เปิดกล่องผ้าเป็นโสมสองต้น ขนาดเท่านี้อย่างน้อยต้องหลายสิบปีถึงร้อยปียังอวบและหนามากอีก
เพราะว่าถนนเข้าเมืองถูกน้ำป่าทำลาย ยาสมุนไพรก็ค่อย ๆ หายากขึ้นโดยเฉพาะยาราคาแพงแบบนี้ ถูกตระกูลใหญ่ซื้อกลับไปเก็บไว้นานแล้ว
อยากซื้อโสมตามตลาดไม่ง่าย ซื้อของดีแบบนี้ได้แทบเป็นไปไม่ได้เลย
“ไปเอามาจากไหน?”
จิ่นเยียนเม้มปากรู้ว่าปิดบังไม่ได้ ทำได้แต่พูดเสียงเล็กว่า “สวนกล้วยไม้”
“เจ้า!”
“ท่านหมอชวีบอกว่า ฮูหยินต้องบำรุงชี่และเลือด จำเป็นต้องใช้โสม แต่โสมซื้อได้ง่ายที่ไหน บ่าวไปร้านยาหลายที่ถึงซื้อได้ชิ้นหนึ่ง เพิ่งหั่นแค่สองแว่น ตอนนั้นไปต้มยาพบว่าหายไปทั้งชิ้นแล้ว”
จิ่นเยียนพูดถึงตรงนี้ก็โกรธจนกัดฟัน “จะต้องเป็นแม่นมหูข้างกายของฮูหยินเฒ่า ข้าเห็นนางเข้าไปในห้องครัว”
“ข้าไม่กล้าบอกฮูหยิน กลัวท่านจะโกรธแล้วเสียสุขภาพ แต่ไม่มีโสมไม่ได้ บ่าวครุ่นคิดแล้วก็ทำได้แค่ไปขอที่สวนกล้วยไม้แล้ว”
หลิวอวิ๋นเซียงถอนหายใจ “ข้างนอกวุ่นวายขนาดนี้ ทำไมเจ้ายังกล้าออกไปข้างนอกคนเดียวต่อไปห้ามทำแบบนี้อีก!”
จิ่นเยียนรีบพยักหน้ายิ้มว่า “ต่อไปไม่กล้าแล้วเจ้าค่ะ”
หลิวอวิ๋นเซียงกลับไปนอนบนเตียง นึกถึงเหยียนมู่ได้รับบาดเจ็บหนักต้องใช้โสมบำรุงร่างกาย เขามีก็ไม่แปลก
ใช้ของเขาสองชิ้น ต่อไปจะต้องคืนเขา อย่างไรก็ห้ามติดค้างเขา
สวนกล้วยไม้ โจวหลี่ไหวมองเหยียนมู่ที่นอนบนเตียง ใบหน้าซีดเผือดไม่มีสีเลือดสักนิดพูดอย่างจนใจว่า “โสมสองต้นนั้นเอาไว้ช่วยชีวิตเจ้า!”
เหยียนมู่เหล่มองโจวหลี่ไหว เพราะว่าอ่อนแอเกินไปไม่มีแรงข่มขู่
“แค่โสมสองต้นเท่านั้น......”
“ใช่สิ ก็แค่โสมสองต้น ยังเป็นของที่เหลือจากฝ่าบาท”
เหยียนมู่ไอ “ข้าไม่ตายง่าย ๆ หรอก”
โจวหลี่ไหวพูดอย่างจนใจ “สถานการณ์ในเมืองตอนนี้คับขันขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หัวหน้าของค่ายใหญ่ชานเมืองอย่างเจ้ารักษาแผลไปตลอดไม่ได้ บอกว่าโสมสองต้นนี้เอาไว้ช่วยชีวิตเจ้า ไม่เกินจริงสักนิดมีแค่เจ้าหายดี ถึงจะนั่งตำแหน่งได้อย่างมั่นคง เจ้าถึงปกป้องตัวเองได้”
เหยียนมู่ยันตัวลุกขึ้น โจวหลี่ไหวจะเข้าไปประคองเขาแต่ถูกเขาผลักออกแล้ว
เขาหายใจสม่ำเสมอลุกขึ้นนั่ง หลังค่อย ๆ ตรงขึ้น ราวกับกระบี่ที่ชุบไฟและหล่อหลอม ย้อมสีแดงเลือดเผยพลังเย็น
สีหน้าเขาดูซีดเซียวเหมือนถูกหิมะน้ำแข็ง แต่ยังคงเป็นต้นเหมยสีแดง เพียงพอให้ทุกอย่างในโลกตกตะลึง
เขาตัวส่ายเล็กน้อย ดวงตาลึกขึ้น
“เดิมข้าคิดว่าชีวิตตัวเองไร้ค่าตายก็ตายไป ไม่เสียดาย แต่ละอายต่อวิญญาณวีรชนร้อยคนของตระกูลเหยียนเท่านั้น”
“เจ้าเจ็ดเป็นแบบนี้อีกแล้ว!”
“แต่ตอนนี้ข้าต้องมีชีวิตอยู่”
โจวหลี่ไหวอึ้ง เหยียนมู่เริ่มสนใจชีวิตของตัวเองตั้งแต่เมื่อไร?

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติรักขุนนางกังฉิน