หลิวอวิ๋นเซียงก็หิวแล้ว จึงให้จิ่นเยียนหยิบของว่างที่ซื้อมาจากถนนในวันนี้มา
เจ้านายหนึ่งคนรับใช้สองกินกัน หอมหวานอย่างยิ่ง
“อืม รอวันหน้า ข้าจะทำให้พวกเจ้ามีเนื้อกินทุกมื้อ อยากกินอะไรกินเท่าไหร่ก็ได้” หลิวอวิ๋นเซียงกล่าวด้วยคำพูดกล้าหาญ
จิ่นเยียนรินชาให่หลิวอวิ๋นเซียง “ฮูหยิน พวกเราไม่คุยโว ระวังสำลัก”
จื่อจืนพยักหน้าอย่างหนัก “ข้าเชื่อ”
ทันใดนั้นประตูเรือนก็ถูกเคาะเสียงดัง หลิวอวิ๋นเซียงให้จิ่นเยียนไปเปิดประตู
ไม่นาน นางก็นำเจ้าหนูห้าเข้ามา
“นี่เจ้า?” หลิวอวิ๋นเซียงกวาดสายตามองเจ้าหนูห้าที่แบกกระเป๋าของมีค่าสองใบ
เจ้าหนูห้าสะอึกสะอื้น แล้วร้องไห้แง โยนกระเป๋าลงบนพื้น และโผเข้าไปในอ้อมกอดของหลิวอวิ๋นเซียง
“ท่านแม่อยู่ในบ้านเอาแต่ดุด่าแม่สามตลอด ยังพูดว่าท่านทำเองก็รับเอง สมน้ำหน้าโดนไล่ออกจากเรือนตะวันตก ต่อไปนางจะมีวิธีทรมานท่าน ข้าโกรธ จึงทะเลาะกับนาง นางตบหน้าข้า บอกว่าในเมื่อข้าติดตามท่านแม่สาม เช่นนั้นต่อไปก็ติดตามท่านแม่สามซะ”
หลิวอวิ๋นเซียงจับหัวของเจ้าหนูห้า เห็นหน้าข้างซ้ายของสามน้อยบวม รอยฝ่ามือขนาดใหญ่ประทับอย่างชัดเจน นางเป่าด้วยความสงสาร และให้จิ่นเยียนรีบไปเอายาลดบวมมา
เจ้าหนูห้าถามทั้งน้ำตาว่า “แม่สาม ท่านต้องการข้าหรือไม่?”
หลิวอวิ๋นเซียงกอดเจ้าหนูห้า “แม่สามจะไม่ต้องการเจ้าได้อย่างไร”
เจ้าหนูห้าเป็นลูกอนุของบ้านรอง ไม่ได้รับความชื่นชอบจากนายหญิงอย่างเซวียซื่อ ยังถูกแม่นางสี่กลั่นแกล้งบ่อย ๆ เดิมทีนางก็เป็นห่วงสาวน้อยคนนี้ บัดนี้นางขอติดตามนาง นางยินดีอยู่แล้ว
เจ้าหนูห้าได้ฟัง ก็เช็ดน้ำตาหยุดร้องไห้ ยืนขึ้นและถอดเสื้อผ้า
“แม่นางห้า ท่านทำอะไร?” จิ่นเยียนถามด้วยใบหน้าสงสัย
หลิวอวิ๋นเซียงก็มองเจ้าหนูห้าอย่างไม่เข้าใจ เห็นนางถอดเสื้อตัวนอกอย่างประณีต แล้วค่อยถอดเสื้อตัวกลาง ในเสื้อตัวเองมีกระเป๋าสามช่อง
นางหยิบกำไลหยกคู่ แม่กุญแจทอง และก้อนเงินย่อยสามสี่อันออกมาจากกระเป๋า
“กำไลหยกนี้แม่สามเอาให้ข้า แม่กุญแจทองอี๋เหนียงเหลือไว้ให้ข้า เงินข้าได้จากเงินเดือน พี่สี่มักจะขโมยสิ่งของของข้า ข้าเอาซ่อนไว้ในเสื้อจึงไม่โดนนางขโมยไป” เจ้าหนูห้าพูดพร้อมกับเอาข้าวของวางไว้ในมือของหลิวอวิ๋นเซียง “แม่สาม ท่านแม่บอกว่าท่านไม่มีเงินแล้ว ช้าเร็วก็ต้องหิวตาย ของพวกนี้ข้าเอาให้ท่าน ไม่อยากให้ท่านหิวตาย”
หลิวอวิ๋นเซียงมองของในมือ แล้วโอบกอดเจ้าหนูห้า “แม่สามมีเงิน ไม่มีทางหิวตาย และไม่มีทางให้เจ้าหนูห้าได้รับคสามลำบากกับแม่สาม”
จิ่นเยียนเช็ดน้ำตา “ทั้งบ้านนี้ มีแค่แม่นางห้าของพวกเราที่จิตใจดี”
วันต่อมา นายบ่าวสี่คนย้ายมาถึงเรือนมุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งทิ้งร้างมานานวหลังนั้นแล้ว
เรือนนี้เดิมทีมีเจ้าของ เจ้าของคืออนุคนหนึ่งของท่านโหวเฒ่า ไม่รู้ว่าทำไมถึงโดนส่งมาอยู่ที่นี่ สามปีก่อนท่านโหวเฒ่าเสียชีวิต อนุคนนี้ก็ออกบวชแล้ว เรือนหลังนี้จึงไม่ได้นำมาใช้งาน
หลังจากหลิวอวิ๋นเซียงแต่งเข้าจวนโหว ก็ไม่เคยเห็นอนุคนนี้เลย นางอยู่ในเรือนนี้ตลอด ประตูบ้านปิดอย่างแน่นหนา ไม่อนุญาตให้คนรบกวน

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน