ขากลับเฉียวเหลียนเหลียนก็นั่งเวียนของลุงขับเกวียนคนเดิม โชคดีที่เธอถามรอบวิ่งเกวียนก่อนทำให้เธอมาทันเวลา
ดูเหมือนลุงจะไม่ชอบเธอมาก และเอาแต่จ้องมองเธอ
เฉียวเหลียนเหลียนไม่สนใจ และขึ้นเกวียนลาพร้อมกับกู้เกอและกระบุงไม้ไผ่
ระหว่างทาง คนอื่นๆในหมู่บ้านเดียวกันเห็นสิ่งที่เธอซื้อก็อดไม่ได้ที่จะถาม
เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้ปิดบัง และกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ฉันขายหนังได้ก็เลยซื้อของใช้ในบ้าน ซื้อข้าวและแป้งสำหรับเด็กๆ”
ดูเหมือนว่าแม่เลี้ยงเปลี่ยนไปแล้ว
ป้าหลายคนจากหมู่บ้านเดียวกันยิ้มและพยักหน้าพร้อมมองไปที่เฉียวเหลียนเหลียน
แน่นอนว่าต้องมีบางคนที่เยาะเย้ยและประชดประชันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า "สุนัขหยุดกินอึไม่ได้ ฉันคิดว่าเธอทำสิ่งเหล่านี้เพื่อตัวเอง คงจะดีถ้าเด็กๆได้กิน"
เฉียวเหลียนเหลียนเหลือบมองเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เธอจำได้ว่าเธอเป็นลูกสะใภ้คนที่สองของป้าจาง และทันใดนั้นก็เธอก็ยิ้มออกมา
“หัวเราะทำไม?” ลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูลจางไม่มีความสุขนัก “คิดว่าเวลาที่ยิ้ม ดูเป็นคนดีนักหรือ สุนัขหยุดกินอึไม่ได้ เฉียวเหลียนเหลียน เธอไม่ใช่คนดี"
“ไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่จะมาตัดสินว่าฉันดีหรือไม่ดี?” เฉียวเหลียนเหลียนชำเลืองมอง “นอกจากนี้ ไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเด็กๆ มันเป็นเรื่องของฉัน ไม่ต้องพูดเรื่องคนอื่นมาก เอาตัวเองให้รอดก่อน"
“การที่ทุบตีเด็กมันสมควรงั้นหรือ?” ลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูลจางโกรธมาก และชี้ไปที่เฉียวเหลียนเหลียน “ครั้งก่อนฉันเห็นด้วยตาของตัวเองว่าเธอทุบจมูกของเด็กหญิงตัวเล็กจนเลือดกำเดาไหล ไม่ใช่ว่าเธอเอาเด็กไปขายกินแล้วเหรอ ไร้หัวใจสิ้นดี”
“อะไรนะ เอาเด็กไปขายกิน”
การแสดงออกของสตรีที่อยู่รอบๆ เปลี่ยนไป
พูดง่ายๆคือเอาลูกไปขายเป็นสะไภ้หาเงินให้ตัวเอง แต่ความจริงแล้ว คือเอาลูกไปขายเป็นทาส และมีครอบครัวชาวนาไม่กี่ครอบครัวที่ยินดีทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม เฉียวเหลียนเหลียนเป็นแม่เลี้ยง และมีประวัติการทุบตีเด็กๆ บางทีเธออาจทำสิ่งนั้นได้จริงๆ
ทันใดนั้น ผู้หญิงหลายคนในรถก็เริ่มพูดคุยกัน
ลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูลจางภาคภูมิใจเมื่อเห็นว่ามีคนสนับสนุนเธอ “คนแบบนี้ไม่สมควรจะให้ขึ้นเกวียนลา ลุงหนิว ไล่เธอลง ปล่อยให้เธอทรมาน เธอไม่ใช่มนุษย์”
ลุงหนิวที่กำลังขับเกวียนลาอยู่มักจะไม่พอใจเฉียวเหลียนเหลียน ลุงหนิวก็เลยหยุดเกวียน
ลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูลจางฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าวผลักเฉียวเหลียนเหลียน เธอพยายามขับไล่เฉียวเหลียนเหลียนลงจากเกวียน
สีหน้าของเฉียวเหลียนเหลียนแข็งทื่อในทันใด เธอกอดกู้เกอแน่นด้วยมือข้างหนึ่ง เธอยกมืออีกข้างตบลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูลจางอย่ารวดเร็ว
"ปั๊วะ" ลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูลตัวแข็งทื่อ
เมื่อเฉียวเหลียนเหลียนเห็นเธอตัวแข็งก็ตบด้วยหลังมืออีกครั้ง
คราวนี้ลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูลจางมีปฏิกิริยาตอบโต้ เธอปิดหน้าปิดตาและร้องไห้
การต่อสู้ของผู้หญิงในชนบทนั้นดังกว่าการกระทำ ส่วนใหญ่ร้องไห้ กรีดร้อง และผลักนั้นไม่มีใครเคยเห็นการตบที่เรียบร้อยขนาดนี้ และทุกคนในเกวียนยืนนิ่ง
แม้แต่ลูกสะใภ้คนที่สองของตระกูลจางก็ยังรู้ว่าต้องร้องไห้ และลืมที่จะต่อสู้กลับ
“อ้าปากพูดก็ได้แต่พูดว่าขายลูกกิน เป็นหนอนในท้องฉันเหรอ? ฉันทำอะไรก็รู้ไปหมด ครั้งก่อนมาแย่งแกะถึงบ้าน ครั้งนี้ตั้งใจทำร้ายฉันกับลูก คิดว่าฉันไม่มีผู้ชาย ง่ายต่อการรังแกงั้นเหรอ?”
เฉียวเหลียนเหลียนโต้ตอบอย่างตรงไปตรงมา "และครั้งสุดท้ายที่ครอบครัวของเธอจะมาแย่งแกะไป พวกเธอคิดอะไรอยู่ก็รู้อยู่แก่ใจ คิดว่าฉันกลัวตายเหรอ อย่าคิดว่าจะทำอะไรก็ได้"
หลังจากที่เธอพูดจบ เธออุ้มกู้เกอไว้ในมือข้างหนึ่ง และอีกมือหนึ่งถือกระบุงไม้ไผ่ และก้าวลงจากเกวียนลา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...
หลงเมียน้อยจนทำร้ายเมียเอก แถมลูกๆต้องกลายเป็นคนตายทั้งหมดอีก พอมาเจอก็สงสัยอีกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ไม่ควรเป็นพ่อใครเลยจริงๆ...
gเอาล่ะสิๆๆ...
ง้อเมียว่ายาก ง้อลูดยากที่สุด 5555...
คนไม่ซื่อสัตย์...