เมื่อเห็นเจียงเฉิงปรากฏตัว พี่เป้าที่มีสีหน้าโหดเหี้ยมเมื่อครู่นี้ก็ตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นมาจากหน้าผาก
เพราะเขายังจำได้ว่าครั้งก่อนเขาพาคนไปหาเรื่องเจียงเฉิงตั้งสิบกว่าคน ผลก็คือถูกจัดการจนไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบโต้ ตัวเขาเองก็แทบเอาชีวิตไม่รอด
คราวก่อนพี่เป้าตกใจกลัวจนสภาพดูน่าสมเพช เขานึกอยากจะออกมารังควานคนธรรมดาๆ เพื่อดึงศักดิ์ศรีคืนมาเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้อง ตราบใดที่ไม่ไประรานแผงขายของเล็กๆ ของแม่สาวน้อยนั่นก็ไม่เป็นไร เพราะแม่สาวคนนั้นคือคนที่อยู่ในความคุ้มครองของเจียงเฉิง แต่การรังควานสามีภรรยาแก่ๆ คู่นี้ไปทำให้มีปัญหาได้อย่างไร
“พะ... พี่ใหญ่ มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ” พี่เป้าแย้มยิ้มอย่างหวาดกลัวและรีบถาม
“นายถึงขนาดกล้ามารังควานพ่อแม่ของฉัน ฉันจะไม่มาได้ยังไง” เจียงเฉิงเอ่ยเสียงเย็น
พี่เป้าได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองสวีฟางกับเจียงหงเฟยอย่างประหลาดใจ สองคนนี้คือพ่อแม่ของเจียงเฉิงงั้นเหรอ
นี่ไม่น่าจะเป็นแผงขายของน้องสาวเขาไม่ใช่หรือ? ทำไมวันนี้ถึงเปลี่ยนคนได้ล่ะ นอกจากนี้มันยังไม่ใช่ตรงนี้ด้วย พี่เป้าสอบถามมาดีแล้วว่าร้านน้องสาวของเจียงเฉิงไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงกล้ามาเก็บค่าคุ้มครองอย่างไม่หวั่นเกรง หรือว่าสองสามีภรรยาคู่นี้จงใจเล่นงานเขา เลยเปลี่ยนที่ขายเพื่อขุดหลุมฝังเขาโดยเฉพาะ
คราวก่อนแค่รังควานน้องสาวของเจียงเฉิงเขาก็ยับเยินจะแย่ คราวนี้ยังกล้ามารังควันพ่อแม่ของเขา แบบนี้เขาไม่ต้องตายโดยไม่มีที่ฝังหรอกเรอะ
พี่เป้ารีบปาดเหงื่อบนใบหน้า จากนั้นจึงก้าวไปหาพ่อแม่ของเจียงเฉิงและยิ้มให้อย่างนอบน้อมก่อนจะบอกว่า “คุณอาทั้งสองเข้าใจผิดแล้วครับ ผมรู้ว่าพวกท่านออกมาขายของกันอย่างเหนื่อยยาก วันนี้ตั้งใจมาที่นี่เพื่อมอบเงินให้พวกท่าน”
พี่เป้าว่าแล้วจึงตะโกนไปด้านหลัง “รีบเอาเงินที่ได้มาวันนี้มาให้หมด”
พวกอันธพาลลูกกระจ๊อกไม่กล้ารีรอ รีบนำเงินค่าคุ้มครองที่เก็บมาได้มาวางลงบนรถเข็นขายอาหาร รวมๆ แล้วมีกว่าหลายพันหยวน
พี่เป้าเหลือบมองเจียงเฉิงที่ยังมีสีหน้าเย็นชา เขารีบปลดโซ่ทองที่คล้องคอด้วยมืออันสั่นเทาและวางลงบนรถเข็นของกิน จากนั้นจึงบอกว่า “นั่นนะ... เมื่อครู่มือของผมไปสะบัดโดนโต๊ะตัวนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ โซ่ทองนี่ ถือว่าเป็นค่าชดใช้นะครับ”
“พี่ใหญ่ แบบนี้ใช้ได้ไหมครับ” พี่เป้าเหงื่อผุดพรายดังสายฝนขณะเอ่ยกับเจียงเฉิงด้วยรอยยิ้ม นึกกลัวว่าเจียงเฉิงจะสอนบทเรียนกับเขาอีก
เจียงเฉิงค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าและเอ่ยด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ต่อไปถ้าแกยังกล้ามาทำชั่วที่นี่อีก ระวังน้องชายของแกเอาไว้”
ทันทีที่สิ้นเสียง พี่เป้าก็รู้สึกได้ถึงลมที่พัดผ่านมาตรงช่วงล่างของเขา เขารีบพยักหน้าหงึกหงักและบอกว่า “ทราบแล้วครับๆ”
“ไสหัวไปซะ!”
“ครับๆๆ!”
พี่เป้าเห็นเจียงเฉิงออกคำสั่งแบบนั้นก็รีบพาลูกน้องไปจากที่นี่ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง