สะไภ้รองกัดฟัน เธอจะมีสิทธิ์พูดอะไรหล่ะ
เฉียวเหลียนเหลียนมองไปที่สะไภ้คนโต เธอหันกลับมาแล้วอุ้มกู้เกอที่กำลังร้องไห้
“เกอเอ๋อร์อย่าร้องน้า โอ๋ๆ แม่กลับมาแล้ว”
เธอกล่อมเด็กหญิงตัวเล็กๆด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุด และค่อยๆลูบศีรษะกู้เกอเบาๆ
“แม่ เกอเอ๋อร์กลัวมาก” กู้เกอกอดคอเธอแน่น “เกอเอ๋อร์อยากหาแม่”
“แม่อยู่ที่นี่แล้ว” หัวใจของเฉียวเหลียนเหลียนแทบละลาย
พี่สะไภ้มองดูเธอด้วยสายตาว่างเปล่า ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงอ่อนโยน และเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับผู้หญิงที่มีแรงอาฆาตคนเมื่อกี๊
ครอบครัวเหล่าซานไม่เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป
แม้แต่กู้เฉิงยังช่วยปกป้องน้องๆ
“เราไม่กลับไปที่นั่น” เด็กๆพูดเสียงดังฟังชัด และมีความเย็นชา แม้ตัวพวกเขาจะไม่โต แต่ไม่ง่ายที่จะรังแก “นี่เป็นครั้งที่สองที่บุกเข้าบ้าน และดูหมิ่นพวกเรา ถ้าพวกคุณกล้าทำร้ายพี่น้องของผม ผมจะให้พวกคุณชดใช้ด้วยการเลือดตกยางออก"
เด็กตัวแค่นี้กล้าเตือนแล้วเหรอ?
ปากดีจริงๆ
สะไภ้คนโตพูดอย่างไม่สนใจ “ไม่กลับก็ไม่กลับ พวกหมาจิ้งจอกตาขาว ตระกูลกู้เลี้ยงพวกแกเสียข้าวสุกมากว่าครึ่งปี เลี้ยงหมายังดีกว่าพวกแก"
“น้องรอง จ้วงจ้วง กลับบ้าน”
ทั้งสามออกไปพร้อมกัน ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอเดินไปประมาณครึ่งทาง กู้จ้วงก็กระอักเลือด ตาเหลือกและเป็นลมไป
สะไภ้คนโตเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่กู้เฉิงเตือนนั้นหมายถึงอะไร ตอนนี้เสียใจก็สายไปเสียแล้ว เธอได้แต่ร้องห่มร้องไห้พาลูกไปอนามัย
ณ บ้านร้างตระกูลกู้
หลังกินอาหารเย็น เด็กทุกคนก็ผล็อยหลับไป
เฉียวเหลียนเหลียนพูดกับกู้เฉิง “ลูกทำร้ายกู้จ้วงจริงๆ เหรอ?”
“อืม แค่บาดเจ็บเล็กน้อย ไม่กี่วันก็หาย” กู้เฉิงพยักหน้า
เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก และความแข็งแกร่งของเขาคงที่
การชกสองครั้งในตอนเที่ยงดูรุนแรง แต่จริงๆแล้วไม่ร้ายแรง เขาทำเพื่อทำให้ตระกูลกู้ดูหวาดกลัว
เด็กคนนี้ฉลาดจริงๆ
สมควรที่เขาจะเป็นวายร้ายที่โหดเหี้ยมที่สุดในนิยาย
สมัยก่อนที่เฉียวเหลียนเหลียนอ่านหนังสือนิยายเรื่องนี้ เธอได้แต่คิดว่าวายร้ายจะต้องน่ากลัวมาก พวกเขาเป็นมือสังหารที่มองไม่เห็น และยังสามารถทำให้ศัตรูกลายเป็นเถ้าถ่าน
ตอนนี้ เธออยากจะลูบศีรษะเขาเบาๆ
และเฉียวเหลียนเหลียนก็ลูบศีรษะเขาจริงๆ
ผ่านไปซัหพัห
ผมนุ่มมาก เขาไม่ได้ต่อต้านใดๆ
เฉียวเหลียนเหลียนจึงลูบอีกสองสามครั้ง
กู้เฉิงไม่ได้ปฏิเสธ
เฉียวเหลียนเหลียนเกิดความรู้สึกหนึ่งที่อธิบายไม่ได้ เธอตื้นตันใจมาก
จนกระทั่งผมของกู้เฉิงยุ่งเป็นรังนกกระจอก เขาจึงหน้าดำคร่ำเครียด และรีบเบี่ยงตัวหนีจากแม่เลี้ยงเขา
แม่เลี้ยงน่ากลัวจริงๆ
...
แม้ว่าการขายเนื้อแกะพะโล้จะได้รับความนิยมอย่างมาก แต่เมื่อคิดถึงสภาพเศรษฐกิจในเมืองซีหยาง เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้เพิ่มปริมาณหมูตุ๋นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า
เธอยังมีแกะอีกสองตัวที่ยังรอขายจนหมด
เธอไม่ได้แถมให้กับลูกค้าเพื่อกระตุ้นการขาย
แน่นอนว่าวันนี้ขายได้เร็วกว่าเมื่อวาน ภายในครึ่งชั่วใมงก็เหลือเพียงน่องแกะ
“แม้ค้า ทั้งหมดนี่ผมขอเหมา”
ปี้ซงวิ่งไปท้ายแผง แต่เสียงเขานั้นมาก่อนตัวเสียอีก
เฉียวเหลียนเหลียนมีความประทับใจในตัวเขาอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเม้มปากและยิ้ม “นายน้อย คุณกินที่ซื้อไปเมื่อวานหมดหรือยัง เมื่อวานคุณสั่งตั้งสองโลครึ่ง?”
“เนื้อแกะสองโลครึ่งฟังดูเหมือนเยอะ แต่เมื่อกินเข้าไป มันจะหายไปก่อนที่ผมจะรู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ผมคนเดียวที่กิน” ปี้ซงทำหน้าบึ้ง
และนายท่านอยู่ดีๆก็ตื่น ยังไม่ทันได้พุดอะไรก็หอของกิน
เจียงชุนเกลี้ยกล่อมให้นายท่านกินข้าว แต่นายท่านปฏิเสธ
ปี้ซงมีความสุขเล็กน้อยที่เจียงชุนไม่กินแกะ ถ้าเป็นเช่นนี้เขาก็ได้กินมันคนเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...
หลงเมียน้อยจนทำร้ายเมียเอก แถมลูกๆต้องกลายเป็นคนตายทั้งหมดอีก พอมาเจอก็สงสัยอีกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ไม่ควรเป็นพ่อใครเลยจริงๆ...
gเอาล่ะสิๆๆ...
ง้อเมียว่ายาก ง้อลูดยากที่สุด 5555...
คนไม่ซื่อสัตย์...