ทันทีที่เห็นว่าฮูหยินเฒ่ากำลังเดินออกมา หลิวอวิ๋นเซียงจึงรีบดึงตัวจิ่นเยียนออกมาก่อน
หลังจากขึ้นรถม้า จิ่นเยียนก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
“ฮูหยิน นายท่านสามยังไม่ตาย เขาอยู่กับหญิงอื่น ฮูหยินเฒ่าก็รับรู้เรื่องนี้ด้วย ทั้งยังมอบเงินให้เขาทุกเดือน”
“อืม” หลิวอวิ๋นเซียงพยักหน้ารับเบาๆ
“ทะ...เท่ากับว่าพวกเขากำลังหลอกท่านน่ะสิเจ้าคะ!”
“ใช่” หลิวอวิ๋นเซียงกระซิบ “หลอกได้แนบเนียนเหลือเกิน”
“พวกเขาทำได้อย่างไรกัน!!!”
“ฮูหยินต้องเป็นหม้ายและนำสินเดิมออกมาใส่ในบัญชีกงสี หลังจากฮูหยินใหญ่กับฮูหยินรองออกจากบ้านไป ท่านยังต้องดูแลเด็กๆ จากบ้านใหญ่ บ้านรองและบ้านอื่นๆ อีกหลายคน เพลานี้เพื่อช่วยเหลือนายท่านสอง ทะ...ท่านยังต้องมอบร่างกายให้กับขุนนางกังฉินคนนั้น ขณะที่ฮูหยินเฒ่าชื่นชมเยินยอท่าน แต่ลับหลังกลับด่าท่านว่าเป็นนางจิ้งจอก แล้วยังปิดบัง...”
พูดจบ จิ่นเยียนก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
ส่วนหลิวอวิ๋นเซียงร้องไห้ไม่ออกอีกแล้ว
สองสามวันแรกที่นางย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ นางร้องไห้ไปมากมายเหลือเกิน เพลานี้น้ำตาได้เหือดแห้งและเหลือเพียงความเกลียดชัง
“เหตุใดเมื่อครู่ท่านถึงไม่เข้าไปเปิดโปงพวกเขาเลยล่ะ” จิ่นเยียนพูดอย่างขมขื่น
หลิวอวิ๋นเซียงยิ้มเย้ยหยันด้วยดวงตาเฉียบคม “ข้าอยากให้เซี่ยจื่ออันคุกเข่าบอกข้าเองว่าเขายังมีชีวิตอยู่”
เขากับหญิงคนนั้นต้องการมีชีวิตสงบสุขไม่ใช่หรือ นางจะทำให้พวกเขาไม่ได้ใช้ชีวิตสงบสุขอีกเลย
ส่วนนางจะจัดการกับจวนจิ้งอันโหวอย่างไรน่ะหรือ ก็ทำลายมันทิ้งอย่างไรเล่า!
ทันทีที่หลิวอวิ๋นเซียงกลับบ้าน นางก็ตรงไปที่ห้องบัญชีและนำเงินออกมาจนหมด
กลับมาถึงเรือนอีหลันเซวียน นางจึงให้จิ่นเยียนเรียกจางฉีคนทำงานจิปาถะจากนอกเรือนมาพบ
จางฉีเก่งศิลปะการต่อสู้ อ่านหนังสือและทำบัญชีได้ พ่อของเขาเป็นจวี่เหริน (ชื่อเรียกผู้สอบคัดเลือกขุนนาง) แต่สอบเคอจวี่ทีไรก็ไม่ผ่านทุกครั้งไป จนสุดท้ายก็เสียสติ แม่ของเขาจึงขายเขาที่โตที่สุดในบ้าน เพื่อแลกเงินไปซื้อยารักษาผู้เป็นพ่อ
ชาติที่แล้วนางค้นพบอัจฉริยะคนนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ และอยู่กับนางตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ไม่นาน จิ่นเยียนก็พอจางฉีเดินเข้ามา
เขาเป็นคนร่างสูงแต่ซูบผอม ผิวดำคล้ำ สวมเสื้อทำผ้าหยาบและมีป้ายบนหน้าอก
ดวงตาของหลิวอวิ๋นเซียงพร่าเบลอเล็กน้อยเมื่อเห็นสหายเก่า
“จางฉี เจ้าทำงานอะไรที่นอกเรือน”
จางฉีตอบอย่างตรงไปตรงมา “ซ่อมของ ให้อาหารม้า ปลูกดอกไม้ ช่างไม้ ทำทุกอย่างขอรับ”
ทันใดนั้นหลิวอวิ๋นเซียงก็นึกขึ้นได้ว่าจางฉีเคยบอกกับนาง ว่าเขาเคยฝึกฝนทักษะสิบแปดประเภทที่นอกจวนโหว
“เจ้าอยากทำงานให้ข้าหรือไม่”
จางฉีได้แต่เกาศีรษะแกรกๆ “แต่ข้าน้อยโง่เขลา ไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้กับฮูหยินสามได้บ้าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน