบัญชีกงสี หลังจากฮูหยินใหญ่กับฮูหยินรองออกจากบ้านไป ท่านยังต้องดูแลเด็กๆ จากบ้านใหญ่ บ้านรองและบ้านอื่นๆ อีกหลายคน เพลานี้เพื่อช่วยเหลือนายท่านสอง ทะ...ท่านยังต้องมอบร่างกายให้กับขุนนางกังฉินคนนั้น ขณะที่ฮูหยินเฒ่าชื่นชมเยินยอท่าน แต่ลับหลังกลับด่าท่านว่าเป็นนางจิ้งจอก แล้วยังปิดบัง...”

พูดจบ จิ่นเยียนก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

ส่วนหลิวอวิ๋นเซียงร้องไห้ไม่ออกอีกแล้ว

สองสามวันแรกที่นางย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ นางร้องไห้ไปมากมายเหลือเกิน เพลานี้น้ำตาได้เหือดแห้งและเหลือเพียงความเกลียดชัง

“เหตุใดเมื่อครู่ท่านถึงไม่เข้าไปเปิดโปงพวกเขาเลยล่ะ” จิ่นเยียนพูดอย่างขมขื่น

หลิวอวิ๋นเซียงยิ้มเย้ยหยันด้วยดวงตาเฉียบคม “ข้าอยากให้เซี่ยจื่ออันคุกเข่าบอกข้าเองว่าเขายังมีชีวิตอยู่”

เขากับหญิงคนนั้นต้องการมีชีวิตสงบสุขไม่ใช่หรือ นางจะทำให้พวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตสงบสุขอีกเลย

ส่วนนางจะจัดการกับจวนจิ้งอันโหวอย่างไรน่ะหรือ ก็ทำลายมันทิ้งอย่างไรเล่า!

ทันทีที่หลิวอวิ๋นเซียงกลับบ้าน นางก็ตรงไปที่ห้องบัญชีและนำเงินออกมาจนหมด

กลับมาถึงเรือนอีหลันเซวียน นางจึงให้จิ่นเยียนเรียกจางฉีคนทำงานจิปาถะจากนอกเรือนมาพบ

จางฉีเก่งศิลปะการต่อสู้ อ่านหนังสือและทำบัญชีได้ พ่อของเขาเป็นจวี่เหริน (ชื่อเรียกผู้สอบคัดเลือกขุนนาง) แต่สอบเคอจวี่ทีไรก็ไม่ผ่านทุกครั้งไป จนสุดท้ายก็เสียสติ แม่ของเขาจึงขายเขาที่โตที่สุดในบ้าน เพื่อแลกเงินไปซื้อยารักษาผู้เป็นพ่อ

ชาติที่แล้วนางค้นพบอัจฉริยะคนนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ และอยู่กับนางตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ไม่นาน จิ่นเยียนก็พอจางฉีเดินเข้ามา

เขาเป็นคนร่างสูงแต่ซูบผอม ผิวดำคล้ำ สวมเสื้อทำผ้าหยาบและมีป้ายบนหน้าอก

ดวงตาของหลิวอวิ๋นเซียงพร่าเบลอเล็กน้อยเมื่อเห็นสหายเก่า

“จางฉี เจ้าทำงานอะไรที่นอกเรือน”

จางฉีตอบอย่างตรงไปตรงมา “ซ่อมของ ให้อาหารม้า ปลูกดอกไม้ ช่างไม้ ทำทุกอย่างขอรับ”

ทันใดนั้นหลิวอวิ๋นเซียงก็นึกขึ้นได้ว่าจางฉีเคยบอกกับนาง ว่าเขาเคยฝึกฝนทักษะสิบแปดประเภทที่นอกจวนโหว

“เจ้าอยากทำงานให้ข้าหรือไม่”

จางฉีได้แต่เกาศีรษะแกรกๆ “แต่ข้าน้อยโง่เขลา ไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้กับฮูหยินสามได้บ้าง”

หลังจากส่งจางฉีออกไปแล้ว จิ่นเยียนก็เดินกลับเข้ามาในลานและเห็นหลิวอวิ๋นเซียงมองต้นท้อนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย

“ฮูหยิน เหตุใดต้องซื้อลานไว้เก็บเสบียงด้วยเจ้าคะ”

ฮูหยินมีร้านเสบียงอาหารธัญพืชอยู่แล้ว สามารถซื้อของกินได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องกักตุนเสบียงด้วยซ้ำ

“เมืองเซิ่งจิงของเราจะเกิดความอดอยากน่ะสิ” หลิวอวิ๋นเซียงมองย้อนกลับไปพร้อมกับเอ่ยขึ้น

“เอ๊ะ”

หลิวอวิ๋นเซียงส่งสัญญาณให้จิ่นเยียน “เรื่องนี้เป็นความลับ ต้องไม่เปิดเผยให้คนอื่นรู้เด็ดขาด”

จิ่นเยียนพยักหน้าอย่างเร่งรีบ “บ่าวจะเก็บเป็นความลับ ไม่บอกใครเจ้าค่ะ”

เมื่อเห็นว่าใกล้พลบค่ำ จิ่นเยียนก็เริ่มรู้สึกกังวลเล็กน้อย “ฮูหยิน ท่านจะไม่ไปสวนกล้วยไม้จริงๆ หรือ ใต้เท้าเหยียนอารมณ์ฉุนเฉียว หากเขามาทำให้ท่านต้องอับอาย เกรงว่า...”

เกรงว่าจะรักษาชีวิตไว้ได้อีกต่อไป

หลิวอวิ๋นเซียงส่ายหน้า “ข้าไม่ไป เขามีรักใหม่แล้ว และจะไม่คิดถึงข้าอีก”

ชาติที่แล้วนางจำได้ว่าเหยียนมู่สนใจแต่หยวนชิงเย่ว์ นางไปสวนกล้วยไม้หลายครั้ง แต่ก็ไม่พบผู้ใดเลย จนกระทั่งสามเดือนต่อมาได้รับพระบัญชาให้ออกไปทำสงคราม เขาจึงคิดถึงนางขึ้นมา

เพลานั้นนางได้ทำแท้งไปแล้ว พอเขารู้เรื่องนี้ก็เกือบรัดคอนางจนตาย

และยังบอกอีกว่ารอให้เขากลับมา นางต้องมีบุตรให้เขาอีกคน ชาตินี้อย่าได้คิดไปจากเขาอีกเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน